สังคม

อาจารย์สุขุม แนะ ส.ว.และ ส.ส. มีจิตสำนึก ช่วยโหวตนายกคนที่ 30 เปิดทางปลดแอกประเทศไทย

โดย onjira_n

17 พ.ค. 2566

658 views

อาจารย์สุขุม แนะ ส.ว.และ ส.ส. มีจิตสำนึก ช่วยโหวตนายกคนที่ 30 เปิดทางปลดแอกประเทศไทย เคารพเสียงประชาชน นะบุ อุบัติเหตุทางการเมืองหากมี เป็นเพราะคนตั้งใจทำ



ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงของสังคมเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลที่แม้ว่าพรรคก้าวไกลจะได้คะแนนสูงสุดแต่การจัดตั้งรัฐบาลนั้นอาจจะมีปัญหาเนื่องจากในการโหวตการเป็นนายกรัฐมนตรีจะต้อง มีส.ว.ร่วมโหวตด้วย



ซึ่งมีรายงานว่าส.ว.หลายคนปิดสวิตช์ตนเองและบางคนก็งดออกเสียง



ทีมข่าวไปสอบถามประเด็นนี้กับรศ.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าคนที่เป็นนายกต้องได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส. + ส.ว. ดังนั้น 500 คะแนน ใครได้เสียงข้างมากยังไม่พอ ต้องมาได้จาก 250 เสียง ของส.ว.อีกด้วยและมารวมกันเป็น 750 ครึ่งหนึ่งของ 750



วันนี้ผลของการเลือกตั้งปรากฏว่าประชาชนลงมติคือเลือกฝ่ายค้านในอดีต ได้เสียงเกินครึ่งของ 500 ก็ยังไม่พอเพราะจะเป็นนายกได้ มันต้องได้เสียงเกินครึ่งหนึ่งของ 750 ดังนั้นส.ว.คือตัวสำคัญ

“ซึ่งถ้าส.ว.ไม่ออกเสียงปิดสวิตช์ตัวเองก็ไม่ได้เป็นรัฐบาล “



และหากโหวคเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ ก็เลือกใหม่

ไม่ใช่การเลือกตั้งใหม่ แต่เป็นการเลือกในสภา ต้องทำใหม่ก็เลือกนายกใหม่อีกรอบ แต่ต้องเสนอชื่อคนใหม่เรียกว่าเลือกรอบสอง  ผู้สื่อข่าวถามว่า หากต้องโหวตเลือกนายกคนใหม่ในสภา

“แต่ประชาชนเขาอยากให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วในสภาถ้าเลือกคนใหม่มันจะเกิดปัญหาหรือไม่”



อาจารย์สุขุมบอกว่าคุณนักข่าวก็ยังคิดและเชื่อว่า ประชาชนทั้งประเทศก็คิดเหมือนกัน  ดังนั้นส.ว. ควรจะเคารพเสียงของสภาผู้แทนราษฎรว่าใครที่ได้เสียงมากที่มาจากการเลือกตั้ง ส.ว.ควรจะสนับสนุนเสียงที่ประชาชนต้องการ



ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ตอนนี้ ส.ว.บางคน ไม่สนับสนุน ,ไม่ต้องการออกเสียงโหวตให้คนที่ได้คะแนนสูฃสุดเป็นนายก

อาจารย์สุขุม บอกว่า เรื่องนี้ไม่ต้องไปสนใจส.ว.เขาหรือวิตกกังวล แต่อาจารย์มองว่า คนที่วิตกกังวลคือตัวส.ว. เองเพราะถ้าไม่ยอมออกเสียงหรือโหวต ตัวเขาเองเค้าต้องวิตกกังวลเพราะเมีหลายคน อยากรู้เหมือนกันว่าใครจะกล้าฝืนในเสียงของประชาชน



นอกจาก ส.ว.แล้ว ส.ส. ก็ควรจะมองเห็นประเทศชาติ มากกว่าความแค้นส่วนตัว แม้ว่าตนเองจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายที่ชนะเลือกตั้ง  แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาแล้วที่”จะต้องปลดแอก”

เพียงแต่คุณเลือกตั้งรอบนี้ส.ส. ที่เคยเป็นรัฐบาล อาจจะได้นายกคนที่คุณไม่ได้อยากเลือก แต่นายกคนนี้ ประชาขนเขาเลือกมา ดังนั้น ขอเรียกร้องขอให้คนที่เป็นส.ส แม้จะอยู่ฝ่ายรัฐบาลที่แพ้เลือกตั้ง ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่แสดง “ความเคารพประชาชนคุณเคยบริหารประเทศมาแล้วสี่ปีแต่ประชาชนเขาไม่พอใจแต่ครั้งนี้ถ้าคุณยกมือโหวตให้ประชาชนจะมองว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษกล้าที่จะยอมรับ”

“เราจะเป็นสุภาพบุรุษและจะช่วยปลดแอกการเมืองด้วย”



ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่เป็นไปตามนี้ มีคลื่นใต้น้ำ หรือมีใคร มาทำให้ไม่เป็นไปตามนี้ อาจารย์สุขุมบอกว่า ก็อย่าให้มันเป็นสิ ถึงเวขาที่ต้องหาทางออก มาช่วยกัน มาช่วยกันเรียกร้อง



“เมื่อถามว่าอุบัติเหตุทางการเมืองมีสิทธิจะเกิดขึ้นได้หรือไม่อาจารย์สุขุมบอกว่าถ้าจะมีคือเป็นการตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง “



ผมรังเกียจมากกับคนที่กำลังคิดนอกลู่นอกทางและใครที่คิดนอกลู่นอกทางไม่อยากให้เป็นไปตามมติมหาชนประชาธิปไตยผมขอประนาม เพราะเปิดให้มีการเลือกตั้งแล้วประชาชนลงคะแนนเลือกตั้ง



แต่คุณรับไม่ได้ ผมว่าไม่เป็นธรรมกับคนที่เค้าอดหลับอดนอนหรือคนที่รอที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเปลี่ยนประเทศไทยเราต้องให้ความเป็นธรรมกับคนที่มาลงคะแนนด้วย

“ซึ่งเสียงครั้งนี้ของประชาชนมาลงคะแนนมากสูงสุดมันสะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเปลี่ยนแปลงแล้ว อย่ามาว่าประชาชน ว่ากลุ่มพวกนี้เลือกคนไม่เป็น เลือกไม่ถูก

ถ้าจะพูดแบบนี้ ใช้ไม่ได้แบบนี้คือ”การดูถูกคนเลือกตั้งถ้าแบบนี้อย่าเปิดให้เลือกตั้งถ้าเลือกแล้วเบี้ยว อย่าให้เลือกดีกว่า”



ผมขอร้องส.ว.และเรียกร้องส.ส.ควรเคารพเสียงมหาชนมากที่สุดและเป็นเวลาที่ต้องประกาศให้รู้ว่าเรา”ปลดแอกจากอำนาจนอกระบบด้วย”




ถ้าเขาไม่โหวตก็รอดูกัน ส.ส .ควรโหวตนะ แสดงความสุภาพบุรุษ เราจะปลดแอกอำนาจนอกระบบ อุบัติเหตุทางการเมือง ถ้ามี คือคนตั้งใจทำ ผมขอประณามนะ และถ้าประชาชนเลือกแล้วเบี้ยว อย่าให้เลือกดีกว่า”





ผู้สื่อข่าวสอบถาม ประเด็น หาก ส.ส. คนละขั้ว โหวต ให้เป็นายกรัฐมนตรี จะมีผลเรื่องหารตอบแทน หรืออะไรกันหรือไม่

