สังคม

แม่หลั่งน้ำตา พาลูกสาวร้องทนายดัง ถูกพ่อแท้ๆซ่อนกล้องถ่ายในห้องน้ำ แจ้งตร. ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

โดย panwilai_c

19 เม.ย. 2567

162 views

แม่หลั่งน้ำตาพาลูกสาวร้องทนายดัง หลังถูกพ่อแท้ๆ แอบติดตั้งกล้องในห้องน้ำ ถ่ายขณะลูกสาววัย 17 อาบน้ำ ส่งเข้ากรุ๊ปให้เพื่อนดู



เมื่อเวลา 11.30 น. นางสาวฝน อายุ 33 ปี พาลูกสาวชื่อ น้องแป้ง อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม. 5 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ขอให้ช่วยติดตามคดี หลังลูกสาวถูกนายสอ อายุ 40 ปี อดีตสามี และเป็นพ่อแท้ๆ ของน้องแป้ง แอบติดตั้งกล้องไว้ในห้องน้ำ และห้องนอน หลังเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก้งสองนาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตสามีในข้อหาอนาจาร



แม่ฝน เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินกับนายสอ จนมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน คือน้องแป้ง หลังจากนั้นเมื่อ 10 ปีก่อน ตนกับอดีตสามีได้แยกทางกัน โดยลูกสาวอยู่กับนายสอ อดีตสามีตั้งแต่ยังเล็ก สามีมีอาชีพเป็นช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด และถูกจับคดียาเสพติดหลายครั้ง แต่ก็ถูกปล่อยตัวมาเนื่องจากถูกจับข้อหาเสพ แค่เพียงนำไปบำบัดรักษาแล้วก็ปล่อยตัวมา



จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวน สภ.แก้งสนามนาง เข้ามาตรวจค้นที่บ้านของนายสอ เพื่อตรวจหายาเสพติด จึงไปพบว่าคอมพิวเตอร์ และกล้องวงจรปิดที่วางอยู่บนโต๊ะ มีภาพถ่ายอนาจารของน้องแป้ง ลูกสาวตนเอง และเป็นลูกแท้ๆ ของนายสอ รวมทั้งหลานสาวนายสออีกคนหนึ่ง อายุ 27 ปี โดยเป็นภาพขณะที่ทั้ง 2 คน กำลังอาบน้ำในห้องน้ำ รวมทั้งยังมีแชต ข้อความที่นายสอคุยกับเพื่อน ถึงลูกสาวแบบเสียๆ หายๆ หยาบคาย เมื่อสอบถามนายสอก็อ้างว่าแค่ติดตั้งไว้ เพื่อสังเกตพฤติกรรมของคนในบ้านเท่านั้น



ต่อมาเมื่อวันที่ 18 เมษายน 67 ตนจึงพาลูกสาวและหลานสาวของนายสอ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. แก้งสนามนาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตสามีในข้อหาอาจาร แต่ตำรวจกลับบอกว่า ไม่สามารถดำเนินคดีได้ในขั้นนั้น เนื่องจากยังไม่มีการถูกเนื้อต้องตัว อาจจะดำเนินคดีได้แค่เพียงก่อความเดือดร้อนเป็นเหตุให้ขุ่นข้องหมองใจ



ทำให้ทนายรณณรงค์ถึงกับอึ้ง รีบต่อสายหาพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีคือ พ.ต.ท.ปพน ชัยศักดิ์ศรี ซึ่งก็ชี้แจงกลับมาในโทรศัพท์ว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีการถูกเนื้อต้องตัวกัน จึงได้อธิบายไปกับคุณแม่อย่างนั้น แต่ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกหมายเรียกในข้อหาอนาจารกับนายสอไปแล้ว ตามที่ผู้เสียหายต้องการ คุณแม่อาจจะสื่อสารและเข้าใจผิดที่ตนอธิบายไป ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนโดยแจ้งข้อหาอนาจารตามที่ผู้เสียหายต้องการ



ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่ข้อหาอนาจาร ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตามมาตรา 278 แล้ว ทางมูลนิธิจะตรวจสอบดูว่าผู้เป็นพ่อแท้ๆรายนี้มีการส่งภาพลามกของลูกสาวขณะแอบถ่ายไว้ให้กับเพื่อนๆ ที่พบว่าพูดคุยกันในแชต จะมีข้อหาตามมาอีกหลายข้อหาที่รุนแรงกว่าอนาจาร



ยืนยันว่าการเป็นพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์แอบถ่ายลูกสาว เพราะเป็นสรีระส่วนตัวของเขา การทำแบบนี้เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาหลายข้อหาจะต้องตรวจสอบและดำเนินการว่า พ่อแท้ๆรายนี้ทำผิด ข้อหาอะไรบ้าง เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายตามที่ผู้เป็นแม่และลูกสาวต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JbEs28Z-RiM

คุณอาจสนใจ