สังคม

สุดกร่าง! พ่อค้าผลไม้ ด่ากราด-หยิบมีดขู่-สาดน้ำใส่เทศกิจ ฉุนถูกไล่ที่ ลั่นขายตรงนี้มา 40 ปีแล้ว

โดย petchpawee_k

29 ก.พ. 2567

436 views

พ่อค้าขายผลไม้ ไม่พอใจถูกเทศกิจไล่ เหตุจอดรถขายริมถนนกีดขวางการจราจร  ด่าทอ-ผลักอก-หยิบมีดขู่ ก่อนสาดน้ำใส่ บอกขายมากว่า 40 ปีแล้ว  ขณะที่ ผอ.เขตบึงกุ่ม ยัน ทางเขตไม่มีจุดผ่อนผัน ปกติหากพบว่าผิด จนท. จะเข้าไปเตือนแล้วอนุโลม แต่ครั้งนี้มองว่าพ่อค้าทำเกินกว่าเหตุ


เมื่อวันที่ 27 ก.พ.67 เวลา 10.39 น. พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท โดยเกิดเหตุบริเวณตรงข้ามซอยนวลจันทร์ 28 เขตบึงกุ่ม กทม.โดยนายวิวัตร์ บุตรสอน เจ้าพนักงานเทศกิจชำนาญการ สำนักงานเขตบึงกุ่ม เดินทางไปลงบันทึกประจำวัน และให้การกับพนักงานสอบสวน ว่าถูกพ่อค้าขายผลไม้ ด่าทอ ข่มขู่ด้วยการใช้มีด และสาดน้ำใส่ ภายหลังตนได้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์โดยใช้เสียงให้พ่อค้าแม่ค้า ที่ขายสินค้าหลังรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล บนถนนนวลจันทร์ เคลื่อนย้าย แต่พ่อค้าคนดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามและไม่พอใจจนทำพฤติกรรมดังกล่าว


จากคลิปจะเห็นว่า พ่อค้าขายผลไม้เดินมาผลักอกเทศกิจ พร้อมบอกว่า “อย่ากร่างให้มากเดี๋ยวโดนกระทืบ”  จากนั้นเทศกิจบอกว่า “ไม่เป็นไรกระทืบผมก็ไม่เป็นไร”  ก่อนที่พ่อค้าจะผลักอกอีกรอบแล้วเดินกลับไป และคล้ายกับหยิบบางอย่างขึ้นมาก่อนวางลง 


จากนั้นเทศกิจเดินตามคาดว่าไปตักเตือน แต่พ่อค้าบอกว่า “พร้อมปะทะ กูบอกเมียกูแล้วว่าพร้อมติดคุก” ก่อนจะบอกว่า “เอาเลยมั้ย เอาแม่งเลยมั้ย”  ช่วงนี้ได้ยินเสียงภรรยาของพ่อค้าพูดทำนองว่า “ไม่ได้ขายอยู่บนฟุตบาทหน้าหัวหน้า”  ซี่งเจ้าหน้าที่เทศกิจ ตอบว่า “เข้าใจๆ”


ก่อนที่พ่อค้า จะเดินพุ่งเข้าหาเทศกิจอีกรอบบอกว่าก่อนจะจับ ให้ไปไล่จุดอื่นก่อน พร้อมกับผลักอก แล้วบอกต่อว่า “อย่ากร่างให้มากนัก มึงแดกภาษีพวกกู ไอ้เหี้ย มึงจะเอายังไง คยอื่นมึงไปไล่เขาสิ”  ซึ่งเทศกิจบอกว่า “ไม่เห็น”  พ่อค้าจึงดึงตัวมาชี้ให้ดูว่า “ทำไมไม่เห็น ตามึงดูสิไอ้สัส ตามึงดูสิ จอดเต็มเลยตรงธนาคาร” จากนั้นพ่อค้าเดินกลับไปหยิบน้ำมาสาดใส่เทศกิจ  แล้วถามว่า “มึงทำอะไรกูได้ มึงทำอะไรได้ กูจะไปหาผู้ว่าฯด้วย กูขายตรงนี้มา 30-40 ปี มีมึงนี่กร่างคนเดียว พร้อมทิ้งควายชิบหาย”  ซึ่งเทศกิจก็ไม่ตอบโต้บอกเพียงว่าไม่เป็นไรแล้วเดินกลับขึ้นรถปิดประตู


สำหรับพฤติการณ์ในใบบันทึกประจำวันเจ้าหน้าที่เทศกิจให้ข้อมูลกับตำรวจบอกว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุได้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โดยการใช้เสียงในการให้พ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าหลังรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลบนถนนนวลจันทร์เคลื่อนย้าย  เมื่อเข้าไปที่รถขายผลไม้ พบชายไม่ทราบชื่อ ขายผลไม้หลังรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ ได้ทำการด่าทอ ข่มขู่ด้วยการใช้มีด และได้สาดน้ำใส่ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคด


ว่าที่ ร.ต.ท. ณัฐพงศ์ ประสาทศิกรณ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม บก.น.2 บช.น. ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้วจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป


ต่อมาทีมข่าวได้ข้อมูลจาก พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม บอกว่า ตอนนี้ได้ข้อมูลแล้วว่าพ่อค้าคนดังกล่าวเป็นใคร แต่ต้องรอให้ผู้ร้องทุกข์มาให้ข้อมูลและให้ปากคำเพิ่มเติมก่อน เบื้องต้นทราบว่าความจริงแล้วเจ้าหน้าที่เทศกิจประสงค์ดำเนินคดี แต่ตอนที่มาหาตำรวจวันนั้นไม่มีเวลามาก เพราะต้องไปปฏิบัติหน้าที่จึงขอลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน จากนี้จะมีการเรียกเทศกิจมาสอบปากคำต่อไป ส่วนเข้าข่ายความผิดใดบ้างนั้นขณะนี้ตนยังดูคลิปไม่ละเอียด อีกอย่างต้องสอบปากคำผู้เสียหายก่อนด้วย


