จีนยังคุมโควิด-19 เข้ม หลังยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 1 หมื่น

รายงานระบุว่า จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในท้องถิ่น 10,535 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อสูงสุด นับตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ที่เกิดการแพร่ระบาดรุนแรงในนครเซี่ยงไฮ้



โดยที่นครกวางโจว มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาดครั้งนี้ มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,824 คน นับเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ที่ผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 2,000 คน ส่งผลให้ทางการต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด ไปจนถึงวันอาทิตย์นี้ กระทบประชาชนอย่างน้อย 5 ล้านคน



เช่นเดียวกันกับอีกหลายเมืองใหญ่ อย่าง ปักกิ่ง, เจิ้งโจว, และ ฉงชิ่ง ที่ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้เข้มงวดมากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น โดยที่นครเจิ้งโจว ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลเหอหนาน มีรายงานผู้ติดเชื้อ 2,988 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากวันก่อนหน้า



ส่วนที่นครฉงชิ่ง จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ที่ตัวเลข 3 หลัก ทำให้บางพื้นที่ ต้องออกมาตรการห้ามประชาชนรับประทานนอกบ้าน และ สั่งงดการเรียนการสอนในโรงเรียน รวมถึง ปิดสถานีรถไฟใต้ดินบางสถานี



ขณะเดียวกัน ที่ปักกิ่ง มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ 118 คน แม้ตัวเลขจะต่ำกว่าหลายเมือง แต่ทางการเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการตรวจหาเชื้อแบบ PCR ทุกวัน และ ห้ามเข้าสถานที่สาธารณะ เช่น สำนักงาน, สวนสาธารณะ, และยิมออกกำลังกาย



การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปักกิ่ง ยังทำให้ผู้จัดงานปักกิ่ง ออโต้ โชว์ (Beijing Auto Show) ออกมาประกาศว่าจะยังไม่มีการจัดงานภายในปีนี้



ทั้งนี้ รัฐบาลจีน ยังคงยึดมั่นในนโยบาย “โควิดต้องเป็นศูนย์” ที่มีการใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลระบุว่าจะยังไม่ผ่อนคลายมาตรการอย่างแน่นอน