สังคม
ถังออกซิเจนระเบิดย่านหนองแขม ฉีกร่างคนงานขาด 2 ท่อน - เพื่อนบ้านเล่านาทีบี้ม คาดเกิดจากการกระแทก
โดย petchpawee_k
24 พ.ค. 2567
110 views
ถังบรรจุออกซิเจนระเบิด ย่านเพชรเกษม 77/8 พบคนงานชายวัย 30 โดนแรงระเบิดอัดร่างขาดครึ่งก่อนเสียชีวิต – เจ้าของ ปัด ทำบริษัทเติมออกซิเจน บอกบ้านเกิดเหตุ เป็นเพียงจุดเก็บถังจากโรงงานอุตสาหกรรม ระบุ ไม่รู้ระเบิดเพราะเหตุใด – ด้านเพื่อนบ้านได้รับผลกระทบ บ้านพังอื้อ – ลุง บ้านหลังติดกัน ลั่น คิดมาตลอดสักวันต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เผย พอมีเสียงระเบิดรู้ทันทีว่าสาเหตุต้องมาจากถัง
วานนี้(23 พ.ค.67) เวลา 11.00 น. เกิดเหตุถังบรรจุอิทิซิลีน, ออกซิเจน และคาร์บอน ซี่งเป็นถังเปล่า ในทาวเฮ้าส์ 2 ชั้นหลังหนึ่ง ในซอย 77/8 แขวงหนองค้างหลู เขตหนองแขม กรุงเทพ แรงระเบิดส่งผลให้มีคนเสียชีวิต 1 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และหน่วยบรรเทาสาธารณภัยเขตหนองแขม เร่งเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ก่อนประสาน ตร.สน.หนองแขม และทีมพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ
ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดจากชาวบ้านในหมู่บ้าน จะเห็นว่า เวลา 11.00 น. ได้ยินเสียงนาทีถังระเบิด เสียงดังสนั่น จนชาวบ้านต่างวิ่งออกจากบ้านมาดูด้วยท่าทีตื่นตระหนกว่าเกิดอะไรขึ้น
ทีมข่าวตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทราบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวเฮ้าท์ สูง 2 ชั้น เปิดกิจการเป็นร้านขายส่งอ๊อกซิเจน บริเวณหน้าบ้านชั้นล่างใช้เก็บถังอ๊อกซิเจน พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีแดง ท้ายรถกั้นคอกสูงภายในมีถังออกซิเจนวางเรียงอยู่ท้ายกระบะ กว่า 10 ถัง จอดอยู่ พร้อมกันนี้พบเศษซากถังอ๊อกซิเจน กระจายทั่วพื้นและคราบเขม่าสีดำจากแรงระเบิด ส่งผลให้ตัวบ้านและกันสาดพังยับเยิน บริเวณท้ายรถกระบะ
ใกล้จุดเกิดเหตุพบร่างชาย 1 คน ทราบชื่อคือ นายบัณฑิต ประดุจชนม์ อายุ 30 ปี ชาว จ.มหาสารคาม คนงานส่งถังออกซิเจน นอนสภาพขาดครึ่งตั้งแต่ช่วงเอวลงไป มีเขม่าเกาะเต็มตัว นอนอยู่กับพื้น ชิ้นส่วนหลายส่วนแยกออกจากกัน ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่เข้าไปพบนายบัณฑิต ยังไม่ได้เสียชีวิต ยังคงกะพริบตาและขยับแขนได้อยู่ เจ้าหน้าที่ถามว่า “พี่ยังโอเคอยู่นะ” นายบัณฑิต ยังคงกระพริบตาตอบอยู่ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดยนางสาวสกาวเดือน พุทธรรมา อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ภารกิจการช่วยเหลือเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง พบผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายบัณฑิต มีสภาพขาดครึ่งท่อน อวัยวะ ส่วนขาและแขน กระเด็นออกไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร เบื้องต้นที่มาถึงยังพบว่ามีชีพจรอยู่ จึงพยายามกู้ชีพอย่างเร่งด่วน พยายาม CPR 4-5 นาที แต่ก็ไม่เป็นผล นายบัณฑิต ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะเดียวกันบริเวณชั้น 1 ของอาคารมีสภาพ พังเสียหายจากแรงระเบิด มีรถกระบะ บรรทุกถังออกซิเจน จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ถังออกซิเจนกระจัดกระจายอยู่ตามพื้น คาดว่าน่าจะเกิด เหตุระเบิด บริเวณภายนอกของอาคาร
ต่อมาหลังเกิดเหตุ พบว่า นายชัยวัฒน์ เจ้าของกิจการและเจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เข้ามาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ บอกว่า ตัวเองประกอบกิจการจัดเก็บถังออกซิเจน จากโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อเอามาไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อเตรียมนำไปเติมออกซิเจนจากโรงงาน ก่อนนำถังเหล่านี้ ส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมอีกทอดหนึ่ง ไม่ได้ประกอบ หรือมีการเติมถังออกซิเจนแต่อย่างใด
