สังคม
ชาวบ้านเล่าเหตุ หนุ่มหมัดหนักต่อยแหลก เจ็บ 5 ชรบ.สมองตาย รับดื่มเหล้า-เสพยา เคยเรียนมวย
โดย passamon_a
3 ม.ค. 2568
215 views
ชรบ. เหยื่อหนุ่มหมัดหนัก อยู่ในภาวะสมองตาย ส่วนผู้ก่อเหตุเคยเรียนมวย เพิ่งพ้นโทษข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจ และมีประวัติใช้ยาเสพติด จ่อโดนแจ้งข้อหาเพิ่ม
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ดอกสะแบง คืนถิ่น โพสต์คลิปเหตุการณ์ ชายเสื้อดำรูปร่างสูงใหญ่เดินบวกหมัดชกแหลกใส่คนที่มาร่วมงานรถแห่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ อปพร. และ ชรบ. จนร่วงลงกับพื้นบาดเจ็บหลายราย กระทั่งชาวบ้านทนไม่ไหว เข้าไปรุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุจนวิ่งหลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงค่ำ วันที่ 1 มกราคม 2568 ที่วัดบ้านไร่ ตำบลไร่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.พรรณานิคม ตามไปจับกุมตัว นายตั้ม หรือ นายกิตติชาติ อายุ 38 ปี ที่บ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ โดยนายตั้มยอมให้จับแต่โดยดี สภาพมีบาดแผลบนใบหน้าและร่างกาย เพราะโดนชาวบ้านประชาทัณฑ์ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกนายตั้มทำร้าย มี 5 ราย หนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส คือ นายสมชาย ฟองอ่อน อายุ 44 ปี เจ้าหน้าที่ ชรบ.ชุดดำ
สอบถาม นางปราณี ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายตั้มเอาเท้าไปยันหลัง อปพร.ผู้หญิง เมื่อเจ้าหน้าที่ ชรบ.เข้าไปห้ามปราม กลับถูกนายตั้มต่อยร่วงไปทีละคน ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยก็ต้านไม่ไหว กระทั่งเกิดการรุมประชาทัณฑ์นายตั้ม ซึ่งตนรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์มาก เพราะนายตั้มมักจะก่อเรื่องวุ่นวายทุกครั้งที่มีงานรื่นเริงต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่ผ่านมาชาวบ้านเห็นว่าเป็นลูกหลานคนในชุมชนและเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงไม่เอาเรื่องเอาราว คิดว่าครอบครัวคงพาไปบำบัดแล้ว แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ต่อมาช่วงเที่ยง วันที่ 2 ม.ค.68 ที่ สภ.พรรณานิคม พนักงานสอบสวนคุมตัวนายตั้ม ออกจากห้องคุมขังมาสอบปากคำ โดยนายตั้มมีสภาพอิดโรย ใบหน้าปูดบวม มีแผลแตกที่ศีรษะ พูดจาวกวนไปมา อ้างว่ามีคนจะมาฆ่าตน ตนจึงออกไปให้เขาฆ่า แต่ไม่มีใครฆ่าตน ตนก็สู้ตาย เขายิงผม 3 นัด
พ.ต.อ.กัมปนาท เศรษฐ์ฤทธิกุล ผกก.สภ.พรรณานิคม เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายตั้มเบื้องต้น ยอมรับว่า ก่อนก่อเหตุ ดื่มเหล้าและเสพยาเสพติดด้วย จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ส่วนผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 5 ราย โดยมี 1 รายที่อาการสาหัส ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงแจ้งข้อหานายตั้มอีก 1 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มว่า เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้าย เป็นชุดรักษาความปลอดภัยที่ทางอำเภอแต่งตั้งหรือไม่ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้อง ก็จะเพิ่มข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงานด้วย รวมทั้งรอผลการรักษาของผู้บาดเจ็บ ว่ามีอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตหรือไม่
ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเมา ซึ่งผู้ก่อเหตุดื่มสุรา และทั้งสองฝ่ายก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน จากการตรวจสอบประวัตินายตั้ม พบว่าเคยมีคดีก่อเหตุทะเลาะวิวาท แล้วตำรวจไประงับเหตุ นายตั้มก็ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของตำรวจ จนถูกดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจ เมื่อปี 2566 ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน ก็มาก่อเหตุขึ้นอีก
กรณีที่มีการพูดกันว่า นายตั้มเป็นผู้ป่วยจิตเวชหรือไม่นั้น มีข้อมูลว่ามีประวัติการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยยาเสพติด ส่วนกรณีที่คนสงสัยว่าเป็นนักมวยหรือไม่ จากการตรวจสอบทราบว่า เคยฝึกมวยตามความชอบ แต่ไม่เคยสังกัดค่ายมวย หรือขึ้นเวทีชกมวยแต่อย่างใด
ขณะที่บรรยากาศที่บ้านของนายสมชาย เจ้าหน้าที่ ชรบ.ชุดดำ ที่ถูกนายตั้มทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส มีเพื่อนบ้านและญาติ ๆ เดินทางมารอฟังข่าวอาการของนายสมชาย โดยนางลำดวน พี่สาวของผู้บาดเจ็บ บอกว่า ตอนนี้น้องชายมีอาการวิกฤต มีภาวะสมองตายจากการล้มศีรษะด้านหลังฟาดพื้น อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งญาติตัดสินใจจะยื้อชีวิตไว้ให้นานที่สุด
พี่สาวยังบอกว่า รู้จักกับผู้ก่อเหตุดี เพราะเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน แต่น้องชายตนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ก่อเหตุ คิดว่าน่าจะมาจากความเมาแล้วคุมสติไม่ได้ ตนและครอบครัวเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะน้องชายมีลูกอายุ 10 และ 11 ปี หากเกิดอะไรขึ้น ตนก็จะรับลูก ๆ ของน้องชายมาดูแล
ส่วน แม่ดอน เพื่อนบ้านของนายสมชาย บอกว่า นายสมชายเป็นคนนิสัยดี ชอบเป็นจิตอาสา ช่วยเหลืองานบุญและงานในหมูบ้าน เป็นที่รักใคร่ของคนในชุมชน เพราะเวลาใครมีปัญหาเดือดร้อน นายสมชายก็จะไปช่วยเหลือทุกคน พอทราบข่าว พวกตนก็ตกใจมาก เลยมาติดตามข่าวและภาวนาให้นายสมชายอาการดีขึ้น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pm1WUHM6Euc
แท็กที่เกี่ยวข้อง สมองตาย ,หนุ่มหมัดหนัก ,ต่อยแหลกหน้ารถแห่