สังคม

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจหาดกะรนหลังสาวนทท.จีนโพสต์คลิปโดดเล่นร่มร่อนแล้วตกลงมาขาหัก

โดย kanyapak_w

28 ก.พ. 2567

125 views

วันที่ 28 ก.พ.67 ผู้ใช้โซเชียลใน จ.ภูเก็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่มีเพจลุยจีนนำคลิปสาวชาวจีนอัดคลิปฉะการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต โดยในเพจดังกล่าวระบุว่า นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนชื่อ น่าต๋าหาน ประสบอุบัติเหตุเล่นพาราเซลลิง (parasailing) ตรงหาดกะรนที่ภูเก็ต โดยเธออัดคลิปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่ 24 ก.พ.ระหว่างที่เธอมาเที่ยวที่ภูเก็ต เห็นมีขายบริการให้เล่นร่มร่อนตรงหาดกะรน เธอก็เลยอยากไปลองเล่นดู แล้วดันเกิดอุบัติเหตุตอนร่อนลง อยู่ดีๆ ร่มก็ควบคุมไม่อยู่ ทำให้ขาเธอลงกระแทกพื้นอย่างแรง จนแข้งซ้ายหักครึ่งกระดูกโผล่ออกมาเลย?



ประเด็นคือ หลังเกิดอุบัติเหตุเธอก็ร้องอย่างเจ็บปวด คนฝั่งที่ขายบริการพาราเซลลิงก็เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลขั้นต้น รวมทั้งมีการเรียกรถพยาบาล แต่ว่าสภาพจราจรที่ภูเก็ตรถติดมาก รถพยาบาลบอกกว่าจะไปถึงที่หาดต้องใช้อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง จนไปถึง รพ.ที่แรกก็พบว่าเครื่องมือไม่พร้อม จนทำเรื่องอีก 5-6 ชั่วโมงกว่าจะส่งไปที่ รพ.อีกแห่งที่เป็นของเอกชนคือ Mission Hospital จึงได้ผ่าแข้งที่หักแล้วใส่ดามเหล็กเข้าไป แผลเย็บยาว 15 ซม.แล้วมีประเด็นที่เธอพาดพิงคู่กรณีคนไทยที่ขายเซอร์วิสพาราเซลลิ่งให้เธอคือ



1. มาตรการความปลอดภัยต่ำมาก พอเธอจ่ายเงินเสร็จเหมือนโดนลากไปใส่เสื้อชูชีพแล้วมีคนให้บริการมาประกบหน้าหลังทันทีโดยไม่มีการอธิบายใดๆว่า หลักการทำงานยังไง เธอพยายามบอกว่า wait wait แต่ฝั่งคนไทยพูดแค่ Hurry Hurry, Safe Safe แล้วลากเธอไปเล่นเลย



2. หลังเกิดอุบัติเหตุแล้วเธอผ่าตัดใส่เหล็กดามเรียบร้อย ทางคู่กรณีแสดงท่าทีฮึดฮัดฉุนเฉียวใส่เธออย่างเห็นได้ชัด เธอบอกว่ามีการใช้วาจาว่าร้ายว่าเธอสำออยอยากได้เงิน พยายามทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่(ล่ามของเธอเล่าให้ฟังสิ่งที่คู่กรณีพูดระหว่างที่อยู่ด้วย) รวมทั้งคนฝั่งคู่กรณียังไม่เชื่อผล CT scan, คำบอกเล่าอาการจากแพทย์พยาบาล กล่าวหาว่าเธอกุเรื่องเพื่อจะเอาเงินอย่างเดียว



3. เธอบอกว่าผ่าตัดใช้ไป 150,000 บาท ซึ่งเธอเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีเพียง 2 แสน(เธอบอกจังหวะนั้นไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ อยากให้จบเร็วๆ) แต่คู่กรณีกลับตอบกลับมาว่ามีให้แค่ 5 หมื่นเท่านั้น ? รวมทั้งมีท่าทีแข็งกร้าวอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมจ่ายเพิ่มใดๆ รวมถึงบอกให้เธอห้ามแจ้งความ สุดท้ายเธอให้ทางโรงพยาบาลเปิดแผลให้คู่กรณีดูชัดๆ คู่กรณีถึงท่าทีอ่อนลง(แต่เธอไม่ได้ลงรายละเอียดนะว่าสรุปยอมจ่าย 2 แสนไหม?)



4. เธอเตือนเพื่อนๆ ชาวจีนเลยว่าบริการในไทยหลายๆ อย่างพวกกีฬาผาดโผนขอให้อย่าเล่นเลย มีความเสี่ยงต่อชีวิต และเธอสังเกตว่าไม่มีคนไทยในพื้นที่เล่นกีฬาผาดโผนพวกนี้เลย มีแต่ชาวต่างชาติรวมทั้งชาวจีนที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เธอใช้คำว่า "คนพวกนี้ไม่เห็นความสำคัญของชีวิตพวกเราหรอก เห็นคนต่างชาติแบบตนเป็นแค่แหล่งเงินเท่านั้น"