อาจารย์สุขุม บอกว่า แน่นอนมันเป็นปกติ แต่ให้เขาจัดตั้งรัฐบาลกันก่อน บางคนก็ตั้งแค่ 5-6เดือนก็แตกกันก็มี แต่ตอนนี้ขอให้มันเป็นไปตามระบบเป็นไปตามเสียงของประชาชนที่เลือกตั้ง แต่หลังจากนั้นจะแตกหรือต้องตั้งรัฐบาลชุดที่สองค่อยว่ากัน



ส่วน ส.ว. ตอนนี้ ประชาชนบางคนเกลียดส.ว.ไปแล้ว และมองว่าไม่ได้เลือกส.ว. แต่ทำไมจะต้องมาขวางเสียงประชาชน

อาจารย์สุขุมบอกว่า อย่าลืมว่า”  “ช่วงที่ยึดอำนาจเขาได้แต่งตั้งนะ”

ตอนนี้ ผมอยากบอกทั้งส.ว.และส.ส. เรามาแนะนำสิ่งที่ดีให้กับประเทศไทย ร่วมกัน”ปลดแอกอำนาจนอกระบบ”



สำหรับ ส.ว. เมื่อก่อนนี้จำเป็น เค้ากำหนดวาระไว้ถึงห้าปีอีกไม่นานก็หมดวาระ ดังนั้น ไม่จำเป็นโอนอ่อนให้เขา เขาบริหารจะครบห้าปีอยู่แล้ว จะเข้าไปผูกเสี่ยวอีกทำไม อยากให้ทุกคนมองเห็น

“คนไหนที่ปิดสวิตช์บอกไม่เอาไม่ชอบก็เรื่องของเขา”


สำหรับสองพรรค ที่ได้คะแนนสูฃสุด ทั้งก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย อาจารย์สุขุมบอกว่า เขาคงมีการคุยกันแล้ว สองพรรคต้องโอนอ่อนให้กัน คุยกัน เพื่อเดินต่อ

ไม่ได้กุมขมับ และอาจารย์ เชื่อว่า เค้ามั่นใจคะแนนที่ประชาขนให้มา จะฝ่าฟันอุปสรรคไปได้และเชื่อว่าจิตสำนึกของการเป็นส.ส.จะต้องอยู่ข้างประชาชนถ้าถามว่าจิตสำนึกของส.ส. ที่มองเพื่อประชาชนและเห็นประเทศชาติยังมีอยู่หรือไม่



อาจารย์สุขุมบอกว่าต้องขอวิงวอน ขอร้องทำให้ประชาชนเห็นว่า แม้วันนี้คุณแพ้เลือกตั้งแต่คุณเป็นสุภาพบุรุษ



ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการจัดตั้งไม่ได้รัฐบาลไม่ได้ และหากมีรัฐบาลจัดตั้งขึ้นมา จะทำอย่างไร



อาจารย์สุขุมบอกว่า อย่าไปคิดแบบนั้นเพราะว่าเชื่อว่ามันไม่มีแต่มันเรียกว่า “ขอให้กลับเข้าสู่ปกติ แต่ถ้ามีการบังคับให้ทำ ผมเชื่อว่า ทำไม่ได้เพราะประชาชนไม่ใช่วัวควาย อุบัติเหตุทางการเมือง รักษาการนายกรัฐมนตรีไม่ควรให้มี



ดังนั้น ทั้งสองพรรคในการเจรจาต่อรองร่วมกัน ต้องมีการประนีประนอมเข้าหากันถ้าต่างฝ่ายต่างยึดมั่นอยู่ของตัวเองไม่โอนอ่อนให้กัน โอกาสร่วมมือกันมันก็ลำบาก ความร่วมมือของคุณแล้วยังความร่วมมือจากคนภายนอกอีกด้วย



ดังนั้นท่าทีทั้งสองฝ่ายขอความร่วมมือขอความเข้าใจ ขอพลังจากข้างนอก



สุดท้ายอาจารย์สุขุม เชื่อว่าจะมีการตั้งรัฐบาลได้และนายกจะชื่อนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เพราะเป็นคนที่ ประชาชนเลือกเข้ามาให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี






คุณอาจสนใจ

Related News