สังคม

พ่อช็อก! รพ.สะเพร่า สลับตัวลูกแรกเกิด เกือบได้ไปอยู่พม่า เยียวยาจะให้ 2 แสน แต่ต้องรอลงขันบริจาค

โดย thichaphat_d

16 ก.ย. 2567

2.6K views

พ่อแชร์ประสบการณ์สุดช็อก ลูกถูกสลับตัวในโรงพยาบาลเกือบได้เป็นพลเมืองพม่าแล้ว ต้องตรวจ DNA พิสูจน์ความจริง โรงพยาบาลเยียวยาให้สิทธิรักษาเด็กฟรีแบบพิเศษ ไม่ต้องต่อคิว แต่ต้องจ่ายค่ารักษาเอง จนน้องอายุครบ 20 ปี และจะเยียวยาให้ 2 แสนบาท แต่ไม่รู้จะได้เมื่อไร ต้องรอลงขันบริจาคก่อน


เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2567 นายอนุชา คงสมใจ ได้โพสต์ข้อความ ที่เขียนมาถึงเพื่อเป็นอุทาหรณ์ กับคุณพ่อคุณแม่ที่ไปคลอดลูกตามโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดความผิดพลาดมีการสลับตัวเด็ก

โดยระบุว่า “อุทาหรณ์โรงพยาบาลสลับตัวเด็ก เรื่องคือ ลูกสาวผมเกิดวันที่ 11/8/67 น้องหายใจเร็วเลยต้องแยกห้องกับแม่..แม่นอนห้องพักฟื้นลูกนอนห้องอภิบาลแล้ว

โรงพยาบาลให้เยี่ยมได้ 18:30-20:00 ผมกับแฟนก็ไปเยี่ยมตั้งแต่วันที่ 12 เขาห้ามถ่ายรูปแต่ผมก็แอบถ่ายลูกผมไว้ทุกวันส่งให้แม่ผมดูส่งให้ญาติๆผมตามปกติ

วันที่ 13-14-15-16 ผมก็ไปเยี่ยมปกติผมก็แอบถ่ายรูปลูกผมทุกวัน พอวันที่ 17 ก็ไปเยี่ยม “หน้าลูกผมเปลี่ยนจากผมยาวก็สั้น” จากมีคิ้ว คิ้วก็หายป้ายชื่อที่ข้อมือซ้ายกับขาขวาก็หาย เสื้อผ้าผ้าขนหนูก็ไม่ใช่ของลูกผม

ถามพยาบาลว่าป้ายชื่อหายไปไหน เขาบอกว่าอาจหายตอนอาบน้ำแล้วเสื้อผ้าในกล่องอ่ะครับ อาจจะสลับกันได้ตอนแรกกะว่าจะเดินดูเด็กทุกคนแต่มีเด็กข้างๆมีการเอกซเรย์ เลยต้องออกจากห้องก่อนแล้ววันที่ 18 ลูกผมครบกำหนด ก็กลับบ้านไปรับกลับบ้าน ผมมองลูกที่ได้กลับมาบ้านมองยังไงก็ไม่ใช่ลูกผม ผมสับสนกับตัวเองว่าใช่หรือไม่ใช่ดูรูปที่ถ่ายไว้กับตัวจริงตลอด

จนวันจันทร์ผมได้โทรไปสอบถามโรงพยาบาลอีกทีว่า..ผมสงสัยว่าไม่ใช่ลูกผม..ผมช่วยให้โรงพยาบาลการันตี หรือพูดให้ผมสบายใจหน่อยได้ไหมว่า คนนี้เป็นลูกผม..เขาก็บอกว่าลูกของคุณพ่อไม่เหมือนเด็กคนอื่น ลูกคุณพ่อต้องให้ยา 7 วันที่ข้อมือจะมีรอยช้ำจากการถูกเจาะเลือด มันก็มีจริงผมก็ถามไปอีกว่าแล้วทำไมผมสั้นลงคิ้วหายไป..เขาก็บอกว่าเด็กหน้าเปลี่ยนทุกวัน

จนคืนวันอังคารผมทนไม่ไหวเลยโพสต์ลงในกลุ่มข่าวกระทุ่มแบนให้เพื่อนๆดูว่าเด็กในรูปคนเดียวกันไหม..ส่วนใหญ่บอกว่าคนละคนแนะนำให้ไปโรงพยาบาลไปตรวจ DNA

