สังคม
"ทนายเดชา" ยินดี "สนธิ" จ่อฟ้อง หากถูกพาดพิงอีก ก็พร้อมรบ ไม่กังวลฟ้องมาก็ฟ้องกลับ
โดย kanyapak_w
12 พ.ย. 2567
283 views
หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาเปิดเผยว่าขณะนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้ให้ค่านายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ รวมถึงได้มีการ เก็บหลักฐานไว้เผื่อเตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีกับทนายเดชา
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ “ทนายเดชา” ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เปิดเผยว่าตนรู้สึกดีใจมากที่นายสนธิจะฟ้องร้อง เพราะหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นจริงศาลยุติธรรมจะให้ความที่ทำกับทุกคนเสมอ
ตนเองก็เตรียมที่จะต่อสู้คดี ซึ่งถ้าตนเองเสียหายตนก็จะฟ้องร้องกลับซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะศาลจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจะทำให้เรื่องนี้เป็นที่กระจ่างว่าใครเป็นคนผิดและคนที่ถูก
ทนายเดชา ยังฝากไปถึงนายสนธิหากบอกว่าไม่ให้ค่าตนไม่ให้ราคาตนเวลาที่นายสนธิมีการไลฟ์สดผ่านทางโซเชียลก็อย่านำภาพ และชื่อของตน ไปใช้โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต พอเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เมื่อถามว่าจะมีการต่อสู้กับหรือไม่ ทนายเดชา ระบุว่าก็เขาข่มขู่ที่จะฟ้องร้องตนก็จะรอให้เขาฟ้องกลับมา ซึ่งทนายเดชก็พร้อมสู้ เพราะตนไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลอะไร
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทนายเดชาจะออกมาเปิดตัวละครลับของนายสนธินั้น ทนายเดชา ระบุว่าเขาบอกว่าไม่อยากพูดถึงตน ตนก็จึงจะไม่พูดถึงเขาแต่ถ้าหากเขาเริ่มเมื่อไหร่ ตนก็พร้อมรบ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทนายเดชาก็รับได้ทุกอย่าง หากจะต้องติดคุกตนก็ทำใจได้แล้วรวมถึงได้มีการพูดคุยกับลูกไว้แล้วว่าหากพ่อติดคุกจะไปฝากคนอื่นเลี้ยง ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่ให้ราคาคนพวกนี้เช่นกัน
ส่วนกรณีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ระบุว่าถ้าหากมีข้อมูลอะไรก็จะมาแจ้งกับประชาชนให้ได้ทราบ โดยตอนนี้มีพยานที่สำคัญอีกหนึ่งคนซึ่งได้มีการปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะมีการเข้าไป พบพนักงานสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางกลาง กองบังคับการปราบปราม เพราะพยานคนดังกล่าวเห็นข้อความผ่านทางมือถือที่ทนายตั้มเอาให้พยานคนดังกล่าวดูโดยข้อความที่เห็นนั้นระบุว่า “ยกให้ตั้ม” ซึ่งเป็นบทสนทนาระหว่างผู้เสียหายกับทนายตั้มพูดคุยกัน
ซึ่งบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่อยู่ภายในวงการสื่อคาดว่าอีกไม่กี่วันพนักงานสอบสวนน่าจะเรียกตัวเข้าไปให้ปากคำที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งประเด็นนี้จะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาล
ซึ่งตอนนี้ทนายตั้มก็มีการต่อสู้คดีว่าไม่ได้ฉ้อโกงเป็นเรื่องของการให้เงินมาแล้วก็ไปลงทุน ส่วนกรณีที่นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ ทนายตั้ม ออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้ให้โดยเสน่หาแต่เป็นการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุน ทนายเดชา ระบุว่าประเด็นนี้มันอยู่นอกสำนวนไม่ได้มีผลอะไรต่อรูปคดี อาจจะเป็นเพียงแค่การสับขาหลอกก็ได้
แต่ในการสู้คดี ทนายเดชา มองว่าทนายตั้มก็วางแผนมานานแล้วในการสู้คดี พร้อมบอกว่าเอกสารและคำพูดในสำนวนพยานหลักฐานในคดีจะมีผลต่อการที่จะชั่งน้ำหนักว่าใครผิด หรือใครถูกและคนที่จะตัดสินได้ก็มีเพียงแค่ศาลเท่านั้นไม่ใช่สื่อหรือใครทั้งนั้น
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายเดชา