อาชญากรรม

ลูกเขยดีใจ ตำรวจจับแม่บ้านทำร้ายคุณยาย เผยคิดถูกที่แจ้งความ ไม่ปล่อยให้เป็นภัยสังคม

โดย nutda_t

18 ธ.ค. 2567

525 views

หลังจากที่ชุดสืบนครบาลได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส. นภสร หรือ “กระต่ายแสนกล” อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พายายฮวย วัย 85 ปี เข้าพบผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับแม่บ้าน น.ส.นภสร หรือ กระต่าย ที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวย จนได้รับบาดเจ็บ

ทีมข่าวช่อง 3 จึงได้มาพูดคุยกับ นายมานพ ซึ่งเป็นลูกเขยของ ยายฮวย เล่าว่ายายฮวย ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และติดเตียง ก่อนหน้านี้ก็มีแม่บ้านที่เป็นชาวต่างด้าวที่คอยดูแล แต่แม่บ้านคนก่อนต้องการที่จะลาออก ตนจึงได้โพสต์หาแม่บ้านคนใหม่ในเพจชื่อว่า “หาพนักงานดูแลผู้สูงอายุ” ซึ่งก็มีหลายคนที่มาสมัคร พอทักไปพูดคุยสอบถามรายละเอียดบางรายก็ไม่ตอบ หรือบางรายก็นัดมาคุยแล้วก็ไม่น่าไว้ใจ จนเหลือตัวเลือกสุดท้าย คือ “นางกระต่าย” และพบว่าตัวนางกระต่าย อาศัยอยู่ที่ปทุมธานี บริเวณคลอง 1 ซึ่งใกล้กับที่ทำงานของตน จึงได้สินใจทักไปคุย แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะรับนางกระต่าย มาทำงาน

จนกระทั่งวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ได้นัดแม่บ้านไว้หนึ่งคน ซึ่งเป็นคนที่คาดหวังว่าจะรับมาเป็นแม่บ้านประจำบ้าน ปรากฏว่าแม่บ้านคนดังกล่าวไม่มา จึงตัดสินใจรับนางกระต่าย มาเป็นแม่บ้าน ตกลงค่าจ้างกันอยู่ที่วันละ 500 บาท ทำงานตั้งแต่ 6.30 ถึง 17.00 น. มีหน้าที่แค่เพียงดูแลคุณยายเท่านั้น ตนและภรรยา ตัดสินใจว่าให้นางกระต่าย อาศัยอยู่ที่บ้านไปเลย เมื่อนางกระต่าย เข้ามาอยู่ในบ้าน ผ่านไป 3 วัน ก็พบความผิดปกติกล้องวงจรปิดใช้การไม่ได้ เหมือนมีคนดึงปลั๊กออก จึงได้ไปถามนางกระต่าย ซึ่งเจ้าตัวตอบว่าคุณยายเป็นคนที่ดึงออกเอง แต่ในความเป็นจริงคุณยายทำไม่ได้ เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียงและไม่มีแรงมากพอ

หลังจากเหตุการณ์นั้น ตนก็เก็บความสงสัยไว้ แล้วก็เริ่มมาสังเกตคุณยาย พบว่าคุณยายมีความผิดปกติ คุณยายเริ่มเป็นซึมเศร้า จนกระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ตนและภรรยาพบว่าคุณยายมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย และที่บริเวณปากคุณยายมีรอยช้ำขนาดใหญ่ เหมือนกับโดนกระแทก จึงให้คุณยายอ้าปาก พบว่าฟันคุณยายหัก 1 ซี่ จึงถามนางกระต่ายว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางกระต่าย อ้างว่าคุณยายกัดฟันจนทำให้ฟันหักเอง และขณะที่คุณยายกัดฟันตัวเอง นางกระต่ายก็อ้างว่าตนเองไปซักผ้า ตนและภรรยาจึงไปดู ก็ไม่เห็นผ้าที่ซักแล้วตากไว้แต่อย่างใด จึงทำให้ตนและภรรยาเริ่มเอะใจ และเริ่มสังเกตพฤติกรรมของนางกระต่าย