ทีมข่าวได้คุยกับ นายสมพร มีหาดทราย ผอ.เขตบึงกลุ่ม กล่าวว่า วันที่เกิดเทศกิจที่โดนกระทำกำลังไปแก้ปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์ แล้วขับรถผ่านบริเวณดังกล่าวแล้ว จึงได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายของรถเทศกิจว่าไม่ให้จอดรถบริเวณนี้ เพราะกีดขวางช่องทางจราจร แต่พบว่าพ่อค้านิ่งเฉย ไม่ขยับ ทำเป็นไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น  จากนั้นเจ้าหน้าที่เทศกิจจึงลงจากรถแล้วไปพูดคุย พอคุยเสร็จก็ปรากเหตุการณ์ตามคลิปเลย


เมื่อถามว่าในฐานะผู้บังคับบัญชาเห็นคลิปแล้วรู้สึกอย่างไร นายสมพร กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่ และการกระทำของพ่อค้าอาจเกินเลยไปนิดนึง ซึ่งในหลักการเทศกิจเป็นมิตรกับทุกคนอยู่แล้ว มีการพูดคุยและเจรจากันได้ ดังนั้น จึงมองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเกินกว่าเหตุ


นายสมพร ยืนยันว่า เขตบึงกุ่มไม่มีจุดผ่อนผันหาบเร่แผงรอยและขายของบนฟุตบาธ ของ กทม. แต่เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาว่าพอมีจุดไหนหรือไม่ที่ให้พ่อค้าแม่ค้าไปขายรวมกัน  ดังนั้น จึงถือได้ว่าพฤติกรรมตามคลิปถือว่าผิดระเบียบ แต่ว่าตามปกติแล้วหากพบว่าผิดจะเป็นการตักเตือนไม่ให้กระทำ ไม่ถึงกับขั้นเปรียบเทียบปรับแต่อย่างใด


ส่วนกรณีที่พ่อค้าอ้างในคลิปว่าขายมาแล้วกว่า 30-40 ปี และอีกอย่างทำไมถึงไม่ไปไล่จุดอื่นด้วย

นายสมพร กล่าวว่า เราต้องตรวจสอบว่าผู้ค้าบอกว่าขายมา 30-40 ปีได้อย่างไร ตนได้สั่งการให้เทศกิจและนิติกรไปตรวจสอบแล้วว่าพ่อค้ารายดังกล่าวชื่ออะไร มีการขายตามการแอบอ้างจริงหรือไม่ เพราะตลอดมาเทศกิจมีการประชาสัมพันธ์ไม่ให้ขายเสมอ อีกทั้งหากขับรถเร่ขายไปเรื่อยๆมีการอนุโลมให้อยู่แล้ว เช่น รถพุ่มพวง เร่ขายแล้วไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรก็มีการอนุโลมกันอยู่แล้ว ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่จุดขาว-แดง ยืนยันว่าแม้ไม่ขาวแดงแต่เป็นการปักหลักขายถือว่าผิดอยู่แล้ว


นายสมพร ฝากทิ้งท้ายว่า “เราในฐานะที่เราดูแลความ เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองตามนโยบบาย เราเห็นใจผู้ค้าที่มีการค้าขาย แต่ว่า การค้าขายต้องไม่กระทบต่อบุคคลอื่นที่สัญจรเดินทาง เราต้องพบกันครึ่งทางเพื่อให้ ผู้ได้รับผลกระทบจากการเดินทางได้รับความสะดวกสบายด้วย ไม่ใช่ผู้ค้ายึดทางเท้าเต็มพื้นที่ไม่มีทางเดินให้กับผู้สัญจรเลย”


ด้านนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษก กทม. เผยว่า ปกติแล้ว กทม. มีระเบียบห้ามขายบนทางเท้า เว้นแต่เป็นพื้นที่จุดผ่อนผัน แต่ที่ผ่านมามีลักษณะของการอะลุ่มอล่วยกันในหลายจุดจึงอาจทำให้เห็นอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นนโยบายของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ที่อยากให้จัดระเบียบเรื่องทางเท้าให้ดี แต่อยู่ที่ว่าแนวทางของเทศกิจแต่ละแห่งด้วย ซึ่งข้อมูลที่ตนมีสำหรับกรณีนี้ เทศกิจมีการลงไปตักเตือน ซึ่งพ่อค้าที่ขายที่มีการจอดรถขายและวางบนทางเท้าด้วย แต่รายละเอียดทั้งหมดยังไม่ได้รับข้อมูลว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่เท่าที่เห็นคือเทศกิจโดนกระทำแต่ก็มีข้อสงสัยว่ามีเรื่องส่วนตัวด้วยหรือไม่ซึ่งก็มีการลงบันทึกประจำวันแล้ว


ทั้งนี้ กทม. มีระเบียบชัดเจนห้ามขายบนทางเท้า แต่ถ้าเราใช้ระเบียบ 100% แล้วอีกมุมคนที่รู้สึกว่าไม่มีรายได้หรือหาเช้ากินค่ำจะทำอย่างไร จึงเป็นที่มาที่ไปว่าต้องจัดพื้นที่ผ่อนผัน ซึ่งจุดดังกล่าวไม่ใช่จุดผ่อนผัน  อย่างไรก็ตาม กทม. เองกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นกรณีหายเร่แผงลอยอยู่ ซึ่งรับฟังถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ก่อนจะมีแนวทางต่อไป



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/H3XHdu4ho1Q


คุณอาจสนใจ

Related News