ส่วนสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่คนงานของตัวเอง กำลังขนถังออกซิเจนเปล่าขึ้นรถกระบะ นำไปเติมออกซิเจน แต่ไม่ทราบถึงสาเหตุการเกิดระเบิดขึ้นว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งปกติแล้ว เป็นไปได้ยาก สันนิษฐานว่าทางที่ระเบิดอาจมีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ภายใน
นอกจากนี้ทีมข่าวได้คุณลุงนิธิ เพื่อนบ้านที่บ้านติดกับหลังที่เกิดเหตุ ซึ่งมองไปจากบ้านของคุณลุงนิธิ จะเห็นถังต่างๆวางเรียงรายได้อย่างชัดเจน โดยแรงระเบิดส่งผลให้บ้านคุณลุง เสียหายเยอะพอสมควร ทั้งประตู หน้าต่าง กระจก แตกเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุนั่งอยู่บนโต๊ะกินข้าวกับครอบครัว 5 คน แต่ก่อนหน้าได้ยินเสียงรถมาจอดแล้ว ซึ่งจะมาแบบนี้ทุกวัน แต่เมื่อวาน (23 พ.ค.67) มาจอดเพียง 5 นาทีก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น พอเสียงระเบิดดังตู้มตนได้ต้อนให้คนในครอบครัววิ่งออกมาด้านนอกให้หมด เพราะรู้ว่ามีถังเก็บอยู่อีกเยอะ กลัวเป็นอันตราย พอวิ่งออกมาเห็นกลุ่มควันสีขาวกระจายเต็มพื้น แต่ยังไม่เห็นว่ามีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่
โดยตอนเกิดเหตุตกใจมาก เสียงดังสนั่น และตอนเกิดเหตุระเบิดคิดทันทีว่าเป็นถังข้างบ้านระเบิดอย่างแน่นอน และคิดมาตลอดว่าต้องมีวันที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทั้งนี้ มองว่าสภาพถังมีลักษณะเก่าเก็บ เพราะเก็บอยู่ตรงนี้มานานแล้วกว่า 10 ปี
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้เป็นกังวลมาก แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะเขาก็ทำมาหากิน จากนี้คงไม่กังวลเท่าไหร่แล้วว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะมองว่าจากนี้คงไม่สามารถเก็บถังไว้ในบ้านได้แล้ว
นอกจากนี้ยังพบว่าแรงระเบิด ทำให้เศษเหล็กกระเด็นไปโดนบ้านช้าวบ้านหลายหลัง อย่างอย่างบ้านของคุณป้าพิมพ์สิริ อายุ 69 ปี ที่อยู่ห่างประมาณ 200 เมตร เหล็กทะลุหลังคาบ้านจนเป็นรู 2 รู ขนาดค่อนข้างใหญ่ จนต้องเอาผ่ามาปิดเอาไว้ คุณป้าเล่าให้ฟังสั้นๆว่าตกใจมากๆ เพราะเสียงดังสนั่น อีกอย่างตัวเองเป็นโรคหัวใจ เพิ่งผ่าตัดมาได้ไม่นานด้วย
ขณะเดียวกันยังพบว่าเศษเหล็กยังบินข้ามหลังคา ไปหล่นอีกฟากฝั่งกับบ้านที่เกิดเหตุ ไกลประมาณ 500 เมตร ซึ่งคุณลุงประพันธ์ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นคนเห็นนาทีที่เหล็กบินข้ามหลังคามา พาทีมข่าวเดินดูจุดที่เศษเหล็กตก พร้อมเล่าว่า ตอนนั้นตนนั่งเล่นอยู่ๆแถวศาลเจ้าของหมู่บ้าน ตอนแรกยังไม่คิดเลยว่าเป็นเสียงจากถังระเบิด นึกว่าเป็นเสียงเครื่องบิน เพราะเสียงดังกว่าปืนใหญ่ สะเทือนไปหมด ถึงขึ้นนึกว่าเครื่องบินมาตกอยู่แถวนี้ สักพักก็มีคนเดินมาบอกว่าเกิดจากถังบรรจุออกซิเจนระเบิดจึงได้เดินไปดู
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองแขม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ก่อนจะนำร่างของผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพโดยละเอียด ระหว่างนั้น น.ส.ผึ้ง อายุ 31 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เนื่องจากเสียใจและรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมพูดออกมาว่า “ทำไมต้องเป็นมึง ทำไมเมื่อเช้าไม่ให้มาด้วย” และขอเจ้าหน้าที่ไปดูร่างแฟนหนุ่ม พอไปดูเจ้าตัวก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
