สังคม
'นรเศรษฐ์' วางเงิน 5.5 หมื่น ได้ประกันตัว - เพื่อนร่วมแก๊งโวย ตร. 2 มาตรฐาน ให้คนอื่นเล่นมือถือในห้องขังได้
โดย nattachat_c
13 มิ.ย. 2567
68 views
ความคืบหน้า กรณีตำรวจกองบังคับการสืบสวนนครบาล 1 บุกจับ นายนรเศรษฐ์ / นายกิจจา / นางสาววาลิส และนางสาวอัญชลีพร ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยเพชรบุรี 47 พร้อมยึดของกลางเป็น ยาไอซ์ 6 ถุง / อาวุธปืน 11 มม. จำนวน 1 กระบอก / กระสุนปืน 6 นัด
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา หลังการสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ทั้ง 4 คน ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังของ สน.มักกะสัน
ตอนแรก ทนายความบอกว่า ทั้งหมดไม่เครียด และไม่กังวล แต่พันตำรวจเอก อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผู้กำกับการ สน.มักกะสัน เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 11 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน มีความเครียดชัดเจน โดยเฉพาะผู้หญิง 2 คน ที่จะพูดเพ้อตลอดเวลาว่า เรื่องเงินประกันตัว หากจะเอา 200,000 ก็พร้อมโอนทันที
กระทั่ง เมื่อช่วงเช้า ขณะนำตัวทั้ง 4 คน มาพิมพ์ลายนิ้วมือ นางสาววาลิสถึงกับเป็นลม นอกจากนี้ นายกิจจามีลักษณะคลุ้มคลั่งตะโกนเสียงดังตลอดเวลา จนมีปากเสียงกับนายนรเศรษฐ์ ทำให้ต้องแยกทั้งคู่คนละห้อง
กระทั่งราว 9 โมงเช้า วานนี้ (12 มิ.ย. 67) ทนายความเดินทางมาเยี่ยมทั้ง 4 คน บอกว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และเหตุการณ์นี้ ก็ไม่ได้กระทบกับชื่อเสียงของนาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยด้วย เพราะเป็นคนละส่วนกัน
ต่อมา เวลาประมาณ 11 โมงครึ่ง ภรรยาและน้องสาวของนายกิจจา มาเยี่ยมที่ห้องขังของโรงพัก แต่ตำรวจเฝ้าหน้าห้องขังไม่อนุญาต โดยอ้างว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้วให้รอตอนเที่ยง ทำให้นายกิจจาที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องขังโวยวายเสียงดังออกมาทำนองว่า ญาติของผู้ต้องหาคนอื่นก็มาเข้าเยี่ยมไม่ตรงกำหนดเวลา แต่ทำไมตำรวจถึงให้เข้าเยี่ยมได้ ทำไมกรณีของตนไม่สามารถทำได้
เมื่อนักข่าวสอบถาม ตำรวจที่เฝ้าหน้าห้องขัง บอกว่า นายกิจจาโวยวายแบบนี้ทั้งคืน กระโดดไปมาอยู่ในห้อง ปีนลูกกรง โบกไม้โบกมือ และตะโกนคลุ้มคลั่งตลอดเวลา จนต้องแยกขังคนละห้องกับนายนรเศรษฐ์ และตำรวจต้องเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอดทั้งคืน
จากนั้น ราวบ่ายโมง ตำรวจนำตัวนางสาววาลิส และนางสาวอัญชลีพร มาสอบปากคำ เพิ่มเติมในคดีเสพยาเสพติด เพราะผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง จากการสังเกตขณะทั้งคู่สอบปากคำ พบว่า ผ่อนคลายขึ้น
จากนั้น ตำรวจคุมตัวนายกิจจาออกมาจากห้องขังของโรงพัก เพื่อสอบปากคำต่อ ซึ่งระหว่างที่เดินผ่านนักข่าว นายกิจจาโวยวายว่า "ผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ต้องหาคนอื่นสามารถเล่นโทรศัพท์ภายในห้องขังได้"
ด้านตำรวจใช้เวลาสอบปากคำนายกิจจาราว 1 ชั่วโมง ก่อนจะนำตัวเข้าห้องขัง แล้วคุมตัวนายนรเศรษฐ์ ออกมาสอบปากคำต่อ โดยเลี่ยงที่จะให้ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน ซึ่งจากการสังเกตสีหน้าของนายนรเศรษฐ์นั้น ดูเคร่งเครียดมาก
