สังคม

แจ้งจับ 3 ข้าราชการตบทรัพย์ไม้พยุงหลายแสนบาท

โดย gamonthip_s

14 ก.พ. 2567

1.1K views

วันนี้ (14 ก.พ.67) ไพศาล อายุ 60 ปี เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ให้ดำเนินคดีกับ 1. นายสันติ ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนจัดการฐานข้อมูลสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ 2. นายสุรเชษฐ์ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 และ 3. นางทิชากร เจ้าหน้าที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ข้อหา เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ


โดยนำหลักฐานเป็นสำเนาใบโอนเงินจำนวน 1 ฉบับ ภาพถ่ายเงินสดจำนวน 1 แผ่น, ภาพถ่ายทนายแดงช่วยนับเงิน จำนวน 1 แผ่น, ภาพถ่ายสำเนาสัญญาซื้อขาย จำนวน 1 ชุด และใบเสร็จรับเงิน มามอบให้กับพล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และพ.ต.ท.สมภาร แสนคำ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ พร้อมกับให้ปากคำว่า เมื่อประมาณปลายปี 2565 ตนทราบจากประชาชนในหมู่บ้านหนองกุงไทยวิทยาคม อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ว่าทางโรงเรียนหนองกุงไทยวิทยาคม จะมีการขออนุญาตตัดไม้พยุงเพื่อจำหน่าย เนื่องจากมีคนชอบมาลักขโมยอยู่เป็นประจำ จึงจะขอดำเนินการขายไม้พยุงในจำนวนที่เหลืออยู่ในโรงเรียน เมื่อทราบดังนั้นตนในฐานะชาวบ้านหนองกุงไทยจึงได้ไปติดต่อขอทราบรายละเอียดจากโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนได้แจ้งให้ทราบว่าได้เสนอเรื่องขออนุญาตไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เขต 2 ตามลำดับ จากนั้นสำนักงานเขตฯ ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อขออนุญาตตามกระบวนการทางกฎหมาย


จากนั้นตนจึงได้ไปติดต่อสำนักงานธนารักษ์ฯ โดยเจ้าหน้าที่ธนารักษ์แจ้งให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ของ ธนารักษ์ ชื่อ นายสันติ โดยนายสันติได้แจ้งกับตนว่าประมาณวันที่ 18 ธันวาคม 2565 จะไปดูไม้ที่พื้นที่โรงเรียนหนองกุงไทย ตนจึงได้ตามไปดูไม้พยุงที่โรงเรียนด้วยในวันดังกล่าว ผู้อำนวยการโรงเรียนได้นำชี้ต้นไม้พยุงที่จะตัดขายจำนวน 7 ต้น นายสันติจึงได้แนะนำผู้อำนวยการโรงเรียนให้ทำหนังสือขออนุญาตขาย และตัดไม้พยุงไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2


ต่อมาประมาณวันที่ 25 ธันวาคม 2565 ตนได้ไปติดต่อสอบถามนายสันติ เกี่ยวกับใบอนุญาตขาย และตัดไม้พยุงของโรงเรียนว่าดำเนินการถึงไหนแล้ว นายสันติแจ้งกับตนว่าเอกสารขออนุญาตขายตัดไม้พยุงจากเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์เลข 2 มาถึงสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์แล้ว ในวันดังกล่าวนายสันติ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนารักษ์ฯ มีอำนาจหน้าที่ในการประเมิน และออกใบอนุญาตให้กับสำนักงานเขตฯ ได้ขอคุยนอกห้องปฏิบัติงาน โดยแจ้งให้ทราบว่าหากอยากจะได้เป็นผู้ซื้อไม้พยุงขอให้จ่ายเงินผ่านนายสันติ จำนวน 200,000 บาท ซึ่งตนไม่มีเงินสด จึงถามว่าขอจ่ายโอนทางบัญชีได้หรือไม่ นายสันติแจ้งว่าได้ จากนั้นนายสันติได้แจ้งเลขบัญชีทางโทรศัพท์ให้ ตนจึงได้โอนเงินให้ โอนเงินลงวันที่ 25 ธันวาคมเวลา 15.56 น. ตามเอกสารหลักฐานที่ส่งมาด้วย 1 และแจ้งให้ตนทราบว่าหากดำเนินการทำเอกสารเสร็จแล้วจะนำไปส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ด้วยตนเอง