ก่อนจะเปิดใจด้วยสั้นๆว่า แฟนหนุ่ม หรือนายบัณฑิต ทำงานนี้มานานแล้ว เป็น 10 ปี ตัวเธอเองก็เคยบอกว่างานนี้มันอันตราย แต่เขาก็ทำมานาน ส่วนอุปกรณ์ป้องกันแฟนหนุ่มก็ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง ส่วนวันเกิดเหตุไม่ได้มาด้วย แฟนออกมาก่อน
ส่วนตัวเคยทำงานเป็นเพื่อนแฟนบ้าง แต่มาทีไรก็จะนั่งหน้ารถหรือหน้าบ้าน ไม่ได้ลงไปช่วย จึงไม่รู้ว่าแฟนเอาท่อแก๊สลงแบบใด แต่ก็ยอมรับว่าผู้ตายปกติเป็นคนสูบบุหรี่
-----------------------
ผอ.เขตหนองแขม สั่งปิดพื้นที่เหตุถังเคมีระเบิด เร่งขนยายออกจากชุมชนโดยด่วน คาดถังบรรจุออกซิเจนระเบิด เกิดจากแรงกระแทก
ภายหลังเกิดเหตุระเบิด เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตหนองแขม กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตำรวจสน.หนองแขม และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จากกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการระเบิดของถังเคมี
นางมณีวรรณ ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตหนองแขม เปิดเผยว่า บริเวณจุดที่เกิดเหตุเป็นเพียงจุดรับออเดอร์ โดยจะมีคนงานมารับถังก๊าซและออกซิเจนไปส่งให้ตามบริษัทต่างๆ มีทั้งหมด 71 ถัง ประกอบด้วย อะเซทิลีน 18 ถัง ออกซิเจน 37 ถัง คาร์บอน 16 ถึง โดยทั้งหมดเป็นเพียงถังเปล่าเท่านั้น
ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการกระแทกของโลหะกระทบกันอย่างรุนแรง ซึ่งถังที่เกิดการระเบิดเป็นถังที่ใช้งานได้อยู่ไม่ใช่ถังเก่า ทั้งนี้ พบว่าจุดเกิดเหตุไม่ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ถึงได้ออกคำสั่งให้ขนย้ายถังที่มีความเสี่ยงออกจากพื้นที่ทั้งหมด โดยเฉพาะถังอิทิซิลีนจะถูกขนย้ายก่อนในลำดับแรก และภายใน 2 วันผู้ประกอบการจะต้องขนย้ายผังทั้งหมดออกจากพื้นที่ พร้อมกับออกประกาศคำสั่งไม่ให้มีการใช้สถานที่เก็บสารหรือก๊าซทุกชนิด
สำหรับความผิดทางกฎหมาย ผู้ประกอบการมีความผิดตาม พรบ.สาธารณสุข ซึ่งหลังจากนี้ทางสำนักงานเขตจะจัดเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบความถูกต้องอย่างละเอียด หากพบมีความผิดจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
ส่วนมาตรการเยียวยาลูกจ้างที่เสียชีวิตจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล และเจ้าของกิจการก็ยินดีที่จะเยียวยาลูกจ้างที่เสียชีวิต ตลอดจนบ้านเรือนของประชาชนใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหายด้วย
ด้านนายชุม สนสายัณต์ หัวหน้าสถานีดับเพลิงบางแค บอกว่า การระเบิดดังกล่าว เกิดจากแก๊สที่คงค้างในถังแล้วใช้ไม่หมด และถ้ามีการเคลื่อนย้ายหรือตกกระแทกก็อาจจะทำให้ระเบิดได้ และถ้าถังเกิดเสื่อมสภาพจะระเบิดได้หรือไม่ ยืนยันว่า ไม่ได้ และตามปกติแล้วการเติมแก๊สลงไปทางโรงงานที่บรรจุจะต้องเทสถังก่อน ถ้าชำรุดก็จะไม่มีการบรรจุลงไป
ส่วนข้อสันนิฐาน เกิดจากการกระแทกของถัง เกิดการลุกไหม้ อุณหภูมิ 300 องศาก็สามารถระเบิดอย่างรุนแรงได้ และถังอะซิทิลีน เป็นวัตถุไวไฟมาก ก็มีความเป็นไปได้หากเกิดประกายไฟจากบุหรี่ แต่ต้องรอเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ เพราะถังหากไม่มีการเปิดแก๊สก็จะไม่ออกมา แต่โดยทั่วไปก็คงไม่มีใครเปิดถังแล้วสูบบุหรี่ไปพร้อมกัน
เมื่อถามว่าสารที่อยู่ในถังมีจำนวนเยอะหรือไม่ นายชุม ระบุว่า คาดว่าคงเหลือไม่เยอะมาก แต่เกิดจากการขยายตัวทำให้เกิดแรงกระแทกและเกิดการระเบิดภายในได้ ส่วนแรงระเบิดจะกระทบกับถังอื่นๆหรือไม่ต้องรอการตรวจสอบต่อไป
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BQ4cs7qvblI
แท็กที่เกี่ยวข้อง ถังออกซิเจนระเบิด ,ถังออกซิเจน ,อะซีทีลีน