สังคม
สุโขทัยเอาไม่อยู่! น้ำยมล้นพนังกั้น นำกระสอบทรายอุดโกลาหล เตรียมรับมวลน้ำก้อนใหญ่
26 ส.ค. 2567
451 views
สุโขทัย น้ำยมเอ่อล้นทะลักพนังกั้น จนท.-ชาวบ้าน นำกระสอบทรายอุดทุกจุดโกลาหล เทศบาลเมืองสุโขทัยคุมสถานการณ์น้ำล้นพนังกั้นชุมชนวังหินได้แล้ว เขตเศรษฐกิจยังไม่ท่วมป้องกันได้อยู่ นายอำเภอเผย มวลน้ำก้อนใหญ่จาก อ.วังชิ้น ถึงเมืองสุโขทัย ก่อนเที่ยง 27 ส.ค.
สถานการณ์น้ำใน จ.สุโขทัย หลังจากฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่ ประกอบกับมวลน้ำก้อนใหญ่จาก จ.แพร่ ไหลลงมาสมทบ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าทางจังหวัดได้ออกประกาศเตือนพี่น้องประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยม เพื่อเตรียมรับสถานการณ์แล้วก็ตาม
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.67 เวลา 13.45 น. ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านอินสุดสาย ม.7 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ไหลลงถนนเข้าบ้านเรือนบางหลังของประชาชนที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ ตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และชาวบ้านเร่งช่วยกันกรอกกระสอบทราย ไปวางกั้นมวลน้ำที่ไหลทะลัก สูง 2 ชั้น
นายบุญ อายุ 59 ปี ชาวบ้าน บ้านอินสุดสาย ม.7 ต.ปากแคว กล่าวว่า ขณะนี้ยังวางใจไม่ได้ เกรงว่ามวลน้ำจะทะลักท่วมพนังกั้นน้ำอีก ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเฝ้าระวัง และพากันมาช่วยกรอกกระสอบทรายไปวางเรียงบนพนัง จากสูง 2 ชั้นเพิ่มเป็น 3 ชั้น เพราะปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้นไหลล้นออกมา ขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงแล้ว หากไม่สามารถรับมือกับมวลน้ำได้ น้ำจะทะลักท่วมบ้านเกือบ 400 หลังคาเรือน ซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนน
ส่วนที่หมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำสูงกว่าพนังกั้น เอ่อล้นเข้าท่วมถนนในชุมชนแต่ยังไม่เยอะ ต้องนำกระสอบทรายวางเรียงบนพนังกั้นสูง 4 ชั้น ป้องกันน้ำไหลท่วมชุมชน โดยชาวบ้านต่างพากันขนของหนีน้ำและยกไว้ที่สูง คนไหนขนของหนีน้ำเสร็จก็จะออกมาช่วยกรอกกระสอบทราย
ส่วนจุดที่ไม่มีพนังกั้น พบว่ามีการนำกระสอบทรายมาวางเรียงเป็นแนวตามถนนในชุมชน สูง 4-5 ชั้น ระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร และนำกระสอบทรายมาวางซ้อนกันอีกชั้น เนื่องจากระดับน้ำสูงกว่าถนนเกรงว่าจะต้านแรงน้ำไม่ไหว เพราะจุดนี้ไม่มีพนังกั้น ทั้งนี้พบว่าน้ำเริ่มซึมออกจากกระสอบทรายไหลเข้าท่วมถนนแล้ว นอกจากนี้พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนหลายหลัง
ทีมข่าวได้คุยกับ นายมานพ อายุ 35 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย บอกว่า บ้านตนเองอยู่ติดกับริมแม่น้ำยม ถูกน้ำท่วมเกือบครึ่งหลัง เพราะจุดที่บ้าน ไม่มีพนังกั้นน้ำ ต้องย้ายไปอาศัยที่อื่นชั่วคราว ข้าวของในบ้านซึ่งยกขึ้นไว้ที่สูงก็ยังโดนน้ำท่วมหมด คิดว่าจะพ้นน้ำแต่ก็ไม่พ้น โดยบ้านถูกน้ำท่วม 3-4 วันแล้ว
ด้าน นายบุญส่ง อายุ 54 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย เล่าว่า บ้านของตนเองอยู่ต่ำกว่าถนน น้ำเริ่มไหลเซาะกระสอบทรายเข้าท่วมถนน โดยตนเองได้ใช้เงินส่วนตัวไปซื้อทรายเกือบ 30,000 บาท มาเทป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้าน ขณะที่ อบต.นำทรายและถุงกระสอบมาให้ชาวบ้านกรอกเพื่อนำไปวางกั้นน้ำ ชาวบ้านต้องช่วยกันเอง หากน้ำเพิ่มสูงขึ้นก็กังวลว่าจะไหลเข้าท่วมบ้าน ส่วนข้าวของในบ้านขนไว้ชั้นสองหมดแล้ว ตนอยากให้มีการสร้างพนังกั้นน้ำตรงจุดนี้ สำนักนายกฯ เคยมาดูหลายรอบแล้วแต่ยังไม่เห็นทำสักที