เมื่อนายสันติได้ทำเอกสารเสร็จ จึงได้โทรศัพท์มาบอกตน และได้ขอเงินเพิ่มอีกจำนวน 50,000 บาท โดยนัดหมายให้มาพบที่ปั๊มน้ำมันทางออกไปอำเภอสหัสขันธ์ข้างเรือนจำ ก่อนจะมอบเงินให้อีก 50,000 บาท นายสันติจึงนำเอกสารดังกล่าวไปส่งที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ด้วยตนเอง

ต่อมาวันที่ 28 ธันวาคม 2565 ตนได้ไปติดต่อที่สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อขอรับเอกสารสัญญาซื้อขายเพื่อนำไปประกอบการตัดไม้พยุง นายสันติ ได้แจ้งให้ตน ตรียมเงินไปด้วยประมาณ 500,000 บาทไปด้วย เมื่อไปถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 นางทิชากร เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตถามว่าจะจ่ายเงินค่าลงนามเอกสารสัญญาซื้อขายให้กับสำนักงานเขตเท่าใด ตนไม่ได้ตอบจึงเดินออกมาข้างนอกมาพบบุคคลซึ่งมาติดต่อราชการ ทราบชื่อภายหลังว่าเป็นทนายแดง ขณะที่รอสัญญาการซื้อขายไม้พยุง ตนได้พบกับทนายแดง จึงให้ทนายแดง ช่วยนับเงินที่เตรียมไป


โดยขณะที่รอทำสัญญาซื้อขายไม้พยุงของโรงเรียนหนองกุงไทยวิทยาคม ระหว่างสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 โดยนายสุระเชษฐ์ ผู้อำนวยการเขตกับตนนั้น นางทิชากร ให้ตนจ่ายเงินจำนวน 400,000 บาท ตนจึงถามว่าเป็นเงินค่าอะไรเพราะตนได้จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ธนารักษ์แล้ว ซึ่งนางทิชากร แจ้งว่าเป็นค่าลงนามในสัญญาซื้อขายไม้พยุง ตนจึงได้นำเงิน 400,000 บาท ใส่ซองกระดาษมอบให้กับ นางทิชากร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานหน้าห้องของผู้อำนวยการเขต จากนั้น นางทิชากรจึงได้นำสัญญาซื้อขายมาให้ข้าพเจ้าเซ็นชื่อลงนามในสัญญา พร้อมทั้งให้ตนจ่ายเงินค่าซื้อไม้พยุงอีกจำนวน 99,000 บาท


พฤติกรรมดังกล่าวตนเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของนายสันติ, นางทิชากร และนายสุรเชษฐ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ในการเรียกรับประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ตนเอง และพวกพ้อง คือเงินที่ตนจ่ายไปแต่ละครั้ง ตนเข้าใจว่าจะนำเข้าไปเป็นค่าขายไม้พยุงเป็นรายได้ของแผ่นดิน แต่มาทราบภายหลังว่ามิได้นำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าเป็นรายได้แผ่นดิน จึงขอร้องทุกข์กล่าวโทษว่าข้าราชการทั้งสามปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ขณะที่นายสำเร็จ ภาคประชาชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำเอกสารการร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบการขายไม้พยุงที่การส่อทุจริตของเจ้าหน้าที่เขตพื้นที่การศึกษา เขต 2 ให้กับพล.ต.ต.ตรีวิทย์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ช่วยติดตามกรณีดังกล่าว พร้อมกับเปิดเผยว่า "ตนเองขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งตามข้อกฏหมาย อย่าทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง ตนเองเชื่อฝีมือตำรวจ จะเอาคนโกงมาดำเนินคดีได้"


ด้านพล.ต.ต.ตรีวิทย์ เปิดเผยว่าเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้รับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์ให้กับผู้เสียหาย ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนหลักฐานการโอนเงินที่นำมามอบให้ถือว่าเป็นความผิดชัดเจน พร้อมกับเรียกผู้ถูกกล่าวมาสอบสวน ก่อนส่งสำนวนให้ ปปช.ดำเนินการตามกกฎหมายต่อไป


ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมว่าการทุจริตหรือเรียกรับเงินค่าดำเนินการ (ใต้โต๊ะ) จากผู้มีสิทธิ์ซื้อไม้พยุง โดยเบื้องลึกทราบมาว่า หากได้รับเงินค่าดำเนินการ จากผู้ประสงค์จะซื้อไม้รายใดมากกว่า ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ซื้อไม้พยุงโดยปริยายโดยไม่มีการประมูลแต่อย่างใด

คุณอาจสนใจ

Related News