"ทนายเดชา" แจงเจ้าของสุนัขไม่จำเป็นต้องชดใช้ ปมกัดหญิงป่วยอัลไซเมอร์เสียชีวิต เหตุเข้าบ้านผิด

จากกรณีที่เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนที่ผ่านมา เกิดเหตุหญิงวัย 74 ปี ป่วยอัลไซเมอร์ ถูกสุนัขของเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม กัดจนเสียชีวิตภายในบ้านพักของเพื่อนบ้าน เนื่องจากเข้าบ้านผิด

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ให้ข้อมูลทางกฎหมายถึงกรณีดังกล่าว ว่าจากกรณีที่เกิดขึ้น ตามกฎหมาย มาตรา 33 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ภายในเคหะสถานถือเป็นเสรีภาพในเคหะสถานของตนเอง ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ก็ไม่สามารถบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของบุคคลอื่นได้โดยไม่ได้รับความยินยอม

ในกรณีนี้ สุนัขของบ้านที่เกิดเหตุ เข้าไปกัดผู้ที่บุกรุก ตามกฎหมายแล้วถือว่า เจ้าของบ้านและเจ้าของสุนัข ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เพราะตามกฎหมายแล้ว เจ้าของบ้านที่เลี้ยงสุนัขอยู่ภายในรั้วรอบขอบชิด ถือว่ามีการใช้ความระมัดระวังในการเลี้ยงดูสุนัขแล้วเป็นอย่างดี แม้ว่าในวันเกิดเหตุ ประตูบ้านจะไม่ได้ล็อก ก็ถือว่าไม่มีความผิดเช่นกัน เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพของเจ้าของเคหะสถาน

ส่วนประเด็นที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า กรณีบ้านหลังดังกล่าวมีสุนัขที่มีนิสัยดุร้าย จำเป็นต้องมีการล่ามตัวสุนัขเอาไว้ ตามข้อกฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากสุนัขที่อยู่ในความดูแลของเจ้าของเคหะสถานยังอยู่ในพื้นที่ ได้วิ่งหลุดออกไปทำร้ายผู้อื่น เจ้าของเคหะสถานหรือเจ้าของสุนัข ไม่จำเป็นต้องล่ามสุนัขเอาไว้กับที่ เพราะถือว่าเป็นสิทธิเสรีภาพของเจ้าของเคหะสถานที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย

แต่หากว่ากรณีที่เกิดเหตุสุนัขที่อยู่ในความดูแลของเรา วิ่งออกจากเคหะสถานออกไปทำร้ายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในลักษณะพฤติการณ์แบบนี้ เจ้าของสุนัขถือว่ามีความผิดฐานประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา มีโทษสูงสุดถึงจำคุก 10 ปี รวมถึงยังต้องชดใช้ในคดีแพ่งด้วยเช่นกัน