5. เธอบอกว่าจากที่สอบถามน้องผู้หญิงจากฝั่งที่ขายบริการร่มร่อน พบว่าทุกปีมีอุบัติเหตุแบบที่เธอประสบหลายเคส แต่ไม่เคยเป็นข่าว ยิ่งทำให้บริการแบบนี้น่ากลัวมากๆ เพราะหลังจากที่เธอแข้งหักเข้าโรงพยาบาล คู่กรณีก็ยังคงขายบริการนี้ให้แก่ นทท.ทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติเหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ยังไงทั้งหมดนี้ก็เป็นคำบอกเล่าจากเธอเพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น เดี๋ยวยังไงคงต้องรอดูผลการสืบสวนแบบละเอียดจากทางเจ้าหน้าที่อีกที(เธอมีตั้งทนายเพื่อติดตามและฟ้องคู่กรณีแล้ว) ตอนแอดเขียนโพสต์นี้คลิปเธออัปโหลดไป 3 ชั่วโมง แต่คนจีนเห็นคลิปต่ำๆเกิน 2 ล้านคน คนกดแชร์เกิน 5 แสนครั้ง ? ยอดวิวน่าจะเป็น 3-4 ล้านครั้งอย่างต่ำ...เดี๋ยวคงทะลุ 10 ล้านครั้งในพรุ่งนี้แน่ๆ



ขณะที่ สภ.กะรนได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กรณีที่ปรากฏคลิปนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนโพสต์คลิปในโซเชียลมีเดียว จากนั้นเพจลุยจีนได้นำมาโพสต์ต่อ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวสาวชาวจีนประสบอุบัติเหตุจากการเล่น Parasailing บริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ตจนขาหักนั้น



จากการตรวจสอบทราบว่าเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 ก.พ.67 เพื่อนของผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมล่ามได้เข้ามาติดต่อที่ สภ.กะรน เพื่อแจ้งว่าเพื่อนของตนได้เล่น Parasailing แล้วประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลฉลอง



โดยได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ฉลอง เพื่อจะได้นัดหมายให้ผู้ประกอบการมาชดใช้ค่ารักษาพยาบาลให้ แต่เนื่องจากติดต่อผู้ประกอบการบริเวณหาดกะรนไม่ได้ จึงมาขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะรนช่วยติดต่อให้ จากนั้น ร.ต.อ.ภีรวัฒน์ ยอดต่อ รอง สว.สอบสวน ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนในขณะนั้นได้แจ้งให้สายตรวจไปติดตามผู้ประกอบการที่บริเวณหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จนทราบว่าชื่อร้านโดยผู้ประกอบการไปดูอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลฉลอง และไม่ได้กลับเข้ามาที่ สภ.กะรนอีก



ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.ของวันเดียวกัน(26 ก.พ.)ล่ามของนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนได้โทรศัพท์มาสอบถาม หากกรณีที่ยังไม่ได้รับชดใช้ค่ารักษาพยาบาลจากผู้ให้บริการ Parasailing จะต้องทำอย่างไรต่อ พนักงานสอบสวนแจ้งว่าให้เตรียมเอกสารเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บแล้วเข้ามาพบอีกครั้ง เพื่อจะได้นัดหมายผู้ประกอบการเข้ามาเจรจา ซึ่งจากวันดังกล่าวก็ไม่ได้รับการประสานติดต่อมาอีกเลย ร.ต.อ.ภีรวัฒน์จึงไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มิชชั่น เพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป




นายกิตติพงศ์ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่ามีแขกชาวจีน 2 คนได้มาคุยราคาที่จะเล่นร่มเมื่อตกลงราคาได้แล้วก็ได้มีการเตรียมเล่นร่มซึ่งได้มีการใส่เซฟตี้เรียบร้อยแล้วขึ้นเล่นร่มจนลงกลับมาที่จุดเรียบร้อยพวกตนก็ได้ยินเสียงร้องก็ได้รีบวิ่งเข้าไปดูน้องๆที่อยู่ตรงนั้นบอกว่าขาหักเลยได้ติดต่อรถพยาบาลโดยได้ติดต่อทางเทศบาลก่อนและทางเทศบาลได้ตืดต่อรถพยาบาลให้มารับแต่รถโรงบาลบอกว่ารถติดต้องใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงตนเลยบอกแขกว่าเดี่ยวพาไปส่งโรงพยาบาลโดยให้น้องเค้าไปส่งซึ่งค่ารักษาก็บอกแล้วว่าจะจ่ายให้ซึ่งได้ไปดูและไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล



ต่อมาเมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 28 ก.พ.67 ที่บริเวณชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตพร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนายชาญฤทธิ์ ทวีสมาน ประธานกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มเรือลากร่มกะรนนำเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและพูดคุยกับคนที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุดังกล่าว โดยมีการนำอุปกรณ์พาราเซลลิ่งมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ




ทั้งนี้นายชาญฤทธิ์ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเล่นพาราเซลลิ่งเราจะมีการเซฟตี้ทุกครั้งครบ โดยจะมีคนคอยคอนโทรลขึ้นไปกับนักท่องเที่ยว 1 คน ซึ่งจะมีอุปสรรคคือ ลม ที่จะกระชาก โดยเวลาจะร่อนลงอาจถูกลมกระชากได้ บางครั้งลูกค้าก็ไม่ได้วิ่งเวลาร่มร่อนลง โดยก่อนขึ้นจะมีการสอนเบื้องต้น แต่บางครั้งลูกค้าก็อาจลืม ทำให้เกิดขาแพลงหรืออุบัติเหตุได้ แต่เราขอยืนยันว่าเรามีมาตราการด้านความปลอดภัยเป็นอย่างดี แม้จะเกิดอุบัติเหตุเราก็ไม่เคยที่จะทอดทิ้งลูกค้าแต่อย่างใด




นายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต กล่าวว่าการเยียวยานั้นเรือลำนี้มีประกันภัยมีใบอนุญาตถูกต้องประกันภาคบังคับก็ยังไม่หมดอายุซซึ่งได้มีการติดต่อประสานงานทางบริษัทประกันภัยเรียบร้อยแล้วซึ่งในวันนี้จะมาดูมาทดสอบกันจริงว่ามันเป็นอย่างไรเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News