สังคม

ตั้งข้อหาเสพยาเพิ่ม หลังพบ 'นรเศรษฐ์' ฉี่ม่วง - 'ชาดา' ลั่นคนนี้มันแสบ ให้ จนท.จัดการเต็มที่เลย

โดย nattachat_c

12 มิ.ย. 2567

28 views

กรณีลูกพี่ลูกน้อง นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมเพื่อนรวม 4 คน โดนจับพร้อมยาเสพติด (ยาไอซ์) และอาวุธปืนที่โรงแรมแห่งหนึ่ง เบื้องต้นทั้งหมดให้การปฎิเสธ และตำรวจไม่ให้ประกัน ดังนั้นคืนที่ผ่านมานอนห้องขังโรงพัก ก่อนจะไปฝากขังวันนี้ (12 มิ.ย. 67)


โดยมีภาพขณะที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 บุกเข้าจับกุมนาย นรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของนาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย / นาย กิจจา / นางสาว วาลิส / และนางสาว อัญชลีพร ขณะอยู่ภายในห้องพัก ของในโรงแรมแห่งหนึ่ง ภายในซอยเพชรบุรี 47 พร้อมยึดของกลางคือ

  • ยาไอซ์ 6 ถุง
  • อาวุธปืน 11 มม. จำนวน 1 กระบอก
  • กระสุนปืน 6 นัด


หลังตำรวจฝ่ายสืบสวนมีข้อมูลว่า มักจะมีชายหญิงมาเปิดห้องที่โรงแรมดังกล่าวเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงเก็บข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง


จนกระทั่งทราบว่า เมื่อคืนวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา บุคคลกลุ่มนี้ได้มาเปิดห้องพักอีกครั้ง จึงนำกำลังไปดักซุ่มอยู่ที่ด้านล่างของโรงแรม


แล้วนางสาวอัญชลีพร ลงมาที่ลอบบี้ของโรงแรม จนท.จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพว่า นัดเพื่อนชายหญิง มามั่วสุมเสพยาจริง ก่อนจะพาไปที่ห้องพัก ในห้องตำรวจพบนาย นรเศรษฐ์ / นายกิจจา / และนางสาววาลิส อยู่ภายในห้อง จึงขอตรวจค้น และพบไอซ์ อยู่ในซองพลาสติก 6 ซอง วางอยู่บนโต๊ะ ส่วนอาวุธปืนค้นได้จากตัวของนายนรเศรษฐ์ ประกอบกับนาย กิจจา / นางสาว วาลิส / และนางสาว อัญชลีพร ยอมรับว่า มามั่วสุมเสพยาจริง และไอซ์ที่พบเป็นของนาย นรเศรษฐ์ แต่นายนรเศรษฐ์ปฏิเสธ จึงคุมตัวทั้งหมดมาที่ สน.มักกะสัน

---------------------

ส่วนบรรยากาศที่ สน.มักกะสัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามีทนาย และเพื่อนของผู้ต้องหามาเยี่ยมตั้งแต่เช้า


โดยเพื่อนของผู้ต้องหาบอกว่า นายนรเศรษฐ์เป็นญาติของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนนายกิจจาเป็นคนขับรถของนายนรเศรษฐ์ ด้านนางสาววาลิส และนางสาวอัญชลีพร เป็นคนรู้จักของทั้งคู่ที่รู้จักกันมานาน ไม่ใช่เด็กเอนเตอร์เทน


หลังการสอบปากคำราว 6 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนนำตัวทั้ง 4 คน ออกมาจากห้องสืบสวน เพื่อนำสอบปากคำต่อที่ห้องสอบสวนชั้น 1 ภายในโรงพัก


ทีมข่าวสอบถามนาย นรเศรษฐ์ ว่ากังวลใจในคดีหรือไม่ และมั่วสุมยาเสพติดหรือไม่ รวมถึงได้ติดต่อนายชาดาหรือยัง เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใด ๆ เพียงแต่พูดทิ้งท้ายก่อนเข้าห้องสอบสวนว่า "ไม่มีอะไรต้องกังวล"


จากนั้นประมาณ 10 นาที พนักงานสอบสวนได้นำตัวทั้ง 4 คน มายังห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อให้ทั้งหมดถอดอุปกรณ์ในตัว ทั้งกระเป๋า และเสื้อผ้า รวมถึงทรัพย์สินมีค่าออกจากตัว ก่อนจะนำตัวเข้าไปในห้องขังที่อยู่ชั้น 2 ของ สน. พื่อรอส่งศาลในวันนี้ (12 มิ.ย. 67) โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ยังไม่ตอบคำถามใด ๆ และอยู่ในอาการเคร่งเครียด


