สังคม
รวบแม่บ้านใจร้าย ทำร้ายยายติดเตียงวัย 85 ครอบครัวเอะใจ วงจรปิดมัด ตัดสินใจแจ้งจับ
โดย passamon_a
19 ธ.ค. 2567
158 views
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ชุดสืบนครบาลได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.นภสร หรือ กระต่ายแสนกล อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พา ยายฮวย วัย 85 ปี เข้าพบ ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้าน น.ส.นภสร หรือ กระต่าย ที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ
โดยกล้องวงจรปิดได้มีการบันทึกภาพไว้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.12 น. เป็นภาพขณะที่นางกระต่ายกำลังเปลี่ยนแพมเพิสให้กับคุณยาย ระหว่างที่เปลี่ยนนางกระต่ายก็มีท่าทีที่เหมือนต่อว่าคุณยาย ก่อนที่จะตีคุณยายไป 2 ครั้ง
ต่อมากล้องวงจรปิด วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.28 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่นางกระต่ายกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าและแพมเพิส ให้คุณยาย แต่จะเห็นว่านางกระต่ายมีการพลิกตัวคุณยายไปมาค่อนข้างแรง หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าและแพมเพิส เรียบร้อย นางกระต่ายก็มีการดึงตัวคุณยายให้ไปนอนบนหมอน ซึ่งจากภาพจะเห็นว่านางกระต่ายดึงตัวคุณยายแรงมาก ดึงตัวคุณยายเสร็จก็มีการมาหยุดยืนต่อว่าคุณยายต่อ
ต่อมาวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.08 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพตอนที่นางกระต่ายกำลังป้อนข้าวคุณยายอยู่ จะเห็นว่านางกระต่ายได้เอาช้อนกระแทกปากคุณยายหนึ่งครั้ง ก่อนที่คุณยายเหมือนจะยกมือขึ้นมาตีนางกระต่าย และทำให้นางกระต่ายโมโห วางชามข้าวลงและจับแขนคุณยายมาบิดอยู่ซักพักนึง ก่อนที่จะสะบัดแขนคุณยายออก
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 ทีมข่าวจึงได้มาพูดคุยกับ นายมานพ ซึ่งเป็นลูกเขยของยายฮวย โดยนายมานพ เล่าว่า ยายฮวยป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และติดเตียง ก่อนหน้านี้ก็มีแม่บ้านที่เป็นชาวต่างด้าวที่คอยดูแล แต่แม่บ้านคนก่อนต้องการที่จะลาออก ตนจึงได้โพสต์หาแม่บ้านคนใหม่ในเพจเฟซบุ๊ก ที่ชื่อว่า หาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งก็มีหลายคนที่มาสมัคร พอทักไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดบางรายก็ไม่ตอบ หรือบางรายก็นัดมาคุยแล้วก็ไม่น่าไว้ใจ จนเหลือตัวเลือกสุดท้ายคือ นางกระต่าย และพบว่าตัวนางกระต่ายอาศัยอยู่ที่ปทุมธานี บริเวณคลอง 1 ซึ่งก็ใกล้กับที่ทำงานของตน จึงได้สินใจทักไปคุย แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะรับนางกระต่ายมาทำงาน
จนกระทั่งวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ได้นัดแม่บ้านไว้หนึ่งคน ซึ่งเป็นคนที่คาดหวังว่าจะรับมาเป็นแม่บ้านประจำบ้าน ปรากฏว่าแม่บ้านคนดังกล่าวไม่มา จึงตัดสินใจรับนางกระต่ายมาเป็นแม่บ้าน ตกลงค่าจ้างกันอยู่ที่วันละ 500 บาท ทำงานตั้งแต่ 06.30 ถึง 17.00 น. มีหน้าที่แค่เพียงดูแลคุณยายเท่านั้น นายมานพกับภรรยาตัดสินใจว่าให้นางกระต่ายอาศัยอยู่ที่บ้านไปเลย เมื่อนางกระต่ายเข้ามาอยู่ในบ้านผ่านไปสามวันก็พบความผิดปกติ กล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้เหมือนมีคนดึงปลั๊กออก จึงได้ไปถามนางกระต่าย ซึ่งเจ้าตัวตอบว่าคุณยายเป็นคนที่ดึงออกเอง แต่ในความเป็นจริงคุณยายทำไม่ได้ เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีแรงมากพอ
หลังจากเหตุการณ์นั้นตนก็เก็บความสงสัยไว้ แล้วก็เริ่มมาสังเกตคุณยาย พบว่าคุณยายมีความผิดปกติ คุณยายเริ่มเป็นซึมเศร้า จนกระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ตนและภรรยาพบว่าคุณยายมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย และที่บริเวณปากคุณยายมีรอยช้ำขนาดใหญ่ เหมือนกับโดนกระแทก จึงให้คุณยายอ้าปากพบว่า ฟันคุณยายหักหนึ่งซี่ จึงถามนางกระต่ายว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณยาย แต่นางกระต่ายอ้างว่าคุณยายกัดฟันจนทำให้ฟันหักเอง และขณะที่คุณยายกัดฟันตัวเอง นางกระต่ายก็อ้างว่าตนเองกำลังไปซักผ้า ตนและภรรยาจึงไปดูก็ไม่เห็นผ้าที่ซักแล้วตากไว้แต่อย่างใด จึงทำให้ตนและภรรยาเริ่มเอะใจ และเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนางกระต่าย
