เปิดไทม์ไลน์ ปฏิบัติการสยบชายคลั่งกราดยิงเพชรบุรี ก่อนปิดฉากวิสามัญ

กรณีชายคลุ้มคลั่งกราดยิงที่เพชรบุรี ซึ่งข่าว 3 มิติ ส่งทีมข่าวลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ ต่อเนื่องตั้งเเต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ การเเถลงของตำรวจ ยืนยันว่า คนร้ายไม่ยอมเจรจา-เเละมีพฤติกรรมยิงต่อสู้ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่บุกจู่โจม วิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตบนชั้น 2 ของบ้าน ผู้สื่อข่าว 3 มิติ



เมื่อการเจราไม่เป็นผล ราวเที่ยงคืน 15 นาที ปฏิบัติการสยบชายคลุ้มคลั่งก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ภารกิจเเรกคือการลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนออกมา โดยอาศัยรถยนต์หุ้มเกราะของหน่วยคอมมานโด เป็นโล่บังกระสุน ผ่านไปราว 45 นาที ภารกิจเเรกสำเร็จ ร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน ถูกทยอยลำเลียงออกมาด้านนอก เป้าหมายต่อไปคือการค้นหาตำเเหน่งเเละจุดซ่อนตัวของคนร้าย



ในช่วงตี 1 เศษ โดรนตำรวจขึ้นบินอยู่เหนือหลังคาบ้านอีกครั้ง หลังคนร้ายใช้ความมืดอำพรางตัว เเละพยายามใช้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านมาวางทำเป็นบังเกอร์ คอยสอดส่องความเคลื่อนไหว ยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายครั้ง



เจ้าหน้าที่วิเคราะห์จากลักษณะการยิงเเบบ Double Tap หรือยิงแบบ 2 นัดติด เชื่อว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะได้รับการฝึกยิงปืนมาก่อน ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด และชุดนเรศวร 261 กระชับพื้นที่ขยับเข้าใกล้บ้าน ใช้กล้องค้นหาตำเเหน่งเเละพบว่า คนร้ายยังซ่อนตัวบนชั้น 2



ทีมข่าว 3 มิติ เฝ้าสังเกตการณ์อยู่รอบนอก ระหว่างนั้นมีเสียงปืนดังออกมาจากบ้านอีกหลายนัด นานต่อเนื่องหลายนาที

ประมาณตี 2 ปฏิบัติเริ่มขึ้นอีกเป็นครั้งที่ 3 มีเสียงปืนดังต่อเนื่องราว 30 นัด ในช่วง 20 นาที ก่อนจะเงียบเเละทิ้งช่วงไปนานกว่า 1 ชั่วโมง ประมาณตี 3 ครึ่ง ตำรวจใช้โดรน 2 ตัว บินสำรวจรอบบ้าน มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 10 นัด ดังออกมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ เมื่อมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุไม่อยู่ชั้นล่าง ชุดอินทรีย์ 7 และ นเรศวร 261 จึงส่งกำลังบุกเข้าไปยึดพื้นที่ชั้น 1 และจู่โจมขึ้นไปชั้น 2 ตามรายงานระบุว่า คนร้ายพยายามยิงตอบโต้หลายนัด ก่อนจะถอนร่นเเละถูกวิสามัญฆาตกรรม กระสุนเจาะเข้าบริเวณศรีษะ เสียชีวิตในโถงหน้าหิ้งพระ



ทีมพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากภาพจะเห็นว่าบนระเบียงชั้น2 เเละตามประตูหน้าต่าง ปรากฏร่องรอยชัดเจน ส่วนอาวุธที่ใช้ พบว่าเป็นปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก และปลอกกระสุนที่ยิงแล้วไม่ต่ำกว่า 50 นัด



ส่วนร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมด ญาติได้ทยอยเดินทางมารับศพที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า เพื่อเคลื่อนกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ขณะครอบครัวของเหยื่อบางราย นิมนต์พระ เข้ามาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณในที่เกิดเหตุ



สำหรับสาเหตุ เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียด ที่ต้องไปขึ้นศาลเป็นครั้งที่ 3 และทางทนายคู่ความ ได้เรืยกค่าเสียหายเป็นเงิน 1 แสนบาท เเต่ผู้ก่อเหตุไม่รายได้ มีรายงานว่าก่อนก่อเหตุ นั่งดื่มสุราทั้งคืน นอกจากนี้ยังพบประวัติยาเสพติดในช่วงมัธยม มีคดีทำร้ายร้างกาย เเละเคยถูกจับขับขี่ขณะมีสารเสพติดในร่างกาย