สังคม

เมียหลวงตำรวจยันไม่เซ็นใบหย่า วอนต้นสังกัดยึดปืนคืน กลัวผัวเมาก่อเหตุร้าย

โดย gamonthip_s

4 มี.ค. 2567

200 views

ความคืบหน้ากรณีความขัดแย้งในครอบครัวของตำรวจที่เป็นกรณีพิพาทระหว่างเมียเก่าและเมียใหม่ที่เป็นเด็ก ซึ่งสามีคบซ้อนตั้งแต่อายุ 14 ปีจน 17 ปี จึงเกิดกรณีพิพาทร้าวฉานของครอบครัว

ซึ่งในวันนี้ทางผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองร้อยเอ็ด ได้เรียกตัวคู่กรณีคือตำรวจผู้เป็นสามีและภรรยาหลวงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ให้เวลา 13:00 น. เพื่อพบกับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัดหมาย มีเพียงฝ่ายภรรยา มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน โดยที่ไม่พบฝ่ายสามี ยศร้อยตำรวจโท ที่เป็นต้นเหตุ สอบถามทราบว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า สามีได้แอบมาพบกับการสอบสวนก่อนหน้านี้แล้วในช่วงเช้าและให้ปากคำไปแล้ว


ในขณะที่ฝ่ายภรรยายังยืนกรานว่าจะให้มีการดำเนินคดีถึงที่สุดในทุกกรณี ที่เป็นไปตามข่าวก่อนหน้านี้ ทั้งด้านการข่มขู่ ด่าทอ และล่าสุดยังมีการโพสต์ข้อความด่าทอ โพสต์ข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย และถึงขั้นจะฆ่าให้ตาย หากไม่หยุด


โดยภรรยาหลวงที่จดทะเบียนสมรสถูกต้อง กล่าวว่า รู้สึกเกรงกลัว ว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย ทั้งตนเองและ ทุกคนในครอบครัวได้ร้องขอให้พนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาจัดสายตรวจไปดูแลภายในหมู่บ้าน เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองและคนในครอบครัวทุกคนได้


พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชายึดอาวุธปืนประจำกายของสามีมาเก็บไว้ เพื่อป้องกันเหตุร้ายใน 2 ประเด็น คือประเด็นแรก กลัวว่าเมื่อสามีเมาสุราก็อาจจะขาดสติจนถึงขั้นเข้าไปยิงตนและคนในครอบครัวได้ ประเด็นที่ 2 เพื่อป้องกันสามีอาจจะคิดสั้นใช้อาวุธปืนประจำกายฆ่าทุกคน ยิงตัวตาย หากเกิดความเครียดก็อาจจะเป็นได้ เพราะทุกครั้งที่สามีเมาสุราก็จะเล่นปืนอยู่เป็นประจำ ตามคลิปที่เคยส่งมาข่มขู่ตนอยู่เสมอ ๆ


พร้อมกันนั้นก็มีการให้บันทึกถ้อยคำลงในสำนวนว่าให้ตนเองและสามีที่กำลังเป็นคู่กรณีและมีปัญหา ให้แยกกันอยู่เป็นการชั่วคราว โดยไม่ให้เข้าไปในบ้านของตนเองอีก เพื่อความสบายใจ จนกว่าเรื่องราวจากยุติ


สำหรับกรณีที่สามีพยายามให้ตนเองยอมเซ็นใบหย่าเพื่อที่ไปอยู่กับเมียใหม่ ยืนยันว่าจะไม่มีการเซ็นให้โดยเด็ดขาด แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็จะใช้ทะเบียนสมรสที่มีอยู่ ในการที่แสดงสิทธิ์ของความถูกต้องโดยตามกฎหมาย ให้เหมือนกับเสี้ยนหนามตำใจของสามีและชู้ให้ไม่มีความสุขในการที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะตนเองยังมีสิทธิ์เต็มที่ในการที่จะเรียกร้องสิทธิ์ในทุกด้านตามกฎหมาย โดยจะไม่ยอมเซ็นอย่าขาดให้โดยเด็ดขาด


ในขณะที่หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านดอนชาด ซึ่งเป็นบ้านของเมียอีกคนของตำรวจ เพื่อฟังความ 2 ด้าน และถามข้อเท็จจริง ปรากฏว่าปิดบ้านเงียบ ไม่มีใครอยู่บ้าน และชาวบ้านบอกว่าเป็นแบบนี้เป็นประจำและถามว่าเคยเห็นตำรวจที่เป็นแฟนหรือไม่มาบ่อยไหม ชาวบ้านบอกว่าไม่เห็น และเคยมีคนถามก็บอกว่าเลิกรากันไปแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จประการใด

คุณอาจสนใจ

Related News