พบว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น นางกระต่าย มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีท่าทีที่นิ่งเฉยใส่ตนและภรรยา เวลาชวนคุยก็จะไม่ตอบโต้ ตั้งแต่วันนั้นก็ได้มีการกดบันทึกกล้องวงจรปิดไว้ตลอดจน กระทั่งวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ภรรยาส่งคลิปกล้องวงจรปิดมาให้ดู เป็นช่วงที่นางกระต่าย ทำร้ายคุณยาย โดยการทุบตี ทำให้ตนโกรธ และรู้สึกทนไม่ไหว ตัดสินใจลางานกลับไปที่บ้าน พร้อมกับพี่ชายที่เป็นทนาย เมื่อไปถึงที่บ้าน นางกระต่ายก็ยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายคุณยาย แต่ตนมีคลิปกล้องวงจรปิดที่เป็นหลักฐาน จึงเค้นถามจนนางกระต่าย ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายคุณยายจริง และท้าทายให้ตนไปแจ้งความที่โรงพักไหนก็ได้

ตน ภรรยา และพี่ชาย จึงตัดสินใจนำตัวนางกระต่าย ไปแจ้งความใน สน.ใกล้บ้าน จังหวะที่กำลังจะออกจากหมู่บ้าน นางกระต่าย อ้างว่าลืมสายชาร์จโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน เมื่อกลับไปเอา ไม่รู้ว่านางกระต่าย เจรจาอะไรกับภรรยา ทำให้ภรรยาใจอ่อน รู้เพียงแค่นางกระต่าย บอกว่าจะมาไหว้ขอขมาคุณยาย ตนจึงบอกให้นางกระต่ายกราบขอโทษคุณยายตอนนั้นเลย ซึ่งบอกอยู่หลายรอบ นางกระต่ายก็ไม่ยอมทำ เอาแต่ยืนนิ่ง จนสุดท้ายนางกระต่าย ก็ยอมกราบคุณยาย จากนั้นตนก็ขับรถไปส่งนางกระต่าย ที่รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีชมพู พร้อมให้ค่าจ้างครบถ้วน เพื่อไม่ให้มีอะไรติดค้างต่อกัน

แต่สุดท้าย ตนเป็นหัวหน้าครอบครัวจึงมองว่าเหตุการณ์นี้มันไม่ควรจะเป็นอย่างนี้ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วน่าจะเคยมีประวัติก่อเหตุแบบนี้มาก่อน ซึ่งตนก็ไม่รู้ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวทั้งหมดไปร้องที่เพจสายไหมต้องรอด ก่อนที่ทางเพจสายไหมจะประสานงานกับตำรวจ สน.มีนบุรี ให้ดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 จนล่าสุด ตนรู้สึกดีใจที่สืบนครบาลสามารถจับกุมนางกระต่าย ได้แล้ว เพราะเป็นเหมือนการกำจัดภัยสังคม ซึ่งเป็นมนุษย์ที่โหดร้ายต่อสังคม กังวลว่าถ้าปล่อยตัวเขาไป จะไปทำร้ายคนอื่นอีกหรือไม่เราก็ไม่รู้ จึงมองว่าถ้าตอนนั้นตนปล่อยให้มันผ่านไป ก็เหมือนตนทำบาปกับคนอื่น

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงนางกระต่ายหรือไม่ นายมานพ ระบุว่า ก็ขึ้นอยู่กับจิตของเขาว่าจะปรับตัวได้หรือไม่ ถามว่าสังคมจะให้อภัยเขาไหม ก็มองว่าทุกวันนี้สังคมให้อภัยคนที่ไม่ดีแต่กลับใจเป็นคนดีได้อยู่แล้ว แต่ถ้านิสัยของคุณไม่เปลี่ยน ก็คงจะลำบากและอยู่ในสังคมอย่างลำบาก และสังคมก็พร้อมจะลงโทษคุณได้เสมอ พร้อมกล่าวขอบคุณชุดสืบนครบาลที่ทำการจับกุมในครั้งนี้ ส่วนตอนนี้อาการของคุณยาย ก็เป็นไปตามโรคที่เป็นอยู่ แต่ดีขึ้น ยังคงสื่อสารได้อยู่บ้าง และตอนนี้ได้มีการจ้างแม่บ้านคนใหม่มาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแม่บ้านคนปัจจุบันดูแลคุณยายเป็นอย่างดี

คุณอาจสนใจ