สังคม

อายัดทรัพย์ หลานสาวเจ้าของ 'แหนมดอนเมือง' ร่วมมือสามี ยักยอกเงินเกือบ 400 ล้าน

โดย thichaphat_d

9 พ.ค. 2567

1.1K views

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (8 พ.ค.2567) ตำรวจกองปราบปราม บุกค้น 7 จุด ใน 3 จังหวัด รวบสองผัวเมียหลานเจ้าของแหนมดอนเมือง หลังพบทุจริตเงินบริษัทเกือบ 400 ล้านบาท

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นการร่วมกันของหลายหน่วยงานทั้ง กองปราบปราม / ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. / สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. สนธิกำลังกว่า 100 นาย กระจายกำลังเข้าตรวจค้น 7 จุด ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี 5 จุด / จ.นครนายก 1 จุด และ จ.นครราชสีมา 1 จุด

จุดสำคัญ คือ ที่บ้านหรูในหมู่บ้าน คาซ่าวิลล์ รังสิต-คลองสอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายธชธร เนื้อเย็น อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และ น.ส.นภษร หรือไข่มุก เนื้อเย็น อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี

แต่ตอนไปถึงไม่พบว่ามีคนอยู่บ้าน ทราบว่าทั้งคู่เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เพื่อไปทำบุญวันคล้ายวันเกิดแม่ของ น.ส.นภษร ที่วัดชัยเภรีย์ ต.พลับพลาไชย อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ตำรวจจึงตามไปจับตัวถึงที่วัด ขณะที่กำลังส่วนอื่นค้นที่บ้านพักของ น.ส.นภษร เพื่อสืบหาทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิด

จากการตรวจค้นพบรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ รุ่นคาเยน จอดเก็บไว้อยู่โรงจอดรถข้างบ้าน นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าน่าจะได้มาจากการกระทำผิดหลายรายการ โดยเฉพาะบ้านพัก โฉนดที่ดิน และรถหรูยี่ห้อต่างๆ หลายคัน เพื่อนำมาตรวจสอบที่ไปที่มาของการได้มาซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้

สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2566 บริษัทแปรรูปแหนมดอนเมือง ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์แปรรูปแหนมยักษ์ใหญ่ชื่อดัง ก่อตั้งมานานกว่า 40 ปี ได้ตรวจพบความผิดปกติภายในบริษัท ที่ทำให้เชื่อว่าน่าจะมีการฉ้อโกงทุจริตเงินบริษัทจากบุคคลภายในเกิดขึ้น จึงส่งตัวแทนเข้าร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปราม จนทราบว่า น.ส.นภษร หนึ่งในผู้ต้องหา ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเจ้าของบริษัทฯ ที่มอบหมายให้มาทำหน้าที่ดูแลด้านการเงินและบัญชีรายรับ-รายจ่าย ทุจริตลักทรัพย์เงินของบริษัท

จากแนวทางสืบสวนเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า น.ส.นภษร มีการโอนเงินจากบัญชีธนาคารของบริษัท และนำเช็คของบริษัทฯ ซึ่งออกไว้เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าแก่คู่ค้าของบริษัทโอนเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว รวมถึงทำการเบิกเงินสดตามรายการใบแจ้งหนี้ของบริษัทคู่ค้า แต่ไม่ได้นำไปจ่ายจริง ก่อนนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้เริ่มทุจริตลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2566 เป็นจำนวนรวมกว่า 1,000 ครั้ง ได้เงินไปประมาณ 396,229,584 บาท ก่อนจะมีการยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินต่างๆ เช่น ที่ดินแปลงใหญ่ในพื้นที่ จ.นครนายก บ้านและรถยนต์หรู รวมถึงทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ซึ่งทรัพย์สินบางส่วนมีชื่อ นายธชธร สามีเป็นผู้ครอบครอง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PGKfQGXaSj8

คุณอาจสนใจ

Related News