กลุ่มสาวหล่อช้ำใจร้องทนายช่วย โดนหลอกออมเงินผ่าตัดหน้าอก

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มสาวหล่อ 14 คน เดินทางเข้ามาร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ที่สำนักงานทนายคู่ใจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่าถูกสาวทอมใช้ชื่อเฟซบุ๊ก เซลล์ศัลยกรรมทอม by.BEEWAY อ้างตัวเป็นเซลล์ศัลยกรรมตัดหน้าอกคลินิกเสริมความงามชื่อดังหลายแห่งใน กทม. โพสต์โปรโมชันทำศัลยกรรมตัดหน้าอก ตั้งแต่ราคา 69,000 - 79,000 บาท ทั้งแบบจ่ายเงินทีเดียวจบ และแบบการออมผ่อนจ่าย หลังจากผู้เสียหายจ่ายเงินครบแล้วกลับถูกเลื่อนนัดผ่าตัดไปเรื่อย เมื่อสอบถามไปทางคลินิกกลับพบว่าไม่มีการจ่ายเงินหรือดำเนินการอะไรให้เลย จึงรู้ว่าถูกหลอก ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย จึงร่วมตัวกันเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ ให้ช่วยเหลือ

น.ส.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 45 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เล่าให้ฟังว่า ตนเข้าไปดูในเฟซบุ๊กเซลล์ศัลยกรรมทอม by.BEEWAY ซึ่งมีการโพสต์รูปภาพพร้อมคลิปวิดีโอที่มีสาวทอมเข้าไปทำศัลยกรรมผ่าตัดหน้าอกเป็นจำนวนมาก ในราคาแค่ 65,000 บาท ทั้งที่จริงถ้าไปการทำศัลยกรรมลักษณะดังกล่าว จะมีราคาอยู่ที่ประมาณเกือบ 100,000 บาท ตนจึงสนใจติดต่อเข้าไปสอบถามกับเซลล์คนดังกล่าว โดยเขาบอกว่าชื่อเวย์ เป็นสาวทอมผ่าตัดหน้าอกมาแล้วเหมือนกัน หากตนสนใจโปรโมรชันต้องจ่ายเงินสดเป็นเงิน 65,000 บาทในการทำศัลยกรรม ด้วยคำพูดประกอบกับภาพโฟรไฟล์ทำให้ตนหลงเชื่อโอนเงินไปให้ จำนวน 65,000 บาท เป็นค่าผ่าตัดหน้าอก

ทั้งนี้ มีการนัดวันผ่าตัดที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกทม. เดือนมี.ค. ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงวันนัดผ่าตัด กลับไม่มีการติดต่อจากเซลล์คนดังกล่าว ตนจึงเดินทางไปที่คลินิกดังกล่าว ก็พบว่าคลินิกมีอยู่จริง แต่ไม่สามารถทำให้กับตนได้ เพราะยังไม่มีการติดต่อหรือจ่ายเงินค่าผ่าตัดจากเซลล์คนดังกล่าวเลย ตนจึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งไม่รับสายโทรศัพท์ตนอีกเลย จึงเข้าไปลองหาข้อมูลเซลล์คนดังกล่าว ก็พบว่ามีผู้เสียหายที่เป็นสาวทอมตกเป็นเหยื่ออีกนับสิบราย

น.ส.ดา (นามสมมติ) อายุ 42 ปี พนักงานโรงแรม เดินทางมาพร้อมกับแฟนสาวทอม กล่าวว่า แฟนของตนซึ่งเป็นสาวทอมได้มาปรึกษาว่าอยากจะผ่าตัดหน้าอ นำภาพของเซลล์คนดังกล่าวที่มีการถ่ายโพสต์ในสื่อออนไลน์หลายช่องทางทั้ง เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก ว่ามีการพาสาวทอมไปผ่าตัดที่คลินิกต่าง ๆ มาแล้วหลายราย โดยมีโปรโมชันสำหรับคนที่ไม่มีเงินก้อนจ่ายในทีเดียว ให้สามารถจ่ายแบบเงินออมวงแชร์ได้ แรกเข้าต้องจ่ายเงินจำนวน 10,000 บาท หลังจากนั้นต้องผ่อนจ่ายอีกงวดละ 3,000 ทุก ๆ 15 วัน จนครบ 24 งวด จึงได้โทรศัพท์เข้าไปสอบถาม ซึ่งเซลล์คนดังกล่าวก็บอกว่าตอนนี้มีอยู่มือหนึ่งที่จะขาย ให้ตนโอนเงินมา 30,000 บาท แล้วผ่อนต่องวดละ 3,000 บาทอีก 12 งวด โดยเข้าจะใช้วิธีหมุนวงล้อเสี่ยงว่าใครจะเป็นคนได้คิวผ่าตัดก่อนหลัง เมื่อตนหลงเชื่อโอนเงินไปและส่งค่างวดจนครบ ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ถูกหลอกว่าให้รอกำลังดำเนินการอยู่ ก่อนจะติดต่อไม่ได้ แต่เฟซบุ๊กของเขาก็ยังเปิดหลอกคนอยู่แบบนั้น

