สังคม
2 ผู้เสียหาย ร้องทนาย ทำศัลยกรรมคลินิกดังย่านรัชดา ทำจมูก-ใบหน้าพัง
โดย nutda_t
7 พ.ย. 2566
1.1K views
นางสาวน้ำ อาชีพหมอนวดแผนไทย อายุ 37 ปี และนายเป้ (สาวประเภทสอง) อาชีพแม่ค้าออนไลน์ อายุ 25 ปี เดินทางนำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกหมอศัลยกรรมชื่อดังย่านรัชดา ที่เคยทำศัลยกรรมดูดไขมันคนไข้เสียชีวิตคาคลินิกเมื่อปี 2546 ก่อนถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก เป็นเวลา 4 ปี 3 เดือน เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 56 ในข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เนื่องจากพบว่าใช้ยาหมดอายุในการรักษา จนทำให้ผู้เสียหายเสียชีวิต หลังจากพ้นโทษแล้วหวนกลับมารับจ้างเป็นหมอทำศัลยกรรม ทำจมูกพังผิดรูปต้องแก้กว่า 16 ครั้ง รวมถึงศัลยกรรมโครงหน้า และทำตาสองชั้น มีการนำไขมันจากรักแร้มาเติมตา จนอักเสบทั้งใบหน้า ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติ อ้าปากลำบาก ต้องสวมแมสก์ปกปิดใบหน้าตลอดเวลา และไร้ความรับผิดชอบ
น.ส.น้ำ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเห็นรีวิวจากคนที่รู้จักไปทำหน้าผากที่คลินิกดังกล่าว เห็นว่าสวยดี จึงสนใจไปแก้จมูกเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 65 ก่อนจะมีการผ่าตัด ทางคลินิกบอกว่าเป็นเคสโปรโมชัน รีวิวในราคา 25,000 บาท ซึ่งตนได้รับคำแนะนำมาจากรุ่นน้องที่เคยทำศัลยกรรมจากโปรโมชันนี้มาก่อน ซึ่งคลินิกไม่สามารถเลือกคุณหมอได้ เพราะมีหมอเพียงคนเดียว จึงต้องทำตามเขาทุกอย่าง หลังทำ 7 วัน ถอดเฝือกเห็นว่าทรงไม่สวย จึงแจ้งไปยังหมอ โดยหมอแนะว่าต้องมาแก้ และต้องมีการถอดซิลิโคนเข้าออกถึง 3 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ แต่ค่าถอดซิลิโคนไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งตนคิดว่าทุกอย่างจะออกมาดี จึงเชื่อคุณหมอหมดทุกอย่าง และมีการแก้ไขซ้ำมาต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่สวย รวมแก้จมูกทั้งหมด 16 ครั้ง ในระยะเวลา 1 ปี เพราะก่อนหน้านี้ ตนใส่ซิลิโคนมาก่อน และเพิ่งถอดออก
พอมาเจอหมอคนนี้ หมอได้แนะนำให้แก้ โดยจมูกของตนติดเชื้อ และได้แจ้งหมอ ซึ่งหมอได้ให้ไปซื้อยามาฉีดเอง 7 ขวด ฉีดวันละ 1 ขวด แต่ไม่มีการถอดพักจมูก ยังคงรักษาต่อ ซึ่งตนเคยทักท้วงหมอไปแล้ว แต่หมอบอกว่าเดี๋ยวจะดีขึ้นเอง โดยบอกว่าเป็นเคสที่แก้ยาก เพราะพื้นฐานจมูกไม่สวย หลังจากนั้นตนได้ไปแก้จมูกกับหมอคนดังกล่าว ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยบอกกับหมอว่า จะขอยุติการรักษา เพราะทำไปแล้วไม่ดีขึ้น มีแต่แย่ลง เสียทั้งค่าเดินทาง เจ็บตัว และเคยโดนไล่ออกจากงาน เพราะลาเยอะ ส่งผลเสียต่อชีวิต ปัจจุบันไม่กล้าเจอหน้าคน ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา
โดยหลังจากแจ้งขอยุติการรักษา หมอปัดความรับผิดชอบ โดยบอกว่าที่แก้จมูกให้ไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งเกินกว่าค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับคลินิกแล้ว ดังนั้นจึงอยากร้องเรียนขอให้หมอช่วยเรื่องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อจะไปรักษาที่อื่น เนื่องจากไม่อยากให้หมอคนเดิมมาแก้ให้อีกแล้ว ซึ่งหลังแก้จมูกครั้งที่ 5-6 ได้ทำการเช็กประวัติหมอ พบประวัติหมอเคยทำคนไข้เสียชีวิตและติดคุก ตนรู้สึกตกใจ แต่ก็ถอนตัวไม่ได้ เพราะคิดว่าน่าจะดีขึ้น เห็นว่าหมอยังสามารถกลับมาทำอีกได้
ด้าน นายเป้ ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนได้ไปทำตา 2 ชั้น และทำโครงหน้า กรอโหนกแก้ม กรอข้างแก้ม เลื่อนไรผม โดยหมอได้กรีดหนังหัว ถลกหนังหัวเลื่อนลงมา และกรีดในปาก โดยหมอใช้เพียงยาชา แต่ไม่ใช้ยาสลบ ศัลยกรรมปรับโครงหน้า ทำครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 หลังทำเสร็จพบว่าโหนกแก้มปูด หลังจากนั้นได้ไปทำตา 2 ชั้น เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 66 แต่ทำมาแล้วกลับผิดพลาด แผลไม่สวย ตาผิดรูป ไม่เท่ากัน จึงแจ้งหมอ หมอให้กลับไปแก้โดยอ้างว่าผังพืดยังไม่เกาะตัว ตนจึงไปแก้ตารอบ 2 เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 66 แต่กลับผิดพลาดมากกว่าเดิม
ตนถามหาความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากแก้กับหมอคนเดิมแล้ว แต่หมอบอกว่าต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำแล้วสวยได้เลยใน 1-2 วัน ส่วนตัวเสียค่าใช้จ่ายปรับโครงหน้าทั้งหมด 103,000 บาท และทำตาอีก 21,000 บาท ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อชีวิต เห็นแผลเป็นชัดเจน หน้าพัง ได้ไปทำ CT สแกนพบข้างในพัง หน้าเป็นหลุม ตาไม่ปกติ กระดูกข้างในพัง เป็นแผลเป็นตลอดชีวิต อ้าปากกว้างไม่ได้ หลับตาไม่สนิท น้ำตาไหลตลอดเวลา และโดนลมไม่ได้ และยกแขนสูงไม่ได้ เพราะวันแก้ตา หมอผ่าตัดเอาไขมันจั๊กแร้มาเติมที่ตา จึงอยากทราบว่าทางการแพทย์สามารถทำแบบนี้ได้หรือไม่ ส่วนตัวอยากให้หมอรับผิดชอบค่าเยียวยา ตนจะได้นำเงินไปรักษาที่อื่น และให้ปิดคลินิก เพราะไม่อยากให้ทำกับคนอื่นอีก และอยากทราบว่าทำไมหมอยังกลับมาทำศัลยกรรมอีกได้ ทั้งที่เคยติดคุกมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่หมอปัดความรับผิดชอบ ตนจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงในติ๊กต็อก ซึ่งมีผู้เสียหายทักมาจำนวนมาก
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย เพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการประกอบคดี และจะไปแจ้งความที่กองปราบปราม รวมถึงจะไป สคบ.และ สบส. เพื่อเข้าไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าวว่าได้มาตรฐานหรือไม่ พร้อมฝากไปยังแพทยสภาว่า เหตุใดจึงยังไม่มีการเพิกถอนใบอนุญาตกับแพทย์คนดังกล่าว เพียงแค่พักใบอนุญาตเท่านั้น ทั้งนี้จะแจ้งความแพทย์คนดังกล่าว หากเป็นหมอจริงจะเป็นข้อหากระทำการประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และหากเป็นหมอเถื่อนจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ยังพบหมอคนเดียวกัน กรณีผ่าตัดเสียงให้คนไข้ โดยผ่าไป 2 ครั้ง กล่องพัง กลืนน้ำลายไม่ได้ ระบบการกลืนมีปัญหา เสียค่าใช้จ่าย 4 แสนบาท ไปปรึกษาหลายโรงพยาบาล ไม่มีใครรับแก้ ปัจจุบันคนไข้คนดังกล่าวอยู่ต่างประเทศ และเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายราย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมผู้เสียเพิ่มเติม
ด้าน นาวสาวศรินทิพย์ แอดมินกลุ่มสวยบอกต่อ เจ้าของเพจป้ายยาความสวย กล่าวว่า เป็นผู้รับเรื่อง 2 เคสนี้ โดยได้ส่งไปให้แพทย์ประเมินแล้ว สำหรับผู้เสียหายที่ทำตา 2 ชั้น และปรับโครงหน้า แพทย์แจ้งว่าตาเกิดการหดรั้งของชั้นตา ทำให้มีปัญหาหลับตาไม่สุด และกล้ามเนื้ออ่อนแรงร่วมด้วย ซึ่งการรักษาต้องใช้แพทย์เฉพาะทาง โดยแพทย์จะทำการแก้ไขให้ครั้งแรกในสัปดาห์นี้ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในการใช้ชีวิต และจะผ่าตัดอีกครั้ง 6 เดือน แต่ทำได้แค่ดีขึ้น คนไข้จะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม 100% ส่วนแพทย์ประเมินผ่าตัดหน้าผากยกคิ้ว เป็นการผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง และมีแผลโดยใช่เหตุ กระดูกหน้าปูดขึ้น โครงหน้ามีปัญหา จะต้องเอกซเรย์เพื่อประเมิน ซึ่งต้องใช้เวลารักษาเป็นปี รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 2 ล้าน ส่วนผู้เสียหายที่เสริมจมูกผิดพลาด ได้ส่งเรื่องไปให้แพทย์ประเมินแล้ว และได้ทำการเพาะเชื้อว่าเกิดจากอะไร พบว่ามีการติดเชื้อเรื้อรัง อาจติดเชื้อจากการใช้เนื้อเยื่อเทียม และผ่าตัดแก้ไขบ่อยครั้งในระยะเวลา 1 ปี กรณีดังกล่าวประเมินค่าใช้จ่ายมากกว่า 2 ล้าน ทำได้แค่ผ่าตัดแก้ไข ซึ่งต้องใช้เวลา 1-2 ปี จึงจะแก้แล้วเสร็จ
แท็กที่เกี่ยวข้อง พิษศัลยกรรม