สังคม

สองสามีภรรยาร่ำไห้บริษัทอาหารไก่ชื่อดังเรียกเงิน 7 ล้านอ้างเป็นหนี้ส่วนเกิน

โดย onjira_n

21 พ.ค. 2566

9.7K views

วันนี้ (20 พ.ค.66) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากคุณสมบูรณ์  อายุ 49 ปี และน.ส.ยศพร  อายุ 45 ปีสองสามีภรรยาชาวจ.อุดรธานี กำลังเดือดร้อนและทุกข์ใจอย่างหนัก หลังจากเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ขายอาหารสัตว์ไก่ให้กับบริษัทชื่อดังที่นครนายก ทำมาเกือบ 1 ปีทำยอดขายให้กับบริษัทเกือบร้อยล้าน จู่ๆ กลับเป็นหนี้โดยไม่ทันตั้งใจ เหตุเพราะขายอยู่ดีๆ บริษัทไม่แจ้งเพิ่มราคาต่อกระสอบทำให้เป็นหนี้เกือบ 7 ล้าน



นายสมบูรณ์ ชาวจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ผมเปิดเพจกลุ่มคนเลี้ยงไก่มาหลายสิบปี ต่อมาเมื่อต้นปี 64 มีบริษัทฯ อาหารสัตว์แห่งหนึ่งในจ.นครนายก เจ้าของเป็นอดีตนายกสมาคมค้าไข่ส่งออกแห่งประเทศไทย เพิ่งเปิดโรงงานใหม่ติดต่อมายังตนเองขอให้ขายอาหารสัตว์ให้ โดยจะให้ลูกละ 5 บาท (กระสอบละ 5 บาท) และยอดโปรโมชั่นอีก ตนเห็นเป็นช่องทางที่จะทำให้เพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้ จึงตัดสินใจลองทำดู ตนเองก็นำไปโพสต์กับกลุ่มสมาชิก ปรากฏว่าได้ผลตอบรับเป็นอย่างดียอดขายของบริษัทดีมาก จากบริษัทที่โนเนมตนเองทำยอดขายให้กับบริษัทนี้ได้ยอดปีละ 90 ล้านบาท พอขายมาได้ 1 ปีปรากฏว่า เซลล์ไม่แจ้งการปรับราคาของอาหารสัตว์ให้พวกตนเองทราบเลย จู่ๆ ตนเองก็เป็นหนี้กว่า 7 ล้านบาท เราก็ตกใจทำไมขายให้อยู่ดีๆ เป็นหนี้ถึงเพียงนี้ ในเมื่อคุณไม่แจ้งการปรับราคาต่อกระสอบให้เลย ผมเลยโทรไปหาเซลล์มีอะไรปิดผมหรือเปล่า เขาจึงเอาใบแจ้งราคาใหม่มาให้ จากราคากระสอบละ 350 บาท เป็น 380 บาท ทำแบบนี้ทำให้ครอบครัวลำบากมาก ยิ่งขายดียิ่งขาดทุน ยอมรับผมเครียดมากจากบริษัทโนเนมอาหารสัตว์แห่งนี้ผมทำยอดขายให้ปีละ 90 ล้านบาทแต่จู่ๆ มาเป็นหนี้แบบนี้ อยากให้เห็นใจพวกผมบ้าง แถมลูกค้าเก่าผมหลายรายเซลล์ยังไปขายตีกินไปติดต่อกับลูกค้าเอง



น.ส.น้อง ภรรยานายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า บริษัททำไมกับพวกเราอย่างนี้ เราซื่อสัตย์ต่อโรงงาน เราค้าขายกันมาเป็นปี สามีทำตลาดให้กับบริษัทอาหารสัตว์แห่งนี้ มียอดหลายพันตัน ปีละเกือบ 90 ล้าน เงินที่ลูกค้าโอนมาให้พวกตน ตนก็โอนให้บริษัทไปทันที แม้เราจะได้เครดิต 30 วัน แต่จู่ๆ เดือนก.พ.65 บริษัทบอกว่าเราเป็นหนี้ 7 ล้าน ทั้งๆ ที่การปรับขึ้นราคาต่อกระสอบไม่แจ้งเราเลย บริษัทก็โทรมาให้เราใช้หนี้ หากไม่มีก็เอาบ้านไปค้ำประกันก็ได้ เขาพาไปที่ดินแต่การค้ำประกันบ้านเรื่องหนี้กลับเป็นขายฝาก ตนเองโทรไปหาลูกเขยของเจ้าของบริษัท เขาบอกว่าพยายามปิดหนี้ให้ได้ อย่าไปฟ้องคนก่อตั้งบริษัท ทำแบบนั้นชีวิตคุณจะมีปัญหา ตอนนี้ตนและสามีเครียดมาก จนสามีป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบพูดไม่ชัด อยากจะวิงวอนบริษัทเห็นใจพวกเราบ้าง มูลหนี้ที่เราไม่ได้ก่อและทางบริษัทไม่แจ้งการปรับราคาอาหารสัตว์ต่อกระสอบให้เรารู้เลย หลังพูดจับภรรยาได้โผโอบสามีร่ำไห้และให้กำลังใจซึ่งกันและกัน



ทางด้าน นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย เปิดเผยว่า จากการที่ได้มาพูดคุยพบว่า สองสามีภรรยาถูกบริษัทอาหารสัตว์ที่จ.นครนายกหลอกให้ขายอาหารสัตว์ พอยอดขายโตและมียอดสั่งเยอะ ความอยากได้ดันไม่ส่งราคาอาหารสัตว์ให้เขาทราบว่ามีการปรับราคา จู่ๆ เขาก็เป็นหนี้อีก ทำอย่างนี้ได้ไง มูลหนี้ไม่ได้เกิดจากสองสามีภรรยา เป็นมูลหนี้ที่จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ การไม่มีการแจ้งราคาปรับขึ้นให้กับดีลเลอร์ทราบและไม่แจ้งการปรับราคาให้เขาทราบเลยคุณมีเจตนาอะไรหรือเปล่า พอนายสมบูรณ์ไปทวงถามจึงแจ้งมาทำให้สองสามีเป็นหนี้โดยไม่รู้เรื่อง



เงินที่สองสามีได้จากลูกค้าเขาก็โอนให้บริษัทเลย ทั้งๆ ที่เขาได้เครดิต 30 วันทำไมบริษัทไม่ท้วงว่าเงินไม่ครบ แบบนี้มีเจตนาแอบแฝงหรือไม่ ความผิดไม่ใช่อยู่ที่ดีลเลอร์แน่นอน ฝากถึงเจ้าของบริษัทไปสอบสวนเซลล์และผจก.มีอะไรเงื่อนงำหรือเปล่า จะโยนภาระหนี้เป็นล้านให้แก่ดีลเลอร์แบบนี้หรือ แถมบอกทางสองสามีภรรยาแบบมัดมือชก ถ้าอยากค้าขายกันต่อต้องรับมูลหนี้ตรงนี้และให้เขาเอาบ้านไปค้ำประกัน แต่ดันเป็นขายฝาก และยังเสนอช่องทางจะช่วยปลดหนี้อีก 2% แต่ต้องเป็นลูกค้าใหม่ และเซลล์ไปตีกันเอาลูกค้าเก่าเขาไปหมด ทำแบบนี้ได้ไง เขาปั้นแบรนด์ของคุณให้จนติดตลาด จากคุณที่เลี้ยงไก่แล้วมาทำอาหารสัตว์จนคนรู้จักแบรนด์คุณ ต้องถือว่าคุณน้องและสามีเขาทำรายได้ให้คุณ ปีละเกือบร้อยล้าน นอกจากนี้ยังพบว่าดีลเลอร์อีกหลายจังหวัดฯ ก็เจอบริษัทโกงแบบนี้ด้วย เรื่องนี้จะพาสองสามีภรรยาชาวจ.อุดรธานีไปร้อง สบค.แน่นอน



คุณอาจสนใจ