สังคม

ทหารหนุ่มยศสิบโทโพสต์เรื่องราวถูกสาวหลอกแต่งงานได้ 6 วันเงินสินสอดหายเกลี้ยง

โดย onjira_n

1 มิ.ย. 2566

12.5K views

หนุ่มทหารยศสิบโท สุดช้ำแต่งงานกับสาวผู้ช่วยพยาบาลที่เจอในแอ็ปพิเคชั่นหาคู่แต่งงานค่าดอง1แสนหลังแต่เสร็จฝ่สยหญิงหายเงียบ เผยสุดเสียใจกู้เงินมาแต่งหวังสร้างอนาคตกลับถูกหลอกเอาค่าสินสอด

เฟซบุ๊กชื่อว่า สุธา ฟักเนียม ได้โพสต์ข้อความว่า อยากจะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นปียันตอนนี้ ผมได้คบกับผู้หญิงคนนึงได้ตกลงคบกันจะมียุวันนึงได้ตกลงแต่งงานพอแต่งงานได้ได้ 7 วันเท่านั้นนางได้ขาดการติดต่มาสักพักนึงพอติดต่อได้คือบอกอยู่ไปไม่มีความสุขสุดท้าย#ผมโดนเทหรอวะเนี่ย คือยังไงจนผมได้ไปเครียมาจากที่ทำงานเขาผมก็ได้คำเดิมกลับมาคือเลิก ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ นะคับ ส่วนท่านใดอยากแสดงความคิดเห็น ได้เลยนะคับ ผมอยากเห็นความคิดหลายๆ คนว่าเหตุการณ์นี้ ควรทำอะไร พร้อมกับรูปภาพแต่งงานกับหญิงสาว

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ได้พบกับนายสุธา  อายุ 28 ปีเป็นทหารยศนายสิบโทที่กำลังปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรอยู่

โดยสิบโท สุธา ได้เอารูปงานแต่งและรูปบรรยากาศต่างๆภายในงานมาเปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมการ์ดงานแต่งที่ระบุว่า สิบโทสุธา ฟักเนียม สมรสกับ นางสาวศศิวิมล  เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาโดยจัดที่บ้านของฝ่ายหญิงต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

จากการสอบถามนายสุธา ได้เล่าว่าตนได้รู้จักกับฝ่ายหญิงผ่านแอปพลิเคชันหาคู่โดยมีการแชตหาและขอเบอร์โทรคุยกันจากนั้นได้มีการนัดและตนก็ได้ไปที่บ้านของฝ่ายหญิงแต่พอนอนค้างคืนเช้ามาทางญาติของฝ่ายหญิงได้บอกว่าให้เอาผู้ใหญ่มาคุยเพราะตนทำผิดประเพณีของทางบ้านเขาจากนั้นตนก็ได้โทรหาพ่อเพื่อมาคุยและทำการหมั้นหมายกันไว้โดยแม่ของฝ่ายหญิงบอกว่าเรียกค่าสินสอนเป็นเงิน 2 แสน ทอง 2 บาท ซึ่งได้คุยและตกลงกันไว้เมือาเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมาแต่พอผ่านมาประมาณ 15 วันทางแม่ฝ่ายหญิงร้องขอมาแต่งก่อนได้ไหมโดยเรียกค่าดอง 1 แสน ทอง 1 บาทแทนตนก็เอะใจว่าทำไมเร่งรัดขนาดนี้เหมือนจะขายลูกกินเลยและหล้งจากนั้นก็มีการโทรมาเอาเงินเพื่อไปซื้อของและเตรียมจัดงานตนก็รีบโอนให้พอถึงวันที่แห่ขบวนขับหมากไปบ้านเจ้าสาวตนก็แปลกใจว่าจัดงานแต่งทำไมไม่มีญาติหรือคนในหมู่บ้านมาร่วมงานเลยมีแต่คนที่สนิทและเป็นญาติอย่างเดียวและงานพิธีทุกอย่างจะทำเร็วมากรวมทั้งนับเงินสินสอดขนาดช่างภาพที่ตนเตรียมมาทำงานก็ยังถายภาพไม่ทันและคนในงานรวมทั้งญาติๆของตนก็ยังสงสัยและคิดว่าผิดปกติมากในงานแต่งของตน


แต่พอหลังจากที่ตนได้แต่งงานเสร็จแล้วอยู่กินกันประมาณ 6 วันฝ่ายหญิงเริ่มเงียบถามคำตอบคำ จากนั้นตนกลับไปทำงานตนก็ได้ตามไปถึงที่ทำงานโดยมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตนก็พยายามถามชวนพูดคุยถึงสาเหตุแต่ทางฝ่ายหญิงก็ไม่ยอมพูดกับตนเอาแต่เงียบแล้วเดินหนีไป ตนจึงได้สอบถามและโพสต์ขอความเห็นรวมทั้งพ่อกับแม่และพี่น้องของตน ก็บอกว่าตนน่าจะถูกหลอกเอาเงินค่าสินสอดแน่นอน จากนี้ตนก็คงเดินหน้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงและจะฟ้องเงินที่ตนได้เสียไปกับการจัดงานแต่ง และเงินค่าสินสอดรวมๆกว่า 180,000 บาทและเงินส่วนนี้ตนได้ไปกู้มากับพ่อเพื่อน เอามาแต่งงานและหวังจะสร้างอนาคตแต่กลับมาถูกหลอกแบบนี้ ตนก็รู้สึกเสียใจมากถามว่ารักไหมตนก็ยังรัก แต่เจอแบบนี้รักแค่ไหนตนก็ขอตัดใจดีกว่า และที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องราวก็เพื่อต้องการให้สังคมรับรู้เพื่อที่เขาจะได้ไม่ไปหลอกใครแบบนี้อีก



คุณอาจสนใจ