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ม.4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย พบว่าแม่น้ำยม ปริ่มตลิ่งทั้ง 2 ฝั่ง บางช่วงน้ำเอ่อล้นพนังกั้น เจ้าหน้าที่ อบต.ปากแคว และเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี นำกระสอบทรายไปวางแทนกระสอบทรายที่ถูกน้ำซัดพังไป แต่ก็ไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ ว่าจะสามารถต้านทานกระแสน้ำยมได้หรือไม่ เพราะกระแสน้ำแรงมาก
ขณะที่ชุดปฏิบัติการบรรเทาสาธารณภัย และจิตอาสาภัยพิบัติ กองพันทหารขนส่งที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ร่วมกับประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันกรอกกระสอบทราย เสริมแนวป้องกันน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน บริเวณหมู่ 4 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย
เวลา 12.00 น. มวลน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ได้เอ่อล้นไหลทะลักแนวพนังกั้นน้ำสูงเกือบ 2 เมตร บริเวณหลังโรงเบียร์ช้าง ชุมชนวังหิน หมู่ 4 ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย (เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี) ดูคล้ายม่านน้ำตก มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมกว่า 30 หลัง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังขนกระสอบทรายวางเสริมอีก 4 ชั้น ความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ป้องกันมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนวังหิน และชะลอการไหลของน้ำเข้าสู่ตัวเมือง โดยน้ำที่ไหลล้นข้ามมานั้นได้กระจายไหลลงไปตามคูคลองและแหล่งพื้นที่ธรรมชาติ
ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะนำกระสอบทรายมาเรียงเสริมจากพนังกั้นน้ำถึง 2-3 ชั้น แต่เนื่องจากจุดนี้เป็นทางโค้งของน้ำ ทำให้กระแสน้ำยมที่ไหลเชี่ยวซัดเอากระสอบทรายที่วางเรียงไว้ตกลงมาเป็นทางยาวกว่า 5 เมตรหลายช่วง ทำให้น้ำในแม่น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ส่วนจุดที่น้ำซึมผ่านกระสอบทราย ก็ใช้การสูบน้ำกลับเข้าไปในแม่น้ำยม
จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี สามารถควบคุมสถานการณ์แม่น้ำยมล้นพนังกั้นที่จุดชุมชนวังหินได้สำเร็จ โดยเสริมกระสอบทรายขึ้น 3-4 ชั้น แต่ก็ยังมีจุดที่น้ำล้นพนังกั้น ประมาณ 30 เมตร ยังไม่สามารถนำกระสอบทรายไปอุดตรงจุดนี้ได้ เนื่องจากน้ำไหลแรง
นางพัฒสอน ดอนพิมพา นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี และทีมงาน ได้วิเคราห์สถานการณ์และปริมาณน้ำแล้ว ได้แก้ไขปัญหาน้ำล้นพนังโดยการนำบิ๊กแบ็ค จำนวน 20 ลูก และนำกระสอบทรายเล็กอุดตามช่องว่างของบิ๊กแบ็ค และผันน้ำลงสู่คลองตาไซค์ ป้องกันน้ำไหลเข้าสู่เขตเศรษฐกิจของเมืองสุโขทัย ซึ่งตอนนี้เขตเศรษฐกิจยังไม่ได้รับผลกระทบ น้ำยังไม่ท่วมหนักตามที่มีการเสนอข่าว
