สังคม

สุดสะเทือนใจ! แม่เจสซี่หลั่งน้ำตา หลังพบว่าลูกชายกดเงินไปกว่า 1.3 ล้านบาท

โดย gamonthip_s

15 มิ.ย. 2567

23.5K views

จากกรณีเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 67 นายดีแลนด์ อายุ 20 ปี หนุ่มลูกครึ่งไทย-ไอซ์แลนด์ พานางสาวกุ้ง อายุ 44 ปี ผู้เป็นแม่ ขี่ จยย. จากพัทยา จ.ชลบุรี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ รณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามตัวน้องเจสซี่ อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นน้องชายกลับมาสู่ครอบครัว หลังหายตัวไปนานกว่าครึ่งเดือน ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.หนองปรือ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า



ความคืบหน้าของคดีนั้นวันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายดีแลนด์ อายุ 20 ปี ได้ขี่จยย.จากพัทยา จังหวัดชลบุรี พาคุณแม่คือนางสาวกุ้ง พร้อมนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ มามอบเพิ่มเติมให้กับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิ โดยมีว่าที่ร้อยตรี รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ นายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ ร่วมกันตรวจสอบเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมในวันนี้



นางสาวกุ้ง มารดาของน้องเจสซี่ กล่าวทั้งน้ำตาขนาดแถลงข่าวว่า วันนี้ตนได้ตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ แล้วพบว่า ลูกชายได้กดเงินจำนวน 1,318,390 บาท ไปจากบัญชีของผู้เป็นพ่อ ไม่ใช่ 8 แสนกว่าบาท ตามที่ตรวจพบในตอนแรก หลังทราบเรื่อง ตนเองรู้สึกเสียใจอย่างมาก เพราะเป็นเงินที่สามี ได้รับและสะสมมาทุกเดือนจากการทำงานจนเกษียณ ตอนนี้ที่บ้านไม่มีเงินติดตัวเหลืออยู่เลย ตนมีเงินเพียง 500 บาท ให้ลูกชายคนโตคือน้องดีแลนด์ขี่รถจักรยานยนต์มาจากพัทยา เพื่อนำหลักฐานเอกสารต่าง ๆ รวมทั้งข้าวของ-เสื้อผ้าที่นำกองไว้บนโต๊ะอย่างที่เห็น ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นของฝ่ายคู่กรณี คือ นางสาวกานต์ซื้อให้นางสาวพิมลูกสาว และนำมามอบให้กับน้องเจฟฟี่ลูกชายตนระหว่างอยู่กินกัน ตนเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้จากการหลอกลวงเอาไปจากลูกชายของตนเอง



ระหว่างกำลังแถลงข่าวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่นั้น ปรากฏว่านางสาวกุ้งไม่สามารถควบคุมความเศร้าโศกเสียใจ ที่ผ่านมาได้ ถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้ และอาเจียน จนเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องนำยาดมมาให้ แต่น้องสาวกุ้งก็ยังไม่สามารถแถลงข่าวต่อได้ จนต้องให้น้องดีแลนด์พูดแทนทุกอย่าง



ส่วนสาเหตุที่เดินทางมาร้องเรียนเพิ่มเติมกับทางมูลนิธินั้น เนื่องจากในวันนี้เป็นวันที่ทางคู่กรณีนัดหมาย และลงบันทึกประจำวันไว้ว่าจะชดใช้ค่าเสียหายในส่วนที่เอาเงินจากครอบครัวของตนไป แต่ปรากฏว่าพอถึงเวลานัดกับติดต่อไม่ได้ จึงเชื่อแล้วว่าคงถูกเบี้ยวอย่างแน่นอน ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ไม่ได้รับการประสาน เพื่อให้มาเจรจาพูดคุยชดใช้หนี้ตามที่ลงบันทึกประจำวันไว้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 67 ที่ สภ.หนองปรือ ตนกับคุณแม่และคุณพ่อไม่เหลือเงินแล้วถูกเขาเอาไปหมด ก็อยากให้ทางเขาชดใช้เงินที่เอาไปจากครอบครัวของตนด้วย



ขณะที่ทนายรณณรงค์เองเผยว่า ที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้ดำเนินการช่วยเหลือ เดินเรื่องในการดำเนินคดีต่าง ๆ ให้กับทางครอบครัวของคุณกุ้งแล้ว โดยมีการแจ้งความทางฝ่ายคู่กรณี ทั้งข้อหาลักทรัพย์ รับของโจร แม้แต่ตัวเจสฟี่เองคุณพ่อก็แจ้งข้อหาลักทรัพย์กับลูกชายด้วย ตอนนี้เขาก็รู้สึกผิด และกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว คดีนี้เรามีหลักฐานเอกสารต่าง ๆ พร้อมจะช่วยเหลือและดำเนินคดีคู่กรณีได้อย่างแน่นอน

คุณอาจสนใจ