นายเกริกเกียรติ กิ่งแก้ว ทนายของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เบื้องต้นทุกคนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยวันนี้ (12 มิ.ย.) ญาติได้เตรียม หลักทรัพย์เป็นเงินสด 4 หมื่นบาท ไปยื่นประกันตัวในชั้นศาล เท่าที่ดู ตอนนี้ ทุกคนไม่เครียด ส่วนข้อเท็จจริงต่าง ๆ นายนรเศรษฐ์ เล่าให้ฟังแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้


เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์)โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาเพิ่ม นายนรเศรษฐ์ ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ


และวันนี้ (12 มิ.ย. 67) 10 โมงเช้าพนักงานสอบสวนจะคุมตัวทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา รัชดา ฝากขังผัดแรก


ขณะที่ทางด้าน พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน เปิดเผยว่า เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือ โดยตำรวจไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรที่ 1 ในผู้ต้องหามีนามสกุลเหมือนกับนักการเมืองคนหนึ่ง หลังจากนี้จะตรวจหาสารเสพติดผู้ต้องหา เนื่องจากตอน กก.สส.บก.น.1 จับกุมมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพเท่านั้น


ส่วนที่เปิดห้องที่โรงแรมดังกล่าวเพื่อมั่วสุมเสพยาเสพติดนั้น พ.ต.อ.อุรัมพร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ดูจากโรงแรมมองว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัวมากกว่า จะมีแต่ผู้เข้าพักมากับครอบครัว ยังไม่เคยมีพฤติกรรมที่มีคนมาเปิดปาร์ตี้ยา หลังจากนี้ จะขยายผลจับกุมครั้งต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาที่ สน.มักกะสัน มีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาเยี่ยมและสังเกตการณ์ แต่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ระบุเพียงว่ามาสังเกตการณ์เท่านั้น แต่ในส่วนของคดีให้ทนายเป็นคนดำเนินการ


ทั้งนี้ สำหรับนายนรเศรษฐ์เป็นญาติ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ซึ่งบิดานายชาดาเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของบิดานายนรเศรษฐ์ จึงมีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน


และนายกิจจาเป็นคนขับรถนายนรเศรษฐ์ ส่วน น.ส.วาลิส และ น.ส.อัญชลีพร ไม่ใช่เด็กเอน แต่เป็นคนรู้จักของทั้งสองที่รู้จักกันมานาน สำหรับนามสกุลเหมือนแก้ว นั้น ไม่ใช่ญาติ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น.แต่อย่างใด เพียงแต่นามสกุลเหมือนกันเท่านั้น

------------------

ล่าสุด ผลการตรวจสารเสพติด ของทั้ง 4 คน ออกมาแล้ว พบบว่ามีการเสพยาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตั้งข้อหาเพิ่ม คือ เสพสารติดให้โทษประเภท 1 

------------------
วานนี้ (11 มิ.ย. 67) นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ให้สัมภาษ​ณ์ ระหว่างร่วมพิธีฮัจญ์ อยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยยอมรับ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ ที่ถูกจับภายในห้องพักโรงแรมดังย่านห้วยขวาง พร้อมยึดของกลางยาเสพติด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน เป็นหลานของตนจริง 


จากนั้น ถามว่าโดนจับยาอะไร ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเป็นยาไอซ์พร้อมกับอาวุธปืน นายชาดา จึงกล่าวว่า คนนี้มันแสบ ไปทั่วหมด ก็สมควรแล้ว แม้จะเป็นหลานของรัฐมนตรี ตนก็ต้องขอบอกว่าเอาให้เต็มที่เลย ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เต็มที่เลย และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนอยู่แล้ว


ที่ผ่านมาตนก็เคยตักเตือน ว่ากล่าวไปตั้งนานแล้ว และเขาก็ไม่ค่อยได้เข้าบ้านตน เพราะที่ผ่านมาเขาก็เป็นคนเกเร และมีข่าวเรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งตนก็เคยตักเตือนไปแล้วด้วย

------------------

ครอบครัว ไทยเศรษฐ์ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ยังมีอีก 1 คดีทีเป็นข่าวดัง คือ กรณี ลูกเขยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกตำรวจบุกจับคาหนังคาเขา ฐานเรียกรับสินบนสร้างประปาหมู่บ้าน ล่าสุด มีรายงานว่า คดีนี้ ปปป. เพิ่งสรุปสำนวนส่งอัยการให้พิจารณาสั่งฟ้องไปช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

------------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/6LOgFhcxXFM




คุณอาจสนใจ