สังคม

เชิดสินสอดหนีเจรจาขอคืนสินสอด 5 หมื่น-ทอง 2 บาท แล้วจะแยกย้ายกันไปด้วยดี แต่ถูกเจ้าสาวปฏิเสธไม่คืน

โดย kanyapak_w

23 มี.ค. 2567

1.9K views

เชิดสินสอดหนีเจรจาขอคืนสินสอด 5 หมื่น-ทอง 2 บาท แล้วจะแยกย้ายกันไปด้วยดี แต่ถูกเจ้าสาวปฏิเสธไม่คืน ขณะที่ทางฝั่งเจ้าสาวเปิดใจ ไม่ได้เชิดสินสอดแต่เป็นสิทธิ์ที่ต้องได้เพราะตนเป็นฝ่ายเสียหาย และยืนยันจุดแตกหักเกิดจากฝ่ายเจ้าบ่าวเองแค่เรื่องเล็กกลับเป็นเรื่องใหญ่ แถมเอาเรื่องแฟนเก่ามาพูด ยันไม่ขอกลับไปคืนดี และไม่คืนสินสอด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจเรื่องเจ้าบ่าวหนุ่มราชบุรี ได้ออกมาโพต์ภาพงานแต่งและข้อความว่า “มันเป็นไปได้ด้วยหรือ ที่มาบอกว่ารักกัน แต่งงานกันไม่ถึง 4-5 วัน จะขอเลิก บอกว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ แต่ถ้าเลิก เราก็อยากจะได้สินสอดเราคืน สินสอด 2 แสน ทอง 2 บาท มันไม่น้อยเลย บอกจะคืนให้เรา 5 หมื่นบาท แต่เราขอทอง 2 บาทของเราคืนด้วย เค้าก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นของเขาแล้ว ก็ให้เราไปฟ้องศาลเอาเองถ้าอยากจะได้ บอกว่าทางเค้าเสียหาย แล้วแบบนี้จะเรียกว่ารักหรือ แค่เรื่องทะเลาะกันก็มาขอเลิก ค่าใช้จ่ายในงานเราก็ช่วยทุกอย่างเพราะเรารัก เงินทุกบาท เราทำงานตั้งใจเก็บเงินเพื่อจะมาแต่ง กว่าจะหามาได้ เอาไปแบบนี้มันง่ายเกินไปมั้ย ถ้าเรื่องกฎหมายเราอาจจะไม่รู้เยอะ แต่ทำกันแบบนี้เค้าเรียกว่าอะไร จนทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้จำนวนมาก ทั้งฝ่ายชาย และ ฝ่ายหญิง






ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านของเจ้าบ่าว คือ คุณนัท อยู่ที่ ต.ด่านทับตะโก อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เล่าให้ฟังว่า จริงๆแล้วต้นตอก็มาจากเรื่องเงินเป็นส่วนใหญ่ ที่มีปัญหาเราได้ทะเลาะกัน เป็นเรื่องของค่าใช้ในงาน เรื่องค่าใช้จ่ายตนได้คุยกับทางฝ่ายเจ้าสาวว่าจะจ่ายอะไรกันยังใง คือคุยกันหมดแล้ว แต่ทีนี้ไม่รู้ว่าผู้หญิงเขาไปคุยกับแม่เขายังไงก็เลยมีประเด็นมา ที่เป็นประเด็นมาคือทางฝ่ายเจ้าสาวจะให้ตนเองช่วยเรื่องโต๊ะจีนเพราะแขกทางตนเองเยอะ ตนก็ได้พูดกับทางเจ้าสาวว่า ก่อนที่จะเริ่มงาน ได้เงินรับไหว้มาแล้ว ได้เงินค่าซองมาแล้วเอาซองไปช่วยแม่จ่ายโต๊ะจีน แต่ว่าเราไม่ได้คุยกันว่าเราจะช่วยเท่าไหร่ เพราะว่าโต๊ะจีนมี 30 โต๊ะ เป็นเงิน 40,000 บาท ก็มีเรื่องกันในงานคุยกันไม่ลงตัว