หลังจากเหตุการณ์นั้น พบว่านางกระต่ายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีท่าทีที่นิ่งเฉยใส่ตนและภรรยา เวลาชวนคุยก็มันจะไม่ตอบโต้ ตั้งแต่วันนั้นก็ได้มีการกดบันทึกกล้องวงจรปิดไว้ตลอด จนกระทั่งวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ภรรยาส่งคลิปกล้องวงจรปิดมาให้ดูเป็นช่วงที่นางกระต่ายทำร้ายคุณยายโดยการทุบตี ทำให้ตนโกรธ และรู้สึกทนไม่ไหว ตัดสินใจลางานกลับไปที่บ้าน พร้อมกับพี่ชายที่เป็นทนาย เมื่อไปถึงที่บ้านนางกระต่ายก็ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายคุณยาย แต่ตนมีคลิปกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐาน จึงทำการเค้นถามจนนางกระต่ายยอมรับว่าทำร้ายร่างกายคุณยายจริง และท้าทายให้ตนไปแจ้งความที่โรงพักไหนก็ได้
ตน ภรรยา และพี่ชาย จึงตัดสินใจนำตัวนางกระต่ายจะไปแจ้งความใน สน.ใกล้บ้าน จังหวะที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน นางกระต่ายอ้างว่าลืมสายชาร์จไว้ที่โทรศัพท์ เมื่อกลับไปเอาที่บ้านไม่รู้ว่านางกระต่ายเจรจาอะไรกับภรรยา ทำให้ภรรยาใจอ่อน รู้เพียงแค่นางกระต่ายบอกว่าจะมาไหว้ขอขมาคุณยาย ตนจึงบอกให้นางกระต่ายกราบขอโทษคุณยายตอนนั้นเลย ซึ่งบอกอยู่หลายรอบนางกระต่ายก็ไม่ยอมทำ เอาแต่ยืนนิ่ง จนสุดท้ายนางกระต่ายก็ยอมกราบคุณยาย จากนั้นตนก็ขับรถไปส่งนางกระต่ายที่รถไฟฟ้าสายสีชมพู พร้อมให้ค่าจ้างครบถ้วนเพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างต่อกัน
สุดท้ายตนเป็นหัวหน้าครอบครัว จึงมองว่าเหตุการณ์นี้มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วน่าจะเคยมีประวัติก่อเหตุแบบนี้มาก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดไปร้องที่เพจสายไหมต้องรอด ก่อนที่ทางเพจสายไหมต้องรอจะประสานงานกับตำรวจ สน.มีนบุรี ให้ดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จนล่าสุดตนรู้สึกดีใจที่สืบนครบาลสามารถจับกุมนางกระต่ายได้แล้ว เพราะเป็นเหมือนการกำจัดภัยสังคม ซึ่งเป็นมนุษย์ที่โหดร้ายต่อสังคม ซึ่งกังวลว่าถ้าปล่อยตัวเขาไปเขาจะไปทำร้ายคนอื่นอีกหรือไม่เราก็ไม่รู้ จึงมองว่าถ้าตอนนั้นตนปล่อยให้มันผ่านไปก็เหมือนตนทำบาปกับคนอื่น
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงนางกระต่ายหรือไม่ นายมานพ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับจิตของเขาว่าจะปรับตัวได้หรือไม่ ถามว่าสังคมจะให้อภัยเขาไหมก็มองว่าทุกวันนี้สังคมให้อภัยคนที่ไม่ดีแต่กลับใจเป็นคนดีได้อยู่แล้ว แต่ถ้านิสัยของคุณไม่เปลี่ยนก็คงจะลำบากและอยู่ในสังคมอย่างลำบาก และสังคมก็พร้อมจะลงโทษคุณได้เสมอ พร้อมกล่าวขอบคุณชุดสืบนครบาลที่ทำการจับกุมในครั้งนี้
พร้อมบอกว่า ตอนนี้อาการของคุณยายก็เป็นไปตามโรคที่เป็นอยู่ แต่ก็ดีขึ้น ยังคงสื่อสารได้อยู่บ้าง และตอนนี้ได้มีการจ้างแม่บ้านคนใหม่มาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแม่บ้านคนปัจจุบันดูแลคุณยายเป็นอย่างดี
ต่อมาทีมข่าวได้ลงมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ สน.มีนบุรี ได้ข้อมูลมาว่า หลังจากที่ชุดสืบนครบาลเข้าทำการจับกุมนางกระต่าย ทางชุดสืบนครบาลก็ได้นำตัวนางกระต่าย มาควบคุมตัวไว้ที่ สน.มีนบุรี เป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้หลังจากที่ครอบครัวคุณยายได้มีการแจ้งความไว้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 พนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ทำการออกหมายเรียกผู้ต้องหาถึงสองครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวน จนพนักงานสอบสวนไปขออำนาจศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับนางกระต่าย ในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย
โดยหลังจากที่ออกหมายจับ ชุดสืบนครบาลก็ได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะนำตัวมาควบคุมตัวไว้ที่ สน.มีนบุรี และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลอาญามีนบุรี
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Z_CyeNqgDec