สังคม
'กองกำลังต่อต้าน-ทหารเมียนมา' แห่หนีเข้าไทยรักษาตัว ต้องจับแยก รพ.หวั่นเกิดเหตุปะทะ
โดย nattachat_c
22 เม.ย. 2567
51 views
วันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 19.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ทางกองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสหภาพเมียนมา ได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ทิ้งระเบิดโจมตีทหารเมียนมา กองพัน ร.275 ซึ่งวางกำลังอยู่บริเวณพื้นที่สะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) บ้านเยปู่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ห่างจากแนวชายแดน ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ต่อมา เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 06.00 น. ผู้สื่อข่าวรายบรรยากาศบริเวณชายแดน ไทย-เมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ทางกองกำลังชนกลุ่มน้อยฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสหภาพเมียนมา ได้ใช้ปืนเล็ก ปืนกล และเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. และใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) โจมตี พัน ร.275 ภาคทหารบกตะวันออกเฉียงใต้ (ภทบ.ตอ./ต.) และ พล.ร.เบา 44 ซึ่งกระจายกำลังอยู่บริเวณพื้นที่ สะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) บ.เยปู่ (MU 449471) อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ.วังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1.5 กม. อย่างหนัก
เวลา 08.30 น. มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่บริเวณพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ได้หลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย จำนวน 217 คน
--------------
วานนี้ (21 เม.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์สู้รบระหว่าง กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) แกนนำกองกำลังฝ่ายต่อต้าน รวมทั้ง กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) // องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และกองกำลังประชาชน (PDFs) กับกองบัญชาการตะวันออกเฉียงใต้ของกองทัพเมียนมา ว่า
ล่าสุด กองกำลังฝ่ายต่อต้านเปิดฉากโจมตีตลอดทั้งวัน จนทำให้ขณะนี้ สามารถบุกควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไทย-เมียนมา สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 และ 2 ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ได้เป็นที่เรียบร้อย มีการปิดการเดินทางข้ามไปมาระหว่างพื้นที่ถาวร โดยเฉพาะสะพานมิตรไทย-เมียนมา ทั้ง 2 แห่ง โดยเข้าควบคุมการเดินทางเข้าออกชายแดนแดนด้านแม่สอดทั้งหมดไว้แล้ว
ในเวลาเดียวกัน พบว่า ทหารเมียนมาเสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ต้องหลบหนีการตามล่าจากฝ่ายต่อต้านที่เคียดแค้นเพราะถูกกระทำมานาน ต้องหลบหนีไปตามชายแดนพม่า-ไทย โดยมาพร้อมผู้บาดเจ็บที่ข้ามมาอย่างทุลักทุเล เพื่อให้ฝ่ายไทยช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
ขณะที่ ผู้ลี้ภัยที่ได้ลี้ภัยเข้ามาทางด่านแม่สอด จนถึงขณะนี้ มีจำนวนราว 3,000 คน ทำให้ฝั่งไทยสั่งปิดด่านบริเวณนี้เด็ดขาดแล้ว
นายสมชัยฐ์ กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ได้ไปติดตามสถานการณ์ชายแดน และสถานการณ์ผู้หนีภัยจากการสู้รบ ซึ่งขณะนี้ มีการเปิดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 3 แห่ง ให้ผู้หนีภัยจากการสู้รบในพื้นที่ อ.อุ้มผาง อ.พบพระ อ.แม่สอด ทั้งหมด 3,000 คน
ล่าสุด การสู้รบเบาบางลงในบางพื้นที่ ผู้หนีภัยบอกว่าอยากกลับไปดูบ้าน เพราะเป็นห่วงทรัพย์สินก็ให้กลับไป
ส่วนทางประเทศไทยยังคงประสานงานกับคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ส่วนท้องถิ่น (ทีบีซี.) เหมือนเดิม
-------------
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก โรงพยาบาลแม่สอด ในช่วงเวลา 16.00 น. โรงพยาบาลแม่สอด นำโดย นายแพทย์รเมศ ว่องวิไรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด มีคำสั่งประกาศรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินอีกครั้ง
โดยได้ระดมแพทย์พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ทุกฝ่าย อีกระลอก หลังตลอดทั้งวันที่ผ่านมา มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สู้รบจากฝั่งเมียนมาตามช่องทางต่าง ๆ ไม่จะเป็นพื้นที่ตำบลมหาวัน ตำบลแม่กุ เดินทางข้ามมาฝังไทย
ซึ่งมีทั้งกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเมียนมา และฝ่ายทหารสภาปฎิวัติเมียนมา โดยทั้ง 2 ฝ่าย ต่างประสานผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ตชด. 346 ทหารราชมนู และฝ่ายปกครองแม่สอด ขอนำส่งผู้ป่วยขอเข้ารับการรักษาในประเทศไทย โดยทุกผู้ป่วยพุ่งเป้ามายังโรงพยาบาลแม่สอด และล่าสุดอีก 17 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อาการสาหัสทนพิษบาดแผลมาหลายวัน
