แม่พาลูกชายวัย 13 ปี ร้องสายไหมต้องรอด ถูกแก๊งทรายทอง อายุ 12-18 ปี รุมทำร้าย

น.ส. ฉัตรมงกต อายุ 45 ปี พร้อมบุตรชายอายุ 13 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนย่านปากเกร็ด ร้องเรียนนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกแก๊งตี๋ ท่าทราย และพวกรวม 7 คนรุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ ดั้งหัก แก้วหูแตก เลือดช้ำในปอด และบาดแผลอื่น ๆ ตามร่างกาย โดยแพทย์มีความเห็นว่าต้องมีการผ่าตัดเพื่อรักษาเพิ่มเติมภายหลัง

โดยเยาวชนอายุ 13 ปี เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา ในหมู่บ้านเมืองทอง ซ.สามัคคี เนื่องจากแก๊งทรายทองมีการนัดหมายให้ตนเองไปพูดคุย เพื่อเคลียปัญหาระหว่างเพื่อนสาวของตนกับแฟนเก่าที่เป็นคนภายในแก๊ง แต่เมื่อไปถึงไม่สามารถเจรจาได้ หัวหน้าแก๊งสั่งให้ชกต่อยกันตัวต่อตัว แต่ไม่ทันได้ต่อยกลับถูกแก๊งดังกล่าวรุมทำร้าย เตะเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง บังคับให้นอนก่อนจะถูกรุมทำร้าย พร้อมกับบังคับห้ามบอกผู้ปกครอง แต่ให้บอกว่าได้รับบาดแผลจากอุบัติเหตุรถล้ม แต่แม่ของตนเองไม่เชื่อ จึงพาไปรักษา และคาดคั้นจนตนเองเล่าความจริงให้แม่ฟัง


ซึ่งแก๊งดังกล่าวชื่อว่า แก๊งท่าทาาย โดยมีนายตี๋ท่าทราย เป็นหัวหน้าแก๊ง อายุ 18 ปี มีสมาชิกกว่า 10 คน ทั้งหมดอายุไม่เกิน 18 ปี ต่ำสุดอายุ 12 ปี ซึ่งแก๊งนี้จะมีพฤติกรรมนำเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าให้ตนเองฟัง พร้อมนำภาพถ่ายคลิปวิดีโอที่รุมโทรมหญิงรายหนึ่งในพื้นที่ สภ.รัตนาธิเบศ มาเปิดโชว์ เพื่อข่มขู่ รวมทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่าได้มีการทำร้ายร่างกาย และตัดนิ้วคู่อริ


ขณะที่น.ส.ฉัตรมงกต ผู้เป็นแม่ เล่าว่า ตั้งแต่เกิดเหตุตนเองได้รวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งได้ไปเจรจากับแก๊งที่ทำร้ายลูกของตน ซึ่งหนึ่งในสมาชิกแก๊งได้ยอมรับกับตนเอง ตามคลิปเสียงที่ปรากฏ แต่เมื่อตนเองนัดหมายให้ออกมาเจอเพื่อล่อให้ตำรวจจับ กลุ่มผู้ก่อเหตุกลับไม่มาตามนัด จากนั้นจึงได้ข่มขู่ลูกของตนผ่านไลน์กลุ่มว่า "ถ้ากูไม่ติดคุก มึงก็ต้องตาย" พร้อมกับโชว์ถังน้ำมันขนาด 100 ลิตร และข่มขู่ว่าจะเผาบ้าน ทำให้ตน และลูกเกิดความหวาดกลัว ทั้งนี้ยืนยันว่าจากเหตุการณ์นี้หากไม่มีใครช่วยเหลือดำเนินคดี ฆาตรกรคนต่อไปก็คงเป็นตนเอง


ด้านนายเอกภพ มองว่าขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชนติ ได้มีการสั่งการให้ทลายแก๊งเยาวชนที่ที่มีการก่อเหตุรุนแรงในลักษณะนี้ทั่วประเทศ ดังนั้นกฏหมายก็ควรที่จะเอาผิดกับเยาวชนได้อย่างเต็มที่ เพราะพฤติกรรมของแก๊งนี้มีลักษณะคล้ายกับกรณีที่อรัญประเทศ ที่ก่อเหตุหลายครั้งแต่ยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งวันนี้ตนเองจะลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้า