พอเขาคุยตกลงกันแล้วเขาจะให้ตนเองช่วยค่าโต๊ะ 20,000 บาท แต่ทีนี้เรื่องซองจะอยู่ที่ทางแม่ส่วนหนึ่ง และอยู่ที่แม่ผู้หญิงส่วนหนึ่ง ซึ่งเรายังไม่ได้แกะหรือว่าไม่ได้นับซอง ก็เลยบอกให้ทางเจ้าสาวสำรองจ่ายโต๊ะจีนไปก่อนได้ไหม อีกครึ่งหนึ่งตนเองจะนำค่าซองไปจ่ายให้ก็คุยจบเรื่องโต๊ะจีนไปแล้วส่วนค่าใช้จ่ายที่ยังหลงเหลืออยู่ มีใช้ค่าโต๊ะจีนอย่างเดียวยังมีค่าออแกไนซ์ด้วยและค่าถ่ายรูปค่าช่างถ่ายรูป ซึ่งตนบอกเขาแล้วว่าตนเป็นคนรับผิดชอบในการจ่ายค่าช่างถ่ายรูป






ส่วนเรื่องออแกไนซ์ตนเป็นตนจ่ายค่ามัดจำไปส่วนที่เหลือยังไม่ได้จ่ายคงเหลือประมาณ 13,900 บาท ก็เลยให้ทางเจ้าสาวคุยกับทางแม่ว่าเงิน 20,000 บาทที่ให้ช่วยจ่ายค่าโต๊ะจีนให้เราเอาไปจ่ายค่าออแกไนซ์เลยนะ และจ่ายค่าช่างแต่งหน้าอีก 5,900 บาท ก็ประมาณ 20,000 เหมือนกันก็คือจบไปเรื่องนี้จากนั้นก็เข้าหอ เพราะว่าเราแต่งงานก็ต้องเข้าหอ ซึ่งทางเจ้าสาวต้องมาเข้าหอที่บ้านตน ซึ่งตนได้เตรียมห้องไว้เรียบร้อย ส่วนเรื่องเครื่องเรือนตนก็เป็นคนจัดแจง มีแต่ให้เขาซื้อผ้าปูที่นอน ซึ่งตนเป็นคนโอนเงินไปให้เขาซื้อก็เหมือนตนเป็นคนจ่าย หลังจากที่เข้าหอแล้ว 3 วัน ซึ่งเป็นไปตามประเพณีตนก็ให้เขากลับบ้านไปทำงานถึงสิ้นเดือน เพราะก่อนหน้านี้คุยกันแล้วว่าเมื่อแต่งเสร็จต้องไปทำงานอยู่เพื่อให้ถึงสิ้นเดือนถึงค่อยกลับมารับ พอตนส่งภรรยาเสร็จก็ขับรถกลับบ้าน กลับมาถึงบ้านเขาก็สอบถามมาเรื่องซองที่อยู่กับแม่เขา คือตนไม่รู้เลยว่าแม่ทางฝ่ายภรรยาแกะซองออกไปทั้งหมดแล้ว รวมถึงซองของญาติเราด้วย และซองของเขายอดเงินเท่าไหร่ เห็นแต่ทางญาติของตนเองมีแค่หมื่นกว่าบาท แต่ส่วนซองทางญาติฝ่ายภรรยาไม่รู้ยอดเลย เขาแค่พูดว่า 17,000 บาท แต่ภรรยาเป็นคนเก็บไว้ ไม่ได้ให้รวมกันเหมือนที่ว่า ซองอยู่ที่แม่ของตนแล้วแม่ตนยังยกให้หมดเลย จริงๆซองเป็นเหมือนส่วนรวมระหว่างเราสองคน เพื่อเอาไปจัดแจงค่าใช้จ่ายที่เหลืออยู่






แต่ทางฝ่ายหญิงก็ยังชวนทะเลาะ เพราะว่ามันจะมีค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งที่ทางฝ่ายหญิงจะต้องจ่ายคนละครึ่งกับทางตนเอง แต่มันเป็นส่วนที่เขาต้องจ่าย แล้วทีนี้ตนจ่ายไปในส่วนของตนไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่เหลือของทางเขาอีกครึ่งที่ต้องจ่ายแต่เขามีไม่พอเขาจึงยืมเงินตนเองไปให้ตนเองช่วยออกก่อนครึ่งหนึ่ง ทีนี้พอเคลียร์ค่าใช้จ่ายว่าไอ้เงิน 3,500 บาท จะเอายังไง เรื่องรูปเนี่ย ทางภรรยาก็พูดประชด ว่าจะเอาเงินสินสอดคืนเลยไหม “ไม่ติดนะ ได้นะ” ตนก็เลยพูดไปว่า “ทำไมพูดอย่างนี้หละ” เราเพิ่งแต่งกัน ตนก็ว่าไปว่า “จะเลิกเหรอ” เขาก็ตอบมาว่า “เลิกได้นะ” เรารับได้หรือเปล่า มันก็มีประเด็นมาเรื่อยๆ ตนก็เลยถามไปว่าถ้าจะเลิกคืนสินสอดเ

คุณอาจสนใจ

Related News