สลด สองพี่น้องวัย 48 และ 44 ปี ปลิดชีพดับ ญาติแปลกใจไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 2566 ร.ต.อ.วิเชน หอมสุวรรณ รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าพระ รับแจ้งเหตุมีผู้รมควันภายในห้องนอนเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน จำนวน 2 รายที่บ้านภายใน ซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 แยกบ้าน 3 ทวีป แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวชฯ รพ.ศิริราช อาสาสมัครมูลนิธิป๋อเต็กตึ๊ง


ที่เกิดเหตุเป็นซอยตันเนื้อที่ 100 ตารางวา พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานจอดรถให้เช่ารายเดือน ด้านในสุดพบบ้านไม้ชั้นเดียว บริเวณห้องโถงกลางบ้านพบเต็นท์สีน้ำเงิน ภายในพบศพ น.ส.วิมลพรรณ อายุ 48 ปี, น.ส.ชยาภร อายุ 44 ปี สองพี่น้องกันนอนเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน สภาพเน่าเปื้อยทั้งคู่ ลิ้นจุกปาก มีหนอนแมลงไต่ตามตัว


โดยมีเตาอั้งโล่วางอยู่ปลายเท้าในเต็นท์ อาสาสมัครนำศพส่งนิติเวชฯศิริราช ชันสูตร นอกจากนี้ยังสั่งเสียทิ้งเอาไว้ และไม่มีร่องรอยของการต่อสู้


ซึ่งได้จัดแจงรายการทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตทั้งสองเพื่อมอบให้ญาติ ส่วนสั่งเสียขอไปอย่างสงบที่สุด ไม่อยากรบกวนใคร หรือให้ใครเดือดร้อน ส่วนรถลูกค้าที่จอด ไปบอกเค้าว่าให้ย้ายออก แต่ถ้ายังหาที่จอดกันไม่ได้ให้จอดกันไปก่อน ไม่ต้องไปคิดเงิน พวกเค้านิสัยดีทุกคน ไม่อยากให้ใครเดือดร้อน


นายพลโกสี อายุ 81 ปี เป็นอาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นพี่น้องกัน โดยคนพี่ป่วยอัมพฤกษ์พอเดินได้บ้าง และพื้นที่ตรงนี้เป็นสมบัติหลังจากพ่อแม่ที่เสียไปแล้วเมื่อสิบกว่าปี ซึ่งแบ่งกันจนได้พื้นที่ตรงนี้ที่เป็นของสองพี่น้อง จึงได้สร้างบ้านเล็ก ๆ อยู่กันสองคน แล้วทำธุรกิจเก็บค่าจอดรถรายเดือนให้ชาวบ้านแถวนี้คันละ 1,000 บาท


ตนแปลกใจมากไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะทั้งคู่ไม่ดื่มสุรา ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ญาติพี่น้องฟัง ไม่เดือดร้อนปัญหาทางการเงิน ก่อนปีใหม่เจอหน้าตนยังบอกว่าจะไปพักต่างจังหวัดสักอาทิตย์ จากนั้นก็ไม่พบหน้าอีกเลย และวันที่ 31 ธ.ค. 65 ญาติจะพาไปกินข้าวก็ติดต่อไม่ได้ แต่ไฟลานจอดรถและไฟในบ้านยังเปิดอยู่ กระทั่งวันนี้มีคนจะมาจ่ายค่าจอดรถรายเดือน แต่พยายามเรียกกลับไม่ตอบได้กลิ่นเหม็นในบ้านจึงทำการทุบหน้าต่าง และรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ


ร.ต.อ.วิเชน กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยประตูล๊อกประตูจากด้านใน นอนในเต็นท์ที่ยังสภาพใหม่ และมีอั้งโล่วางอยู่รมควันกันสองพี่น้อง และมีจดหมายขอไปอย่างสงบและมอบทรัพย์สินให้ญาติ ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการก่อเหตุหลังจากนี้จะนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป