พนักงานร้านกัญชาร้อง ถูกฝ่ายบุคคลตบ อ้างขโมยเงิน-ด่าผู้บริหาร ขู่เรียก 1 แสนแลกไม่ดำเนินคดี

ฝ่ายบุคคลร้านกัญชาชื่อดัง ตบหน้าพนักงานอ้างยักยอกทรัพย์และด่าผู้บริหาร แถมขู่เรียกเงินอีกคนละ 1 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี พนักงานคนอื่นยืนยันไม่ได้ยักยอกแต่ถูกเหมารวมไปด้วยจึงออกมาแฉว่า มีการบังคับเซ็นสัญญาทาสและข่มขู่สารพัด

เพจ social hunter มีการแชร์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า มีปัญหาในที่ทำงานฝ่ายบุคคล ที่เป็นหัวหน้ามีสิทธิ์มาทำร้ายพนักงานด้วยหรอ #กรุงเทพ โดยในคลิปจะเห็นว่า มีชายเสื้อดำจำนวน 4 คน ทั้งนั่งทั้งยืนรายล้อมพนักงานชายเสื้อสีขาวและมีผู้หญิงเสื้อสีเขียวถูกระบุว่า เป็นหัวหน้า ฝ่ายบุคคลหรือฝ่ายบุคคลยืนเท้าเอวชี้หน้าพนักงานชายเสื้อสีขาวว่า ก็มึงเป็นพนักงาน จากนั้นชายเสื้อสีดำที่ยืนอยู่พูดต่อยังไม่ทันขาดคำ ฝ่ายบุคคลสาวตบเข้าที่หน้าพนักงานอย่างแรง พร้อมบอกว่า มึงจะด่าใครก็ได้ แต่มึงอย่าด่า "เบน"

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้พูดคุยกับพนักงานคนอื่นๆ โดยคุณหนึ่งและคุณสอง(นามสมมุติ) บอกว่า บริษัทดังกล่าวเปิดคาเฟ่กัญชา ประมาณ 11 สาขาทั่วกรุงเทพฯ ปรากฏว่า ทางฝ่ายบุคคลตรวจสอบพบ มีบางสาขาพนักงานมีการทุจริตและยักยอกเงินออกไป ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลและพนักงานระดับหัวหน้า ซึ่งก็คือ ชายเสื้อสีดำทั้ง 4 คน จึงมีการเข้าไปพูดคุยกับพนักงานแต่ละสาขาและมีการขอดูโทรศัพท์มือถือ

ปรากฏว่าในโทรศัพท์มือถือของพนักงานชายเสื้อสีขาวคนที่ถูกตบพบว่า ในไลน์มีการพูดคุยกับเพื่อนพนักงานด้วยกันและพาดพิงไปถึงเจ้าของบริษัทที่ชื่อ "เบน" พอฝ่ายบุคคล สาวเห็นเข้าก็รู้สึกไม่พอใจและลงมือตบหน้าพนักงานชายคนดังกล่าว

นอกจากการตบหน้าแล้ว คุณหนึ่ง และคุณสอง บอกว่า เหตุการณ์ครั้งนั้น มีการข่มขู่กรรโชกทรัพย์ เรียกเงินคนละ 100,000 บาทจากพนักงาน อ้างว่าเป็นการร่วมรับผิดชอบที่พนักงานมีการทุจริตยักยอกเงินในร้าน บางคนไม่มีก็ถูกเรียกเงิน 40,000 - 50,000 บาทก่อนและให้ทำงานใช้หนี้จนกว่าจะครบตามจำนวน

คุณหนึ่งและคุณสอง บอกอีกว่า ทางฝ่ายบุคคล ยื่นข้อเสนอให้พนักงานอีกว่าหากไม่ยอมรับสารภาพและทำงานชดใช้เงิน 100,000 บาท ก็มีตัวเลือกที่ 2 คือ ลาออกและไปสู้คดีกันที่ศาล โดยฝ่ายบุคคล ขู่ว่า จะดำเนินคดีข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

พนักงานประมาณกว่า 10 คน (จาก 30 คน) ไม่ยอมรับข้อเสนอและไม่ยอมเซ็นรับสารภาพเพราะมั่นใจว่า ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยมีการยักยอกหรือทุจริตบริษัท จึงต้องลาออกมาโดยปริยายและอาจจะถูกดำเนินคดีเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ซึ่งตนทั้งคู่ก็พร้อมที่จะสู้คดีเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ ส่วนพนักงานชายเสื้อสีขาว(ในคลิป)ตนไม่ทราบว่าได้มีการทุจริตยักยอกเงินไปหรือไม่แต่พนักงานคนดังกล่าวได้เซ็นรับสารภาพและทำงานใช้หนี้ไปแล้ว อาจจะเพราะว่ากลัวถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี

สาเหตุที่ออกมาร้องผ่านสื่อฯ เพราะต้องการความเป็นธรรม และมองว่าสิ่งที่ฝ่ายบุคคลและบริษัททำไม่ถูกต้อง หากพบว่ามีพนักงานทุจริตหรือยักยอกเงินจากร้านไปจริง ก็ให้ดำเนินคดีเป็นรายบุคคล ไม่ควรที่จะเหมารวมและใช้ลักษณะการขู่กรรโชกทรัพย์

ขณะที่ทีมข่าวได้คุยกับ คุณสาม (นามสมมุติ) อดีตพนักงานของร้านดังกล่าวอีก 1 คน บอกว่าเธอทำหน้าที่เป็นพนักงานขายในร้านกัญชาสาขาหนึ่ง บอกว่า วันที่ฝ่ายบุคคลและ พนักงานระดับหัวหน้าเข้ามาคุยก็จะพยายามบีบกดดันให้เธอยอมรับสารภาพว่า ร่วมกันยักยอกเงินไปจากร้านซึ่งเธอก็ยืนยันว่า เธอไม่ได้ทำ หากมีหลักฐานก็ให้เปิดมา

แต่ทางฝ่ายบุคคล ก็ไม่ยอมเปิด พยายามพูดขู่อีกว่า ถ้าจะเปิดก็ไปเปิดกันในศาล และให้เธอไปแก้ต่างเอาเอง ซึ่งมีพนักงานบางคนที่ไม่ได้ยักยอกเงิน แต่ก็ยอมเซ็นเอกสารรับสารภาพและทำงานใช้หนี้เพราะโดนข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีหากไม่เซ็นเอกสาร ส่วนกลุ่มที่ไม่ยอมเซ็น อย่างพวกเธอก็ต้องลาออก และเมื่อเธอเรียกร้องเงินชดเชยการเลิกจ้างไป ทางฝ่ายบุคคลบอกว่า ต้องไปสู้ในกระบวนการศาล ก่อนว่าบริสุทธิ์จริงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินไป

ซึ่งพฤติกรรมที่ฝ่ายบุคคล และกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาพูดลักษณะนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นการคุกคามและข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ตัดสินคนอื่นว่าผิด ต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังคุณเล็ก เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล หญิงคนดังกล่าวที่อยู่ในคลิป ชี้แจงพร้อมเปิดกล้องวงจรปิดของร้านสาขาสุขุมวิท 39 ให้ผู้สื่อข่าวดู

โดยคุณเล็ก บอกว่าสาเหตุที่ลงมือตบหน้าน้องพนักงานเสื้อสีขาวเนื่องจากจับได้ว่าน้องร่วมกับพนักงานคนอื่นในการขโมยเงินร้านและไปเจอแชทอีกว่าน้องพนักงานเสื้อขาวคนดังกล่าวมีการด่าทอผู้บริหาร ตนถึงรู้สึกโกรธและโมโหมาก จึงพลั้งมือตบเข้าที่หน้าน้องไปอย่างแรง ตนได้ขอโทษน้องแล้วและรับผิดในส่วนนี้แล้ว

ส่วนเรื่องพฤติกรรมการทุจริตฉ้อโกงเงินของบริษัทเกิดขึ้นมา 5-6 เดือนแล้ว ในส่วนของการจัดโปรโมชั่นสินค้า แต่น้องพนักงานกลับขายราคาเต็มและนำเงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยทำกันเป็นขบวนการ ยืนยันว่ามีภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดชัดเจน และขณะนี้ได้ส่งหลักฐานให้กับตำรวจแล้ว

ส่วนกรณีคลิปที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไปว่า คุณเล็กได้ลงมือทำร้ายร่างกายหนึ่งในพนักงานยอมรับว่าเกิดความโมโหที่ทราบมาว่าพนักงานคนดังกล่าวนำเรื่องของบริษัทไปพูดนินทา

สำหรับเรื่องการข่มขู่กรรโชกทรัพย์ยืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น และเรื่องของเงินที่ให้พนักงานจ่ายให้กับบริษัท เกิดขึ้นหลังจากเจรจาไกล่เกลี่ย โดยพนักงานยินยอมที่จะจ่ายค่าเสียหายให้กับบริษัท แต่หากพนักงานคนไหนไม่ยินยอมก็ไม่ได้มีการบังคับและให้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

https://youtu.be/SB2t1HamZpk