ทีมข่าวไปเจอ นายอานนท์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านชุมชนวังหิน หมู่ 4 ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย (เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี) บอกว่า บ้านอยู่ติดกับพนังกั้นที่น้ำยมล้นทะลักไหลเข้าท่วมบ้านเสียหาย ซึ่งก่อนหน้านั้นน้ำได้เอ่อล้นพนังกั้นไหลเข้าท่วมบ้านตอนตี 3 (25 ส.ค.) ของใช้ในบ้านบางส่วนเสียหาย แต่เข้าของบางอย่างก็ยกไปไว้บนบ้านชั้นสองและยกไว้ที่สูงล่วงหน้าแล้ว
หลังจากเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายมาวางเสริมพนังกั้น ปรากฏว่าช่วงสาย ๆ กระสอบทรายได้พังทลายลงมา น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านอีกครั้ง แต่ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะโดนน้ำท่วมทุกปี แม้พนังกั้นน้ำสูง 3 เมตร แต่ด้วยปริมาณน้ำมากก็ทำให้น้ำเอ่อล้น ช่วงกลางคืนก็แทบไม่ได้นอนต้องคอยเฝ้าระวัง และเดินสำรวจว่ามีจุดไหนชำรุดเสี่ยงที่กระสอบทรายจะพังทลายอีก
ต่อมา เวลา 21.00 น. นางสาวสุทธิพร คงศาสตร์ หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ยืนยันว่า ขณะนี้ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ไม่มีจุดไหนของแม่น้ำยม ที่มีน้ำล้นตลิ่งพนังป้องกันน้ำท่วมแล้ว โดยเมื่อเวลา 20.00 น. ระดับน้ำลดลงมาอยู่ที่ 7.76 เมตร จากระดับพนังป้องกันน้ำท่วมที่เทศบาลทำไว้ ที่ความสูง 8.15 เมตร ขณะที่บริเวณถนนที่ถูกมีน้ำท่วมขังจากการล้นตลิ่ง ขณะนี้แห้งเกือบเป็นปกติทั้งหมดแล้ว
สำหรับจุดเสี่ยงในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ตลอดแนวพนังป้องกันน้ำท่วม ซึ่งมีความยาว 4 กิโลเมตร พบว่ามีจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด 4 จุด คือ 1.ชุมชนวังหิน 2.หลังศาลาชุมชนราชธานี 3.ชุมชนคูหาสวรรค์ และ 4.บริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย
นอกจากนี้ ถนนกั้นแม่น้ำยม ที่บ้านวังโค หมู่ 5 ต.ยางซ้าย อ.เมืองสุโขทัย ถูกกระแสน้ำจากแม่น้ำยมที่ไหลแรงเข้ากัดเซาะบริเวณถนนดินกั้นน้ำยมขาด เป็นทางกว้างกว่า 20 เมตร จนได้รับความเสียหาย ทำให้น้ำจากแม่น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปอุดรอยรั่วบริเวณนี้ได้ ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 50 หลังคาเรือน ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนี้ต้องรีบขนย้ายสิ่งของ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงหนีน้ำไปไว้ในที่สูง บ้างก็ย้ายไปไว้บนถนนก่อน เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้มีระดับต่ำกว่าแม่น้ำยมมาก
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ต้องปิดทางหลวงหมายเลข 4003 ในหมู่บ้านวังโพธิ์ ไม่ให้รถทุกชนิดผ่าน ขณะที่ทหารชุดบรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชน โดยกองพันเสนารักษ์ที่ 23 กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย ทั้งนี้ อบต.ยางซ้าย ยังได้นำทรายมาให้ประชาชนที่บริเวณนี้ใช้กรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปกันไม่ให้น้ำไหลเข้าบ้านเรือนของตัวเอง
พร้อมทั้งหาวิธีอุดรอยคันดินที่แตกที่บริเวณนี้ แต่ยังคงเป็นไปได้ยากเนื่องจากกระแสน้ำในแม่น้ำยมยังไหลแรงมาก ต้องรอให้ระดับในแม่น้ำยมลดลงก่อนจึงจะสามารถเข้าไปทำการซ่อมแซมได้ สำหรับมวลน้ำในจุดนี้ไหลเข้าทุ่ง ต.ยางซ้าย ต.ปากพระ ของ อ.เมืองสุโขทัย และไหลไป ต.สามพวง อ.คีรีมาศ และมวลน้ำทั้งหมดจะไหลลงที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ก่อนที่น้ำจะไปร่วมที่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
