หมอดูดังหายตัว หลังถูกสาวนักธุรกิจร้องเรียน หลอกให้มีเพศสัมพันธ์และเรียกเงิน 14 ล้าน

ความคืบหน้ากรณี นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจได้เข้าร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด ว่าตนเอง ถูกหมอดูชื่อดัง ที่รู้จักผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีสำนักดูดวงอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรีหลอกลวง โดยหมอดูคนดังกล่าวหลอกว่าตนเองถูกทำคุณไสย และสามีของตนกำลังจะนอกใจ โดยหลอกให้ตนมีเพศสัมพันธ์ด้วย เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ และยังเรียกเงินค่าประกอบพิธีและค่าดูดวงหลายครั้งจนทำให้ตนเองสูญเสียเงินไปกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งนอกจากตนเองแล้ว ยังมีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงลักษณะเดียวกันกว่าร้อยรายนั้น

ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามข้อมูลจนกระทั่งทราบว่า หมอดูคนดังกล่าว ชื่อว่า อาจารย์หนึ่ง เปิดสำนักดูดวงอยู่ในพื้นที่ตำบลท่าล้อ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงสำนักดูดวง พบว่ามีการปิดประตูด้านหน้าเอาไว้ และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บริเวณประตูหน้าถึง 2 ตัว เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปพูดคุยกับลูกศิษย์อยู่ในสำนัก ได้รับคำตอบว่า อาจารย์หนึ่งเดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัดหลายวันแล้ว ยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับมาที่สำนัก เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะขอเบอร์โทรศัพท์ของอาจารย์ทางลูกศิษย์ที่อยู่ภายในสำนักก็ปฏิเสธว่าไม่มีเบอร์โทร และไม่ทราบว่าอาจารย์จะกลับมาเมื่อไหร่

ขณะที่เมื่อสอบถามชาวบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกับสำนักดูดวงของอาจารย์หนึ่ง ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า เห็นอาจารย์หนึ่งเปิดสำนักดูดวงแห่งนี้มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โดยตัวของอาจารย์หนึ่ง อายุประมาณ 40 ปี ไม่ค่อยสุงสิงกับชาวบ้านในพื้นที่เท่าไหร่ ซึ่งในการเปิดดูดวงนั้น ก็ไม่ได้เปิดเป็นประจำทุกวัน แต่น่าจะมีการนัดหมายในกลุ่มลูกศิษย์ลูกหาที่ต้องการมาดูดวงให้เดินทางมาในวันเดียวกัน ส่วนใหญ่ผู้ที่มาดูดวงกับอาจารย์หนึ่ง จะเป็นคนนอกพื้นที่

โดยในวันที่มีการเปิดดูดวง จะมีบรรดาลูกศิษย์ และผู้ที่ต้องการมาดูดวงกับอาจารย์หนึ่ง มาจอดรถจนเต็มพื้นที่ก่อนจะเดินเข้าไปในสำนักดูดวง เพื่อดูดวงและประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ อีกทั้งภายในสำนักดูดวงของอาจารย์หนึ่ง ยังมีพระภิกษุรูปหนึ่งอาศัยอยู่ โดยในช่วงเช้าก็มักจะออกมาบิณฑบาต และกลับเข้าไปอาศัยอยู่ภายในสำนักดูดวงดังกล่าว เป็นประจำทุกวันด้วย ในส่วนเรื่องของข่าวที่มีหญิงสาวนักธุรกิจผู้เสียหายมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมว่าถูกอาจารย์หนึ่งหลอกลวง ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วย และยังเรียกเงินกว่า 14 ล้านบาทนั้น ตอนแรกตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอาจารย์หนึ่ง กระทั่งเห็นมีผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่สำนักดูดวงของอาจารย์หนึ่งจึงรู้ว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าว