เช้าวันพุธที่ 21/8/67 จึงรีบพาลูกกับแฟนไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบแล้วก็เล่าเหตุการณ์ให้พยาบาลฟังทั้งหมด..แล้วก็เริ่มการเจาะเลือดผมแฟนผมแล้วก็เด็กที่ผมนำกลับบ้านไปวันที่ 18/8/67.. ผลออกมาคือเด็กกรุ๊ป B ผมกรุ๊ป AB แฟนผมกรุ๊ป A ผมโกรธและโมโหมากเสียใจมากสงสารลูกผมมากแล้วรองผอ.ก็มาคุย..ผมบอกทำยังไงก็ได้ผมขอเจอลูกผมตัวจริง

วันที่ 21/8/67 ทางโรงพยาบาลก็หามา จนเจอก็มีการเจาะเลือดทั้งสองครอบครัว ครอบครัวเขา B ทั้งบ้านส่วนลูกผม AB แล้วผมได้คุยกับอีกครอบครัวนั้นเขาบอกว่า น่าจะสลับวันเสาร์เพราะเขาก็ว่าอยู่ๆทำไมลูกเขามีคิ้ว ทั้งที่ตอนแรกไม่มี ครอบครัวนั้นเป็น(พม่า)นะครับ ลูกผมถูกให้ยาฆ่าเชื้อเกินลูกพม่าถูกให้ยาฆ่าเชื้อขาดกำหนดคือต้อง 7 วันตามที่พยาบาลบอกผมวันแรกที่ลูกผมแยกห้องกับแม่เขาแล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีผลอะไรไหม ตอนนี้ที่ทางโรงพยาบาลรับผิดชอบคือเจาะเลือดให้ฟรีแล้วก็พาไปตรวจ DNAที่โรงพยาบาลรามา

ล่าสุด 15/9/ 67 ผล DNA ออกแล้ว ผลก็เป็นไปตามนั้นเด็กสลับตัวกันจริงทาง โรงพยาบาลจึงรับผิดชอบโดยให้สิทธิรักษาลูกผมฟรีแบบพิเศษ แบบพิเศษที่เขาว่าคือไม่ต้องต่อคิว ถ้าจะไปรักษาให้โทรไปบอกเขาว่าเป็นอะไร แต่ต้องจ่ายค่ารักษาเอง เขาจะเตรียมทำเอกสารไว้ให้จนน้องอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ครับแค่นั้น

ผมจึงขอค่าเยียวยาจิตใจไปสองแสนบาท โดยแบ่งให้บ้านของพม่าด้วยหนึ่งแสนบาท..โดยสองครอบครัวไม่ได้เข้าไปคุยพร้อมกันนะครับ คุยคนละวันแต่ที่หมอบอกเขาจะให้สิทธิเหมือนกันครับทั้งสองครอบครัว..โดยทางโรงพยาบาลบอกว่ารักษาฟรีทำได้เลยทันทีส่วนเงินเขาให้รอไปอีก 2 อาทิตย์แต่ไม่รับปากนะว่าจะได้ครบไหม อาจจะครบหรือไม่ครบ เขาจะไปลงขันรับบริจาคกันก่อน..มีแบบนี้ด้วยเหรอครับ??

ไม่เป็นไร รอก็รอครับเรื่องแบบนี้ทางโรงพยาบาลน่าจะทำให้จบให้เร็วที่สุดไม่น่าปล่อยเวลาให้มันนาน เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องใหญ่ฝากด้วยครับเพื่อนๆทำไรอย่าประมาททำไรควรมีหลักฐาน ยืนยันในกรณีนี้ถ้าผมไม่มีหลักฐานยืนยันจบครับลูกผมไปอยู่พม่าแล้ว!!! เป็นกรณีศึกษาไว้นะครับ”

-----------------------------------

รพ.ยอมรับผิดพลาดจริง สลับตัวเด็กทารก สสจ. นัดไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย ดร.ธนกฤต แนะติดกล้องวงจรปิดเพิ่ม แค่ป้ายชื่อเด็กไม่เพียงพอ

ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครแล้ว ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาลจริง คาดว่าเกิดเหตุสลับตัวขณะนำเด็กไปตรวจ โดยเมื่อพ่อของเด็กท้วงติงถึงความผิดปกติ รพ.ได้ดำเนินการส่งตรวจดีเอ็นเอ โดยในวันพรุ่งนี้ (16 ก.ย.67) โรงพยาบาลได้นัดพ่อแม่ของเด็กมาพูดคุยเพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย

ดร.ธนกฤต เปิดเผยด้วยว่า ได้ให้คำแนะนำกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดให้ปรับแผนการดูแลเด็ก โดยให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำรอย เพราะการติดป้ายชื่อเด็กอาจไม่เพียงพอ ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และทางโรงพยาบาล รับที่จะนำไปดำเนินการ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/GF-9lvZFYEg


คุณอาจสนใจ

Related News