ปู่เลี้ยงพาหลานชายอีก 3 รุมข่มขืน 13 ขวบมาราธอนยาว 4 ปี

วันที่ 13 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องจากชาวบ้าน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเด็กหญิงอายุ 13 ปี พยายามร้องขอความช่วยเหลือ ว่าถูกปู่เลี้ยงข่มขืนมานาน แต่ไม่มีใครสนใจ จึงเดินทางไปตรวจสอบ



พบนางสาวเอ อายุ 37 ปี (นามสมมุติ) กำลังพา ด.ญ.วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน.อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.จักรพันธ์ สุขเติม รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง



กล่าวหานายยง อายุ 69 ปี อาชีพทำสวน ทำนา ชาว ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กระทำการข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.บี มีศักดิ์เป็นหลานเลี้ยง มาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ



น.ส.เอ แม่เด็กเล่าว่าตนกับสามีแยกทางตั้งแต่ลูกสาวยังเล็ก ย่าเป็นคนเลี้ยงลูกให้ ต่อมาย่าไปมีแฟนใหม่คือนายยง ในครอบครัวมีแม่ พ่อเลี้ยง ลูกสาว และหลานของปู่อีก 2 คน ด้วยอยู่ด้วยกัน 5 คน ที่ผ่านมาลูกสาวจะคุยกับแม่ทางไลน์มาโดยตลอด



จนกระทั่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ลูกสาวไลน์มาบอกว่า หนูถูกปู่ข่มขืน ตอนแรกไม่เชื่อคิดว่าลูกสาวโกหก แต่ลูกพยายามบอกหลายครั้ง จึงบอกไปว่าให้ไปบอกครู ลูกสาวตอบว่า”บอกแล้ว” แต่ครูไม่สนใจ เมื่อถามว่าบอกพ่อหรือยัง ลูกสาวตอบว่าบอกพ่อแล้ว แต่พ่อตอบกลับว่า”ไร้สาระ” ลูกสาวยังบอกด้วยว่า ย่าก็รู้ แต่ย่าไม่สนใจ



ยอมรับว่าตนไม่เชื่อว่าปู่จะกระทำจริง จึงปล่อยเวลาล่วงเลยมาจนถึงขณะนี้



เมื่อมาถึงตอนนี้ตนสงสารลูกสาวมาก โดยเฉพาะมาทราบว่ายังมีหลานของปู่เลี้ยงอีก 3 คนซึ่งเป็นเยาวชน ตามมาข่มขืนถึงบ้าน ปู่รู้เรื่องทั้งหมด จนกระทั่งมีชาวบ้านพยายามช่วย ถึงเวลานี้ตนจะเอาเรื่องจนถึงที่สุด



สอบถามนายยง ปู่เลี้ยง บอกว่าตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยว ไม่เคยข่มขืนหลาน แต่หลานมักจะโกหกไปบอกคนนั้นคนนี้ว่าตนกระทำ ที่ผ่านมายอมรับว่าเคยมีลักษณะเหมือนจะปลุกปล้ำหลาน คือตอนที่ไปค้นหาโทรศัพท์จากหลานที่แอบเอาไปเท่านั้น



อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตำรวจส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกาย แล้วเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำทั้งหมด คาดว่าน่าจะมีการตั้งข้อหากับนายยง หากแพทย์ระบุมีร่องรอยของการข่มขืน