สังคม

“ทนายเดชา” ยัน ได้ข้อมูลคนใกล้ชิดลูกชายเฮียโต 99.99% เชื่อได้ “โอละพ่อ”

โดย onjira_n

14 ก.พ. 2566

1.9K views

คดีนี้ มีความเห็นแตกออกเป็นหลายฝ่าย บางส่วนก็มองว่าให้เสพข่าวนี้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจจะโอละพ่อได้ อย่างทนายเดชา ที่ออกมาโพสต์ข้อความ โดยระบุว่า ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งเป็นคนใกล้ชิดลูกชายเฮียโต เชื่อได้ 99.99%

พร้อมตั้งข้อสังเกต คดีมรดก ซึ่งเป็นคดีแพ่ง ค้างพิจารณาในศาล แต่กลับเพิ่งมาร้องคดีอาญา



จากกรณีที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ได้ออกมาโพสต์ว่าเรื่องนี้ระวังโอละพ่อ โดยข้อความระบุว่า “คดีจัดฉากฆาตกรรม ลูกชายลูกสะใภ้ กักขังพ่อฮุบสมบัติ 65 ล้าน ระวังโอละพ่อนะครับ ฟังหูไว้หู ข่าวลือคือข่าวจริงที่มาล่วงหน้า”


ก่อนจะขยายความว่า “ระวังโอนะพ่อนะครับ เพราะคดีความอยู่ในชั้นศาล เหตุใดเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ 2563 ผ่านมา 3 ปีเพิ่งมีการแจ้งความแหล่งข่าววงในแจ้งว่ามีพิรุธหลายประเด็น เช่น หลังจากศาลออกหมายค้นไปค้นบริเวณที่เกิดเหตุ กลับมีสภาพเหมือนเดิม ไม่มีสภาพเหมือนโดนกักขัง

ผู้เสียหายมีพยานแวดล้อมยืนยันว่า เดินไปไหนมาไหนได้เป็นอย่างปกติ ไม่น่าโดนกักขัง และนอกจากนี้ยังมีคดีพิพาทกันในชั้นศาล เช่น คดีมรดกอยู่ในชั้นศาล

ส่วนลูกสะใภ้มีข่าวลือว่าเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ส่วนลูกชายอยู่ในพื้นที่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ผมกราบเรียนมาข้างต้นเป็นข่าวลือนะครับ คดีนี้ฟังหูไว้หูไว้ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรมากนัก ด้วยความรักและห่วงใยจากทนายคลายทุกข์”


ทนายเดชา ยังเขียนข้อความบอกอีกว่า แหล่งข่าวที่น่าเชื่อ แจ้ง ว่าอีกประมาณ 2-3 วันลูกชายก็คงจะออกมาแถลงข่าว ส่วนลูกสะใภ้เดินทางไปเที่ยวประเทศฮ่องกงโดยไปทัวร์ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วตำรวจก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหายังไม่มีพยานหลักฐานใดว่า มีการฆาตกรรมหรือกักขังหน่วงเหนี่ยวแหล่งข่าวล่าสุดที่น่าเชื่อถือที่ผมได้รับทราบมา ส่วนคดีความในศาลเกี่ยวกับมรดกในปี 2565 ก็กำลังพิจารณาอยู่


ก่อนที่ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา จะโพสต์ข้อความต่อว่า “คดีจัดฉากฆาตกรรมที่แปดริ้วรอลูกชายลูกสะใภ้แถลงข่าว ก็น่าจะรู้ความจริงทั้งหมดคืนนี้ได้ข่าวว่าลูกสะใภ้จะเดินทางกลับจากฮ่องกง”

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ทนายเดชา ยืนยันคำเดิมว่า ตนได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ 99.99% ซึ่งเป็นชาวแปดริ้ว ทำให้ตนเชื่อถือได้ โดยเป็นคนใกล้ชิดกับลูกชายของเฮียหมู นำข้อมูลมาให้ตน และจากการวิเคราะห์ และดูความเป็นไปได้ ก็มีข้อมูลหลายประเด็นที่ทำให้น่าเชื่อได้ว่า อาจจะโอละพ่อ จึงอยากให้คนที่เสพข่าว ได้เสพข้อมูลทั้งสองด้าน

จากข้อมูลที่ได้มา ยังยืนยันตามเดิม ทางผู้เสียหายพนักงานสอบสวนได้พามาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนตัวลูกชายสองสามวันก่อนยังอยู่ที่หัวหิน แต่วันนี้ยังติดต่อไม่ได้  ส่วนลูกสะใภ้จะเดินทางกลับจากฮ่องกงในคืนนี้ จากข้อมูลที่มีดูแล้วน่าจะโอละพ่อ รอเพียงลูกชาย และลูกสะใภ้แถลงข่าวทีเดียว



ทั้งนี้ จากข้อมูลของทนายที่ได้รับมา และตั้งข้อสังเกตถึงความเป็นไปได้ที่อาจจะโอละพ่อ คือ

ทนายเดชา ตั้งข้อสังเกต เฮีย โร่แจ้งจับสะใภ้-ลูกชาย ฮุบสมบัติ

1.มีคดีมรดก เป็นคดีแพ่ง ที่ค้างพิจารณาในศาล ตั้งแต่ปลายปี 2565 ตั้งข้อสังเกต ทำไมไม่แจ้งคดีอาญาก่อน

2. เหตุการณ์เกิดช่วงปี 2563 ข้อสังเกต ทำไมแจ้งตำรวจปี 2566 ทำไมจึงปล่อยให้เวลาล่วงเลย

3. ขาดหลักฐาน ข้อสังเกต คดีที่กล่าวหาว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรม จะต้องมีหลักฐานในการกล่าวหาผู้อื่น แต่เวลาผ่านมานาน

4. ผูกคอตาย ข้อสังเกต ตร.มีสำนวน และผลการชันสูตรอยู่แล้ว

5. จดหมายที่ส่งให้ไปรษณีย์ ข้อสังเกต แสดงว่าผู้เสียหาย ไม่ได้ถูกกักขังจนปราศจากอิสระ

6. ขาดแรงจูงใจ ข้อสังเกต ลูกชายเป็นลูกคนเดียว มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดหากเสียชีวิต และไม่พบว่ามีพินัยกรรมที่ระบุว่าถูกตัดออกจากมรดก จึงขาดแรงจูงใจ

ทนายเดชา ยังขยายความ เรื่อง คดีมรดกที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลขณะนี้ ว่าตนไม่ทราบรายละเอียด แต่จากข้อมูลทราบว่าเป็นการฟ้องเกี่ยวกับเรื่องการแบ่งมรดก ที่มีการไปร้องต่อศาลเมี่อเดือนธันวาคม 2565 หลังจากภรรยาเสียชีวิต



สาเหตุที่ตนออกมาให้ข้อมูล และตั้งข้อสังเกตต่างๆ ไม่ได้หมายความว่าตนจะเป็นทนายความส่วนตัว หรือจะรับดูแลคดีให้กับลูกชายของเฮียโต แต่ตนเองนอกจากจะเป็นทนายความแล้ว ก็ยังเป็น influencer ด้วย ซึ่งมีหน้าที่ให้ข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วน เพราะทุกวันนี้จะมีแค่ข้อมูลทางฝั่งของคุณลุงผู้เสียหาย แต่ยังขาดข้อมูลทางฝั่งของลูกชาย และลูกสะใภ้

ส่วนการกล่าวหาว่าใครว่าฆาตกรรม หรือจากฉากฆาตกรรม จะต้องมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน เวลาสืบพยานในศาล ต้องฟังทั้งสองฝ่าย จึงอยากให้สังคมฟังข้อมูลทั้งสองฝั่ง

และหากเรื่องราวดังกล่าวเป็นเรื่องโอละพ่อตามที่ทนายเดชาตั้งข้อสังเกตจริง ถามว่าจะมีใครเข้าข่ายความผิดหรือไม่ ทนายระบุว่าต้องดูเจตนาเป็นหลัก อย่างคุณลุงผู้เสียหาย ต้องดูว่ามีเจตนาร้ายหรือไม่ แต่หากมีเจตนาบริสุทธิ์ คุณลุงก็ไม่ได้มีความผิดอะไร







คุณอาจสนใจ