ชื่นชม! พนักงานห้าง หอบเงินครึ่งล้านส่งคืนเจ้าของ เผยแม้เงินเดือนน้อย แต่ไม่คิดอยากได้ของคนอื่น

เมื่อเวลา 17.30น.ของวันนี้ นางสาวสุพัตรา ทาปลัด หัวหน้าแม่บ้านห้างสรรพสินค้าโรบินสันชัยภูมิ ,นางสาวมณฑิชา ยอดโจจน์ พนักงานท็อปมาเก็ตชัยภูมิ และนายมงคล ลาชะเลา พนักงานท็อปมาเก็ต โรบินสันชัยภูมิ ร่วมกันหอบกระเป๋าถือสีดำข้างในบรรจุธนบัตรแบงค์50,100,10,00 รวมจำนวน 450,000บาท มามอบให้กับ พ.ต.ท ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมประกาศหาเจ้าของเงินตัวจริง มารับคืน


ขณะที่พลเมืองดีทั้ง 3 กำลังรองลบันทึกประจำวัน ปรากฎว่านางนงรักษ์ อยู่บ้านหมู่7 ตำบล ลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการรับซื้อไม้อยู่คาลิปตัส พร้อมด้วยสามีวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมายังโรงพัก พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณพลเมืองดีทั้งสาม ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


นส.สุพัตรา หัวหน้าแม่บ้านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เล่าว่าตนมีหน้าที่เก็บรถเข็นหลังจากที่ลูกค้าเห็นของขึ้นมาใส่ในรถก่อนเดินทางกลับบ้าน ขณะที่กำลังจะเก็บรถเข็นของอยู่นั้น สายตาเหลือบไปเห็นรถเข็นจอดอยู่ริมฟุตบาทนอกห้างสรรพสินค้า ภายในรถเข็นมีกระเป๋าสีดำหนึ่งใบ ตนจึงรีบเข้าไปตรวจสอบเปิดดูภายในพบว่ามีธนบัตรเป็นจำนวนมาก ด้วยความตกใจจึงแจ้งแก่พนักงานที่เป็นเพื่อนกันในท็อปมาเก็ต จากนั้นทั้งสามคนก็ตัดสินใจนำกระเป๋าสตางค์มาแจ้งความที่โรงพักเพื่อคืนให้กับเจ้าของตัวจริงต่อไป


นส. สุพัตรา เล่าต่อว่าถึงแม้ตนจะมีเงินเดือน ซึ่งเป็นเงินเดือนประจำจำนวนน้อยก็ตาม แต่ไม่คิดที่อยากจะได้ของคนอื่นมาเป็นของตนเอง ตรงกันข้ามกลับรู้สึกสงสารและห่วงความรู้สึกของเจ้าของเงินตัวจริงด้วย จนมั่นใจว่าวันนี้จะได้พบตัวจริงอย่างแน่นอนและจะได้คืนเงินให้


ด้านนางนงรักษ์ เจ้าของเงินตัวจริง ยอมรับว่ารู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เงินจำนวน 450,000บาท ตนเพิ่งไปเบิกถอนมาจากธนาคาร เพื่อจะนำไปซื้อไม้อยู่คาลิปตัส และจ่ายเป็นเงินเดือนของพนักงาน ก่อนเดินทางกลับบ้านได้แวะห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพื่อซื้ออาหารที่ท็อปมาเก็ต หลังจากที่ซื้อข้าวของเสร็จเรียบร้อยก็นำรถเข็นขนของเพื่อมาขึ้นบนรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นก็ขับรถกลับถึงบ้าน


หลังจากนำเข้าของลงจากรถจึงคิดได้ว่าตนเองได้ลืมกระเป๋าเงินไว้ที่รถเข็นของ ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จึงรีบขับรถกลับมา แต่ไม่พบกระเป๋าสตางค์ เลยเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ แต่ถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หลังจากพบว่ามีพลเมืองดีได้นำกระเป๋าสตางค์มารอแจ้งความไว้ที่โรงพักก่อนหน้าที่ตนเองจะเดินทางมาถึงแล้ว ตนจึงอยากจะขอบพระคุณทั้งพลเมืองดี และห้างสรรพสินค้าโรบินสันที่มีส่วนอบรมพนักงานให้มีคุณธรรม


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทั้งสองฝ่ายลงชื่อในบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานก่อนจะมอบเงินคืนเจ้าของตัวจริงโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยาน