สังคม

แม่พลฯเผยลูกไม่เคยขึ้นเรือ แต่ต้องไปเพราะนายสั่ง - ญาติโวยกลางวงแถลง ถามหาความปลอดภัย เหตุเรือหลวงล่ม

โดย nattachat_c

21 ธ.ค. 2565

3.6K views

จากกรณี วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  โดยเวลา 17.16 น. มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ต่อมาเครื่องไฟฟ้าดับ จนเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนเรือเอียงในเวลาต่อมา จนเมื่อเวลา 23.46 น. วันที่ 18 ธ.ค. 2565 เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำ และอับปางในที่สุด ทั้งนี้ มีกำลังพลทั้งหมดบนเรือ 105 นาย


ซึ่งวานนี้ (20 ธ.ค. 65) ทางกองทัพเรือ ได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ออฟฟิศเชียล ‘กองทัพเรือ ROYAL THAI NAVY’ (@prroyalthainavy) เวลา 20.56 น. ว่า “ค้นพบผู้เสียเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย  รวมพบเสียชีวิต 6 ราย ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์แบบซีฮอร์ค ลำเลียงศพผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย มาที่ อ.บางสะพาน เพื่อทำการตรวจสอบอัตลักษณ์ ต่อไป สรุป วันนี้ค้นพบ 7 นาย รอดชีวิต 1 นาย เสียชีวิต 6 นาย ยังคงสูญหาย 23 นาย”

-------------

วานนี้ (20 ธ.ค. 65) บรรยากาศที่ด้านหน้าศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย มีครอบครัวของผู้สูญหาย เดินทางมาจุดธูป 9 ดอก ขอพระแม่ธรณี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเสด็จเตี่ย ช่วยดลบันดาลให้ลูกชายที่ประสบเหตุ อยู่รอดปลอดภัย


โดย นางผ่องศรี สุขสวัสดิ์ แม่ของพลทหารจิราวัฒน์ ธูปหอม (เจมส์) กล่าวว่า ยังมีความหวัง แม้จะผ่านไปเกือบ 48 ชั่วโมงแล้ว เชื่อมั่นว่าลูกชายจะสามารถลอยคออยู่ในทะเลได้ เพราะเป็นคนแข็งแรง แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือลูกชายไม่มีชูชีพ


ติดต่อลูกครั้งสุดท้าย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธันวาคม ลูกบอกว่า จะต้องไปขึ้นเรือไปปฏิบัติภารกิจกับเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งลูกชายบอกว่าไม่อยากไป เพราะไม่เคยขึ้นเรือและฝึกทางเรือมาก่อน แต่จำใจต้องไปเพราะนายสั่ง หลังจากนั้นก็ติดต่อลูกชายไม่ได้


จนกระทั่ง เย็นวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อนของลูกชายโทรศัพท์มาหาเบอร์ลูกชาย แต่ติดต่อไม่ได้ สายจึงโอนอัตโนมัติมาที่เบอร์แม่ คำแรกที่เพื่อนทัก ถามว่า “เจมส์ อยู่ที่ไหน” แม่ก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนจึงบอกว่า เกิดเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ตอนนี้อยู่ระหว่างติดตาม


จากนั้น เมื่อตนเองติดตามข่าว จึงทราบลำดับเหตุการณ์ก่อนที่เรือจะอับปาง “รู้สึกคาใจว่าช่วงที่น้ำเข้าเรือ ก่อนเรือล่ม ใช้ระยะเวลานานหลายชั่วโมง ทำไมจึงไม่มีการประสานเรืออื่นช่วยอพยพ แต่กลับปล่อยเรืออับปางลง”


อีกทั้ง เสื้อชูชีพก็มีไม่เพียงพอ ทั้งที่เป็นเรือหลวงขนาดใหญ่ น่าจะมีความพร้อมทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบความปลอดภัย ซึ่งแม้ทราบข่าวว่ามีห่วงชูชีพ แต่การพยุงตัวในน้ำก็ไม่ปลอดภัยเท่าเสื้อชูชีพ หากโดนคลื่นซัดแรง


ตอนนี้ แม่ไม่อยากโทษใคร อยากเจอลูก และมีความหวังว่าเย็นนี้ ถ้าเรือเทียบท่า ลูกจะกลับมาพร้อมเรือช่วยเหลือ

-------------

ด้าน ครอบครัวของจ่าโทสหรัฐ อีสา ในระหว่างที่ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 ชี้แจง คุณมาลินี เป็นน้าของจ่าโทสหรัฐ ก็ลุกขึ้นสอบถามเรื่องชูชีพที่คาใจว่า "น้องเขาได้โทรมาหาคุณแม่ โดยเขาเล่าว่า โทรศัพท์ผมไม่ได้เอาออกมาจากเรือ มันจมอยู่ในน้ำ ตอนนี้เรือเอียง แม่หนูไม่ได้ชูชีพ หนูได้ห่วงยาง จึงมีคำถามเรื่องเรือรบหลวง เราเชื่อมั่นในกองทัพ เชื่อมั่นในระบบ แต่กองทัพเรือชูชีพไม่ครบ ผู้ปกครองฟังแล้วหัวใจสลาย ความปลอดภัยในชูชีพกลางทะเล ชูชีพไม่พอ จะให้ผู้ปกครองมีความหวังได้สักเท่าไร"


ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 ตอบว่า ผมขอยังไม่ตอบ แต่ผู้บัญชาการทหารเรือจะแถลงข่าวตรงจุดนี้ ผมยืนยันว่า เรื่องกระบวนการช่วยเหลือ ขอให้มั่นใจในความปลอดภัยทั้งหมด


คุณมาลินีถามอีกว่า “หมายถึงในอนาคต และในเรือหลายๆ ลำ ถ้าเขาบอกชูชีพไม่พอ อันอื่นมันจะพอไหมท่าน หนูไม่ได้โทษเลย เราภาคภูมิใจในกองทัพเรือมาตลอด”


ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 ตอบว่า “เราอยากตอบคุณแม่มากเลย แต่ให้ผู้บัญชาการทหารเรือชี้แจง  และสิ่งที่คุณแม่สะท้อน ทุกอย่างจะเป็นกรณีศึกษาครับ”
-------------


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tIQULC9Qcs0

คุณอาจสนใจ

Related News