ซึ่งล่าสุด พบว่า ยอดผู้บาดเจ็บทั้งหนัก และเบามากกว่า 70 ราย โดยแบ่งไปยังตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลแม่สอด / โรงพยาบาลแม่ระมาด และโรงพยาบาลศูนย์แม่ตาวคลินิก
ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่โรงพยาบาลแม่สอด อาคารผู้ป่วยฉุกเฉิน จำนวนแน่นขนัด โดยมีการรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันการก่อเหตุระหว่างกลุ่มต่อต้าน และฝ่ายรัฐบาลทหาร
ล่าสุด นายแพทย์รเมศ ว่องวิไรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด พร้อมทีมแพทย์ ดำเนินให้รถฉุกเฉินทางการแพทย์เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บจากการสู้รบชายแดนจำนวนหลายราย ซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านชนกลุ่มน้อยนำส่งไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลแม่ระมาด
ทั้งนี้ สาเหตุการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปจากโรงพยาบาลแม่สอด ไปยัง รพ.แม่ระมาด นั้น มาจากเกรงว่ากลุ่มผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นคนละกลุ่มกัน จะก่อเหตุร้ายแรงจากความแค้นที่สู้รบใช้อาวุธสังหารกัน
------------
วานนี้ 21 เมษายน 2567 นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีผู้อพยพหนีภัยสงครามมายังแม่สอดเป็นจำนวนมาก ว่า
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย ก่อนหน้านี้ เราเคยมีกรณีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามฝั่งมาไทย จำนวน 10,000 คน พอเหตุการณ์สงบ ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาก็ข้ามฝั่งกลับไป
นายปานปรีย์ กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวก็เช่นเดียวกัน คาดว่า หากเหตุการณ์ในเมียนมาเริ่มสงบ ผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาที่ข้ามมาฝั่งไทยก็จะทยอยกลับไป
ซึ่งตอนนี้ ได้รับรายงานว่า มีผู้ลี้ภัยชาวเมียนมาข้ามมาฝั่งไทย จำนวน 3,000 คน ซึ่งในจำนวน 3,000 คน นี้ อยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย
ส่วนกรณีที่มีกระสุนปืนหนัก ตกมายังบริเวณกลางแม่น้ำเมย ใกล้กับฝั่งประเทศไทยจนส่งผลให้เกิดกลุ่มควัน และมีกระสุนปืนจากฝั่งเมียนมายิงเข้ามายังฝั่งไทย กระสุนถูกยิงทะลุหน้าต่างมุ้งลวดบ้านหลังหนึ่ง ในบ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ 7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด ทั้งสองกรณีนี้ จะมีการตักเตือนทางการเมียนมา หรือป้องกันอย่างไร
นายปานปรีย์ ตอบว่า เป็นกระสุนจากฝั่งเมียนมา หลุดมาทางฝั่งไทย แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหาย และไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเราได้ทำการเตือนทางฝั่งเมียนมาว่า ให้ระมัดระวัง เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุกล้ำข้ามเขตแดน ไม่ว่าจะทางบก หรือทางอากาศ รวมถึงการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่าให้เข้ามาในประเทศไทย รวมถึงห้ามให้ประชาชนไทยได้รับอันตราย
-------------
วานนี้ 21 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังเกิดปัญหาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เบื้องต้นในวันที่ 23 เม.ย. ภายหลังเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และติดตามสถานการณ์ อ.แม่สอด
โดยเวลา 14.00 น. นายกฯ และคณะเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 บน.6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากหน่วยงานในพื้นที่ ทั้งเรื่องสถานการณ์ทั่วไป การปฏิบัติจากฝ่ายไทย และแผนเผชิญเหตุสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา สภาพเศรษฐกิจและการค้าบริเวณชายแดนจังหวัดตาก รวมถึงการช่วยเหลือประชาชน ทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
จากนั้นนายกฯ จะเดินทางไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด เพื่อพบปะเยี่ยมประชาชนชาวไทย รวมทั้งศึกษาสภาพภูมิสังคม การค้าตามแนวชายแดนบริเวณตลาดริมเมย ก่อนจะเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 17.00 น ของวันเดียวกัน
-----------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rqI3mkRDGlk
แท็กที่เกี่ยวข้อง เมียนมา ,กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ,กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ,ผู้ลี้ภัยเมียนมา ,อ.อุ้มผาง ,อ.พบพระ ,โรงพยาบาลแม่สอด ,ปานปรีย์ พหิทธานุกร ,กระทรวงการต่างประเทศ ,อำเภอแม่สอด ,ตาก ,กำลังชนกลุ่มน้อย ,ชายแดน ไทย-เมียนมา ,สะพานมิตรภาพ ไทย-เมียนมา ,องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ,กองกำลังประชาชน (PDFs)