นักข่าว CNN ขอโทษคนไทย ยันไม่มีเจตนาบุกรุกศูนย์เด็กเล็ก ตร.ปรับ 5 พัน ใช้วีซ่าผิดประเภท

นำตัวนักข่าวช่างภาพ CNN สอบสวน หลังนายก อบต.เข้าแจ้งความบุกรุกเข้าศูนย์เด็กเล็ก เปิดหน้ารายงานข่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าข่ายทำลายพยานหลักฐาน บุกรุกที่ราชการ ขณะที่นักข่าวระบุ ไม่มีเจตนา อ้างเจ้าหน้าที่ อสม.เรียกอ้อมด้านหลังเข้าตัวอาคาร เพื่อเข้าไปถ่ายทำ บอกไม่รู้เป็นสถานที่ห้ามเข้า ก่อนออกมาเจอ police line กั้นในภายหลัง

ด้านตำรวจปล่อยตัว ชี้นักข่าวไม่เจตนา แต่แจ้งข้อหาใช้วีซ่าผิดประเภท ขณะที่ นักข่าว CNN ขอโทษครอบครัวผู้สูญเสีย เตรียมกลับประเทศพรุ่งนี้ ส่วน CNN ต้นสังกัดออกแถลงยัง ยืนยันนักข่าวไม่เคยฝ่าฝืนกฎ ย้ำเจ้าหน้าที่อนุญาตจริง ขออภัยในความผิดพลาด

กรณีที่สื่อต่างประเทศของสำนักข่าว CNN แอบเข้าไปในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ จุดที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรม มีผู้เสียชีวิต 37 ราย

วานนี้ (9 ต.ค.65) ตั้งแต่ช่วงเช้า นายดนัยโชค บุญโสม นายก อบต.อุทัยสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู เดินทางมา เข้าพบพนักงานสอบ สภ.นากลาง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับสื่อต่างชาติ ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ โดยพนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายและคลิปการนำเสนอข่าวมาให้นายก อบต.ยืนยัน จากนั้นก็ได้เรียก สื่อมวลชนที่บันทึกภาพ ช่วงที่ทั้งสองคนปีนรั้วออกมา

ช่วงบ่าย พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบตร. ลงพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู และสอบถาม สื่อต่างชาติ นางแอนนา โคเรน นักข่าวประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมด้วยนายแดเนียล จอห์น ฮอด์จ ช่างภาพ และล่ามคนไทยด้วย

จากการสอบถามเบื้องต้น พบว่า ทั้งสองคน ไม่มีเจตนาบุกรุกสถานที่ราชการ แต่เข้าไปภายในเพราะเห็นมีการเปิดให้เข้าพื้นที่ซึ่งขณะนั้น กำลังจัดเตรียมสถานที่ ทำให้เข้าใจว่าเข้าไปในพื้นที่ได้ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ และนัดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนช่วงค่ำ

ต่อมาเวลา 19.00 น. พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวที่หน้า อบต.อุทัยสวรรค์

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า การกระทำของ ทั้งสองคน ไม่มีเจตนาจะบุกรุก จากการสอบปากคำแล้ว โดยให้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์  เปิดเผยเรื่องคดีว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทั้งสองคน เข้ามายังประเทศไทย หลังเกิดเหตุที่จังหวัดหนองบัวลำภู

เดินทางมาจากฮ่องกงเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 และเข้าไปภายในศูนย์เด็กเล็กฯ ในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยจากการตรวจสอบทั้งพยานบุคคลและภาพถ่าย พบว่า ทั้ง 2 คน ไม่มีเจตนาที่จะเข้าไปบุกรุกสถานที่เกิดเหตุในช่วงเวลา 10.00 - 12.00 น. แต่ตอนนั้นเห็นว่าประตูยังเปิดและยังไม่มีแถบ หรือ โปลิศไลน์ มาปิดกั้นบริเวณสถานที่เกิดเหตุ  และช่วงจังหวะนั้น มีการเปิดให้เข้าพื้นที่บริเวณลานสนามหญ้าด้านหน้าอาคาร เพื่อจัดเตรียมสถานที่  แต่ทั้งสองคน เดินอ้อมไปด้านข้างอาคาร และเข้าประตูหลัง ของศูนย์เด็กเล็กฯ และสังเกตเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่และประชาชนยืนอยู่

จึงถามคนที่อยู่ตรงนั้น เป็นภาษาอังกฤษ ว่า “Can I come in?” แปลว่าฉันสามารถเข้าไปข้างในได้หรือไม่

เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบ แต่กวักมือให้สัญลักษณ์ตอบรับ ว่าเข้าไปได้ ทั้งคู่จึงเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไปได้ จึงพากันเดินเข้าไปในตัวอาคาร เมื่อเข้าไป ก็เป็นปกติของนักข่าว ที่ต้องเก็บภาพเก็บข้อมูลให้มากที่สุด “ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะบุกรุกหรือแอบเข้าไปภายในศูนย์เด็กเล็กฯ”

ขณะเดียวกันในช่วงเวลาที่ทั้งคู่อยู่ภายในศูนย์เด็กเล็กฯ ทีมงานใช้เวลาถ่ายรูปภาพอยู่นาน เพราะตั้งใจจะเก็บภาพไว้ให้ได้เยอะที่สุด เพื่อเผยแพร่ทำข่าวออกไปทั่วโลก พอออกมาสังเกตเห็นว่ามีโปลิศไลน์ มาปิดกั้นหมดแล้ว จึงต้องปีนรั้วออกมา

ซึ่งฝั่งตรงข้ามของศูนย์เด็กเล็กนั้น เป็นศาลาที่มีนักข่าว ปักหลังนั่งรอทำข่าว จึงมีการบันทึกภาพได้

นอกจากนี้ ไม่มีพยานหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าทั้งคู่มีเจตนาบุกรุกหรือทำลายหรือไปเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน ข้อหาบุกรุกจึงไม่เข้าข่าย เพราะดูที่เจตนา

ส่วนความผิดของทั้งสองคน จากการตรวจสอบพบว่าทั้งคู่ใช้วีซ่าท่องเที่ยวแต่เข้ามาทำงานภายในประเทศไทย โดยแอนนาเข้ามาในประเทศไทย 4-5 ครั้ง / ส่วนแดเนียลเข้ามา 1 ครั้ง

“ในส่วนนี้จึงมีความผิดตาม พรก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว จึงได้แจ้งข้อหาไปแล้ว 1 ข้อหา คือ ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”

โทษนี้ก็ได้เปรียบเทียบปรับ คนละ 5,000 บาท และทางตำรวจ ตม. ได้ถอนวีซ่าแล้ว ซึ่งทั้งคู่ยอมรับสารภาพเรื่องการเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย เหตุผลที่เลือกใช้ เพราะเร็วและง่าย พร้อมสมัครใจหลังจากเสียค่าปรับแล้วจะกลับประเทศของตัวเอง

ส่วนสาเหตุที่ทั้งคู่เข้าไปภายในศูนย์เด็กเล็กฯ จากการสอบถาม ทั้งคู่บอกว่าต้องการเก็บภาพให้ได้มากที่สุดเท่านั้น และตอนนี้ทางสำนักงานข่าว CNN ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแล้ว 2 ฉบับ โดยทั้งคู่ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจ

ส่วน อสม.คนที่กวักมือให้แอนนาและแดนนั้น ยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจาก อสม.คนนี้ ไม่อยู่ในพื้นที่  แต่จากการตรวจสอบวันนี้สรุปได้แล้วว่าทั้งคู่ไม่มีเจตนาบุกรุก

โดยหลังจากนี้จะมีการจัดระเบียบรักษาพื้นที่ศูนย์เด็กเล็กฯ และบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตราพื้นที่อย่างเข้มงวดมากขึ้น และจะปิดกั้นพื้นที่ต่างๆ และต้องทำให้ชัดเจนมากขึ้น

ทางด้านแอนนาและแดน หลังจากชำระค่าปรับตามข่อหาที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ก็ขึ้นรถตู้พร้อมกับล่ามและเดินทางออกนอกพื้นที่ทันที ซึ่งทั้งสองได้อัดคลิป ขอโทษคนไทยกรณีรุกล้ำเข้าไปในศูนย์เด็กเล็ก

โดยแอนนาและแดเนียล ได้กล่าวคำขอโทษต่อคนไทยทั้งประเทศ กรณีที่ได้รุกล้ำเข้าไปถ่ายทำรายการภายในศูนย์เด็กเล็ก ที่อำเภออุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งๆที่เป็นเขตห้ามเข้าหรือพื้นที่อาชญากรรมร้ายแรงหรือ Crime Scene เริ่มจากแอนนา โคเรนที่กล่าวคำขอโทษก่อนตามนี้

โดยกล่าวว่า “... ดิฉันต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง ต่อประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะต่อครอบครัว ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฎกรรมในครั้งนี้

พวกเราขอโทษจริงๆที่การกระทำของพวกเราได้เพิ่มความเจ็บปวดให้กับพวกคุณ พวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เป็นเช่นนั้นเลย

นอกจากนี้พวกเราก็ต้องขออภัยต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย รวมทั้งท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่พวกเราได้สร้างความวุ่นวายและลำบากใจให้กับท่าน

พวกเราตระหนักดีว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่เจ็บปวด และพวกเราไม่ได้มีเจตนาที่จะมาเพิ่มความเจ็บปวดให้กับพวกท่าน ขอบคุณค่ะ ...”

จากนั้น แดเนียล จอห์น ฮอด์จ ช่างภาพ ก็กล่าวขอโทษต่อคนไทยทั่วประเทศ โดยมีข้อความว่า “ผมต้องขออภัยต่อคนไทยทั่วประเทศที่พวกเราได้เพิ่มความเจ็บปวด ให้กับทุกท่านในช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดแสนสาหัสแบบนี้”

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/iBDdHoUMt1I