ทีมข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ พันตำรวจเอกอุรัมพร เรื่องที่นายกิจจาโวยวายว่า มีบางคนได้ใช้มือถือในห้องขัง ผู้กำกับยืนยันว่า ตามระเบียบแล้ว ไม่สามารถเอาโทรศัพท์เข้าไปได้อยู่แล้ว คาดว่าที่ผู้ต้องหามีอาการแบบนี้ น่าจะเกิดจากความเครียด ประกอบกับนายกิจจาน่าจะเครียดเรื่องประกัน เพราะทั้ง 3 คนก็มีฐานะ และนามสกุลดัง ตัวเขาเองอาจจะรู้สึกเคว้ง
จากนั้น ช่วงบ่าย 2 โมง พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน คุมตัวทั้ง 4 คน ออกจากห้องขังไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก ท่ามกลางตำรวจคุมเข้ม โดยจังหวะที่กลุ่มผู้ต้องหาลงมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหา บริเวณชั้น 2 ของโรงพัก ทีมข่าวของเราพยายามเข้าไปสอบถามกลุ่มผู้ต้องหา โดยเฉพาะนายนรเศรษฐ์ว่า อยากมีอะไรชี้แจงหรือไม่ รวมถึงรู้สึกอย่างไรที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยให้สัมภาษณ์ว่า หลานแสบ และเกเร แต่เจ้าตัว ไม่ตอบคำถามใด ๆ แต่การสังเกตสีหน้า พบว่า ค่อนข้างเคร่งเครียด
เช่นเดียวกับนายกิจจา ที่เคยโวยวายก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ไม่พูดอะไร และผู้ต้องหาหญิงอีก 2 คน ก็ไม่ตอบคำถามสื่อเหมือนกัน
สำหรับข้อหาที่ทั้ง 4 คนถูกดำเนินคดีได้แก่
- เสพยาเสพติดประเภท 1
- ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาต
- ด้าน นายนรเศรษฐ์ โดนแจ้ง 2 ข้อหา เพิ่ม คือ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ
ต่อมา เจ้าหน้าที่นำตัวทั้ง 4 คนไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งเเรกเป็นเวลา 12 วัน โดยศาลพิจารณาเเล้ว อนุญาตฝากขังได้
ต่อมา ผู้ต้องหาทั้ง 4 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เเล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข
ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ต้องหาทั้ง 4 ได้ประกันตัว โดย...
- นายกิจจา ศาลตีราคาประกัน 2 หมื่นบาท
- นายนรเศรษฐ์ ศาลตีราคาประกัน 55,000 บาท
- น.ส.วาริศ ทัศนจิต ศาลตีราคาประกัน 2 หมื่นบาท
- น.ส.อัญชลีพร เหมือนแก้ว ศาลตีราคาประกัน 55,000 บาท
- ทั้งนี้ โดยศาลไม่กำหนดเงื่อนไขใด ๆ
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังศาลอนุญาตให้ประกันตัว ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 วางเงินประกันตามวงเงิน และได้ปล่อยตัวชั่วคราว (นายกิจจา และ นายนรเศรษฐ์) ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 (น.ส.อัญชลีพร และ น.ส.วาริศ) ไม่มีเงินวางประกันมาวาง เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย. 67) ศาลจึงออกหมายขังไว้ หากยังไม่มีใครมาประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ก็จะนำตัวผู้ต้องหาที่ 3-4 ไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
ทั้งนี้ มีข้อมูลว่า จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายกิจจาเคยถูกดำเนินคดี เมื่อปี 2565 ในพื้นที่ สน.ทุ่งครุ ข้อหาฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
ต่อมา ในปี 2566 ถูกดำเนินคดีข้อหานำเข้า ส่งออกจำหน่าย มีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ในจังหวัดอุทัยธานี
ส่วนนางสาววาลิส พบมีประวัติถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
----------------------