สังคม

สาวแสบหลอกพนักงานนิคมร่วม 100 ลงทุนสูญเงิน 40 ล้าน

โดย onjira_n

26 พ.ย. 2565

3.8K views

ผู้เสียหายรวม 10 คนที่ถูกนางสาวแก้ว นามสมมุติ แม่ค้าขายของออนไลน์ ที่หลอกพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งย่านนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน ลงทุนปล่อยเงินกู้ก่อนจะเชิดเงินหาย เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีความหลังจากช่วงเดือนกรกฎาคม ได้รวมกลุ่มกันทยอย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เหมืองจี้ หลังจากถูกนางสาวแก้ว นามสมมุติ หลอกลงทุนเพื่อปล่อยเงินกู้ โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ 15 โดยผู้ต้องหาได้สร้างโปรไฟล์ทำตัวสุดหรู พร้อมถ่ายรูปกับเงินสดสร้างความน่าเชื่อถือพร้อมกับระดมเงินลงทุนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เป็นต้นมา จนสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหยื่อในโรงงานดังกล่าวพากันนำเงินเก็บ และกู้เงินจากสถาบันการเงินมาร่วมลงทุนหลายสิบราย ซึ่งช่วงแรก มีการจ่ายเงินปันผลให้สมาชิกเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจนมีการนำเงินมาร่วมลงทุนและ มีผู้สนใจร่วมลงทุนมากกว่า 200 ราย หลังจากนั้นไม่นาน เริ่มมีการเบี้ยวจ่ายเงินปันผลและมาการทวงถามเงินจากนางสาวแก้วฯ จนผู้เสียหายได้รวมตัวมาแจ้งความที่ สภ.เหมืองจี้ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่คดียังไม่คืบหน้า



ด้านนางสาวหญิง นามสมมุติ เปิดเผยว่าจากการรวมตัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกตอนนี้มีประมาณ 90 ราย เงินที่ผู้เสียหายร่วมลงทุนรายล่ะ 1 แสนบาท สูงสุดเป็นเงิน 2 ล้านบาท ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีรวมทั้งหมด 40 ราย รวมเป็นเงินทั้งหมด 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีคนที่ถูกหลอกร่วมลงทุนมากกว่า 200 ราย แต่บางส่วนยังไม่กล้าเปิดเผยตัวเนื่องจากเกิดความอับอายที่ถูกหลอก



ค้านนายสมชาย นามสมมุติ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนได้นำเงินร่วมลงทุนไป 5 แสนบาท ซึ่งเป็นสะสมของครัวมาร่วมลงทุนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมาช่วง 2-3 เดือนแรก ก็ยังได้เงินปันผลอยู่แต่หลังจากนั้นเริ่มมีการขอปรับลดดอกเบี้ยจากที่ตกลงกันร้อยล่ะ 15 ช่วงหลังไม่ได้รับเงินปันผลหลายงวดจึงตัดสินใจทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด นอกจากนี้จากการสอบถามสมาชิกหลายรายทราบว่าเงินที่นำมาร่วมลงทุนได้กู้มาจากสถาบันการเงิน บางรายนำที่ดินไปจำนองเพื่อนำเงินมาลงทุน พ่อ แม่ที่ทราบเรื่องถึงกับล้มป่วยหลังทราบว่าลูกหลานถูกหลอก บางครอบครัวถึงขั้นทะเลาะจนต้องหย่าร้างกัน ก็มี ตัวอย่างเช่นคุณโบว์ นามสมมุติ เป็นชาว จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งเก็บเงินมาทั้งชีวิตนำเงินมาลงทุนดังกล่าวประมาณ 2 ล้านบาท ตอนนี้แทบจะหมดเนื้อหมดตัวครอบครัวได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก



นายสมชาย ผู้เสียหาย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความผ่านไป 4 เดือนล่าสุดพบคู่กรณี ยังทำตัวหรูหราสร้างโปรไฟล์สุดหรู ไลฟ์สดของสินค้าตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงทำให้ผู้เสียหายทั้งหมดเกรงว่าคู่กรณีจะถ่ายโอนทรัพย์สิน ไปฝากไว้กับคนใกล้ชิดและไม่สามารถติดตามทวงเงินได้ครบจำนวน



ขณะที่ พ.ต.อ.สามพราน จันทร์มั่งคั่ง ผู้กำกับการ สภ.เหมือจี้ เปิดเผยว่า หลังจกที่ผู้เสียหายได้ทะยอย เข้าแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.เหมือจี้ ล่าสุดมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความไปแล้ว 40 ราย และคาดว่าจะมีผู้เสียหายคดีดังกล่าวทยอยเดินทางมาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่ประสานรายละเอียดของคดีของผู้เสียหายทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากเป็นคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีลักษณะดังกล่าว 




คุณอาจสนใจ

Related News