นายสมพงษ์ ชมชัย นายอำเภอเมืองสุโขทัย เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากชลประทานจังหวัด ว่ามวลน้ำเหนือจากอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ และจังหวัดพะเยา เข้าสู่เขตอำเภอเมืองสุโขทัย โดยผ่านอำเภอศรีสัชนาลัย อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสำโรง ก่อนจะเข้าสู่อำเภอเมือง ซึ่งพีคสุดคือตอนตี 4 (25 ส.ค.) ทำให้คันกั้นน้ำที่ หมู่ 5 ตำบลยางซ้ายแตก
จุดเสี่ยงในอำเภอเมืองสุโขทัย มี 4 จุดคือ ตำบลปากแคว / ตำบลธานี (เขตเทศบาลฯ) / ตำบลยางซ้ายและตำบลปากพระ สำหรับคันดินที่แตก และจุดที่น้ำล้นพนังกั้นน้ำ ส่วนใหญ่จะอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม ทั้งนี้ทราบว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จากอำเภอวังชิ้น ยังมาไม่ถึงเขตอำเภอเมืองสุโขทัย คาดว่าจะถึงไม่เกินเที่ยงวันของวันที่ 27 สิงหาคมนี้
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 16.15 น. เกิดเหตุน้ำกัดเซาะบริเวณคอสะพานสิริปัญญารัตน์ หน้าวัดวังใหญ่ ตำบลวังใหญ่ อำเภอศรีสำโรง แม้มีการเรียงกระสอบทรายพร้อมปูผ้ายางป้องกันการกัดเซาะแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถรองรับมวลน้ำก้อนใหญ่ได้ น้ำไหลทะลักอย่างรุนแรง น้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่เกษตรและบ้านเรือนประชาชน
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อภิสรา จันทะคุ่ย ได้โพสต์ภาพขณะที่กั้นดินแตกน้ำไหลทะลัก พร้อมระบุว่า "แตกซะขนาดนี้แล้ว ชุดใหญ่แพร่มาสมทบจะเป็นยังไง ไม่อยากจะนึกถึงภาพนั้นเลย" และมีผู้แชร์โพสต์ เขียนข้อความว่า "สาเหตุที่มวลแม่น้ำยม ในตัวเมืองลดลงอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะคันกั้นน้ำแตก ยาวมากที่ ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง ซึ่งตอนนี้แตกเพิ่มหลายจุด ศรีสำโรงน้ำท่วมฉับพลันทันที"
จากการรายงานปริมาณน้ำที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดปริมาณ 1700 ลบ.ม./วินาที กำลังไหลลงสุโขทัย ทางชลประทาน จ.สุโขทัย จะเร่งระบายน้ำจากจุดวัดน้ำ Y 14 A อ.ศรีสัชนาลัย มีปริมาณน้ำผ่าน 1,367 ลบ.ม./วินาที และจะมีการผันน้ำไปยังฝั่งซ้ายของแม่น้ำยม ผ่านประตูระบายน้ำคลองหกบาท ประมาณ 400 ลบ.ม./วินาที และแยกไปเส้น ยม-น่าน 200 ลบ.ม./วินาที
มวลน้ำประมาณ 600 ลบ.ม./วินาทีนี้ จะไหลไปรวมกันที่แม่น้ำน่าน และบางส่วนประมาณ 200 ลบ.ม./วินาที จะไหลมาลงที่แม่น้ำยมสายเก่า โดยจะมีการควบคุมน้ำไว้ที่ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก ในเกณ์ 700-800 ลบ.ม./วินาที จากนั้นจะตัดออกฝั่งขวา มาหน่วงไว้ที่ทะเลหลวง ผ่านคลองต้นข้อ คลองบ้านหลุม ผ่านประตูระบายน้ำยางซ้าย ควบคุมไว้ที่ Y 4 อ.เมืองสุโขทัย ไม่เกิน 510 ลบ.ม./วินาที
หากน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทางชลประทาน จ.สุโขทัย จะเร่งการระบายเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในเขตอำเภอเมืองสุโขทัย ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และจะคำนวณปริมาณน้ำชั่วโมงต่อชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มมีน้ำล้นคันกั้นน้ำจากการระบายน้ำเกินความจุ และคันดินบางจุดจะรับไม่ได้ รวมถึงน้ำล้นตลิ่งในบางจุด ซึ่งจังหวัดได้เตรียมการรับน้ำและตั้งศูนย์บัญชาการน้ำจังหวัดสุโขทัยแล้ว
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KdKB-jaAanM
แท็กที่เกี่ยวข้อง น้ำท่วมสุโขทัย