พ่อแม่อุ้มลูกน้อยอำพราง ขนยาบ้า 5.9 แสนเม็ด ไปไม่รอดถูกจับได้คาด่าน

กล้องวงจรปิดบริเวณ ด่านพิทักษ์ธรรม สภ.โหล่งขอด ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ บันทึกภาพ รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็ค สีเทา ขับมาจาก อ.พร้าว มุ่งหน้าเข้าเมืองเชียงใหม่ เมื่อตำรวจประจำด่านเห็นรถคันดังกล่าวขับผ่านมา จึงได้เรียกตรวจค้น เนื่องจากผู้ขับรถยนต์ทำตัวมีพิรุธ ขณะที่มีภรรยานั่งมาในรถโดยอุ้มลูกน้อยอยู่ด้วย

ขณะที่ตำรวจเรียกขอตรวจค้น ชายคนขับแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลน ตำรวจจึงเชิญตัวลงจากรถก่อนจะเข้าตรวจค้นภายในรถ พบถุงกระสอบ 4 กระสอบ อยู่ในเบาะหลังฝั่งคนขับและบริเวณที่พักเท้าฝั่งผู้โดยสาร จึงได้นำลงมาตรวจสอบ พบภายในกระสอบมียาบ้า 598,000 เม็ด จึงควบคุมตัวสองสามีภรรยา มาสอบสวน ทราบชื่อคือ นายสุรสิทธิ์ อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย และ น.ส.จิดาพร อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย

สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 06.00 น. ตำรวจได้นำกำลังตั้งด่านตรวจบนถนนพร้าว-เชียงใหม่ หน้าด่านตรวจพิทักษ์ธรรม สภ.โหล่งขอด โดยเฝ้าสังเกตการณ์และคอยตรวจสอบรถยนต์ที่ผ่านไปมาบนถนนสายพร้าว-เชียงใหม่ ต่อมามีรถยนต์กระบะ ขับมาจากทางถนนเส้นหลักจากทางอำเภอพร้าวมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเชียงใหม่ ตำรวจจึงให้สัญญาณมือหยุดรถ พร้อมกับแสดงตัวตรวจสอบรถคันดังกล่าว

จากการสอบ นายสุรสิทธิ์ ให้การรับสารภาพ ว่ายาบ้าทั้งหมด ตนรับจ้างขนมา โดยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนได้รับว่าจ้างจากนายวิระชัย ให้ไปรับยาบ้าที่ศาลาริมทางบริเวณ ต.แม่ปูนหลวง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จำนวน 4 กระสอบ เพื่อนำไปส่งให้ นายจิระภาส ที่รออยู่บริเวณ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยได้ค่าจ้างลำเลียง 40,000 บาท

ต่อมาวันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 04.30 น. ตนได้เดินทางไปรับยาบ้าบริเวณศาลาริมทางดังกล่าว และตนติดต่อว่าจ้างให้นายเจษฎา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นน้องเขยของตน และน.ส.จันทร์ศรี อายุ 25 ปี แฟนสาวของนายเจษฏา จำนวน 10,000 บาท เพื่อขับรถนำทางและสำรวจเส้นทาง

ต่อมาเมื่อเวลา 07.20 น. นายเจษฎา ขับรถนำทางเข้ามายังด่านตรวจพิทักษ์ธรรม ซึ่งเป็นช่วงที่ตำรวจนั่งพักอยู่พบบริเวณข้างด่าน จากนั้น นายเจษฎา ได้โทรแจ้งให้กับตนทราบว่าตำรวจกำลังนั่งพักอยู่สามารถขับผ่านได้ ตนจึงได้ขับรถเข้ามายังด่าน กระทั่งมาถูกจับกุมได้พร้อมของกลาง ทั้งนี้ตำรวจได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือนายเจษฎา และ น.ส.จันทร์ศรี พร้อมรถยนต์ ซึ่งใช้ขับนำสำรวจเส้นทาง และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครอง เพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”