สังคม

หญิงวัย 61 ปีดีใจจะได้เจอแม่ที่พลัดพรากกันมา 47 ปี

โดย kanyapak_w

11 ส.ค. 2566

2.4K views

วันที่ 11 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลจากฝ่ายทะเบียนราษฎร์ที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีหญิงอาศัยอยู่จังหวัดอุบลราชธานี มาวิ่งเต้นทำบัตรประชาชนที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ บ้านเกิด แล้วพบข้อมูลของแม่ตัวเองโดยบังเอิญว่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากไม่ได้พรากจากกันมานานกว่า 47 ปี



จากการสอบถาม จ่าเอก อดิศักดิ์ เจ้าพนักงานทะเบียนชำนาญงาน ที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ทราบว่าก่อนหน้านี้ได้มีหญิง อ้างตัวว่าชื่อนางต้อย อายุ 60 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มาขอค้นหลักฐานข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์ ที่ อ.ลำปลายมาศ ระบุเป็นคนเกิดที่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ หมู่ 3 ต.หนองบัวโคก จ.บุรีรัมย์ ต้องการมาทำบัตรประชาชน เพราะแม่ไม่ได้แจ้งเกิดมาตั้งแต่แรก



จ่าเอกอดิศักดิ์ เล่าว่า ต่อมาพันจ่าโททวี พิมพ์อุบล นายอำเภอลำปลายมาศ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลให้ลึก เพราะหากเขาเป็นคนไทยจริง อาจจะเสียสิทธิ์ที่จะได้รับในความเป็นคนไทย จึงทำการค้นหาข้อมูลหลายมิติตามคำสั่ง



และจากการสอบถามข้อมูลนางต้อย ให้ข้อมูลว่า นางต้อย เกิดที่บ้านสี่เหลี่ยมใหญ่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ แม่ไม่ได้แจ้งเกิดให้ เรียนที่โรงเรียนในหมู่บ้านถึง ป.3 หลังจากนั้นแม่ได้พาเดินหารับจ้างทั่วไปเดินเลาะไปตามทางรถไฟ หาตัดฟืนเผาถ่านขาย รับจ้างตัดไม้หมอนรถไฟ จนกระทั่งไปปักหลักอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์



เมื่อนางต้อย อายุได้ 13 ปี หรือประมาณ พ.ศ.2519 ได้ไปอยู่กินกับสามี ย้ายครอบครัวระเหเร่ร่อนสุดท้ายไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี มีลูกกับสามี 3 คน อายุ 43 ,41 และ 33 ปี ลูกมีบัตรฯทั้งหมด แต่ตัวเองไม่มี จึงไม่ได้รับสิทธิ์ใดๆจากทางราชการ



จ่าเอกอดิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า จากการค้นประวัติ พบว่าแม่ของนางต้อย ชื่อนางแหล่ เคยอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 3 ต.แสลงพัน (ปัจจุบันแยกเป็น ต.หนองบัวโคก)อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันอายุ 87 ปี อาศัยอยู่ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังมีชีวิตอยู่ และยังพบในทะเบียนบ้านนางแหล่ มีลูกอยู่ด้วยกันอีก 3 คน



หลังจากนายอำเภอทราบข้อมูล ได้สั่งการให้ตนแจ้งไปยังนางต้อย ว่ากรณีนี้มีสิทธิ์ได้ทำบัตรประชาชน ด้วยการใช้หลักการข้อ 2 คือนำแม่ หรือพี่น้องที่เหลือมาตรวจ DNA หากตรงกันก็สามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนได้ทันที ยอมรับเคสนี้หาข้อมูลนานกว่า 3 สัปดาห์กว่าจะพบการเชื่อมโยงกัน แต่ตอนนี้นางแหล่ แม่นางต้อย ยังไม่รู้ว่าลูกคนนี้ยังมีชีวิตอยู่



ผู้สื่อข่าวสอบถามนางต้อย เล่าทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาหลังจากพรากจากแม่ คิดถึงแม่เสมอ แต่ไม่รู้จะไปตามหาแม่ได้ที่ไหน ส่วนหนึ่งคิดว่าแม่คงจะเสียชีวิตแล้ว พอมาทราบข้อมูลจากที่ว่าการอำเภอลำปลายมาศ รู้สึกดีใจตอนนี้ทั้งอยากเห็นหน้าแม่ และอยากจะพาแม่มาอยู่ด้วย เพราะจากกันตั้งแต่ตนอายุได้เพียง 13 ปีเท่านั้น



ในวันแม่ปีนี้ส่วนตัวอยากจะเดินทางไปหาแม่ใจแทบขาด แต่ไม่มีเงินค่ารถเดินทางไปหา คงจะต้องรอเก็บเงินก่อนแล้วจะเดินทางไปหาแม่ทันที อยากกอด อยากคุยกับแม่เหมือนครั้งที่เป็นเด็ก และอยากรู้ว่า”แม่ยังจะจำหน้าลูกคนนี้ได้หรือไม่”




แท็กที่เกี่ยวข้อง  ตามหาแม่ ,เจอแม่ ,พลัดพราก

คุณอาจสนใจ

Related News