น.ส.วราพัสวีร์ อายุ 43 ปี เจ้าของคลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในกทม. กล่าวว่า ตอนแรกที่รู้จักกับเซลล์คนนี้ เขาเข้ามาพูดคุยว่าจะส่งเคสผ่าตัดสาวทอมมาผ่าตัดที่คลินิกของตน โดยเข้าขอเปอร์เซ็นต์ค่าพาลูกค้าเข้ามาทำ ซึ่งทางร้านคิดค่าผ่าตัดเคสละ 52,000 บาท ส่วนเขาจะไปบวกค่านายหน้าเพิ่มเท่าไรก็อยู่ที่เขา หลังจากนั้นเขาส่งลูกค้ามามาทำที่คลินิกเยอะมาก โดย 3 เคสเเรก เขาก็โอนเงินจ่ายให้กับทางคลินิกก่อนผ่าตัดอีก แต่หลังจากเคสที่ 4 เป็นต้นไป เขาก็จะใช้อุบายอ้างว่าไปดื่มเหล้ามา ยังไม่ตื่นนอน หรือรอให้ภรรยาเป็นคนโอนเงินค่าผ่าตัดให้ จนระยะหลังยอดค้างเริ่มเยอะมากขึ้น เกือบ 2 เเสนบาท ตนจึงได้ระงับการผ่าตัดไว้ก่อน พร้อมทวงถามเงินที่ค้างอยู่ ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาตลอด

กระทั่งล่าสุดลูกค้าที่เป็นสาวทอมที่ถูกเซลล์คนดังกล่าวหลอก ได้มาตัดหน้าอก บางคนเก็บหอมรอมริบ กว่าจะได้เงินมา แต่ก็มาถูกโกง ซึ่งทางคลินิกก็จะทำให้ก่อน โดยหวังว่าวันหนึ่งอาจจะได้เงินคืนจากเขา แต่สุดท้ายเขาก็เงียบ อีกทั้งเขายังเอาเรื่องส่วนตัวของเราไปพูดเเละพูดจาข่มขู่ว่าถ้าไปฟ้องทนาย เขาก็จะฟ้องเรากลับ และถ้าหากเราเอาเรื่องทั้งหมดไปลงโซเชียลฯ เราก็จะผิดอีก ตอนนี้เหมือนโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่อยากได้เงินคืนแล้ว แต่ที่ออกมาเพราะไม่อยากให้น้อง ๆ ที่เป็นสาวทอมที่ต้องการตัดหน้าอกต้องเจอคนอย่างนี้ เพราะพฤติกรรมของเขาคือมิจฉาชีพไปแล้ว ตอนนี้เท่าที่ทราบมีคลินิกที่โดนแบบตน ประมาณ 4 คลินิก บางคลินิกโดนโกงไปกว่า 1,000,000 บาท

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายที่ไปผ่อนตัดหน้าอก พอถึงเวลาแล้วยังไม่ได้ตัด สามารถดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ ถึงแม้คดีฉ้อโกงจะหมดอายุความ แต่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ยังคงอยู่ ส่วนคลินิกก็ต้องไปฟ้องร้องคดีแพ่ง เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายกับ คนที่ทำให้คลินิกเสื่อมเสีย และอยากจะฝากไปถึงกระทรวงสาธารณสุขให้ช่วยตรวจสอบด้วย เพราะการโพสต์ลงชื่อคลินิก แต่เป็นคลินิกอื่น เป็นหมอท่านอื่น ถือว่าผิด พ.ร.บ.สถานบริการทางการเเพทย์ ซึ่ง สบส.ดูเเลเรื่องนี้อยู่ มีโทษปรับรายวัน โดยปรับวันละ 20,000 บาท ไม่มีโทษจำคุก

ทั้งนี้ การลงโฆษณาการทำศัลยกรรมในออนไลน์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งหมด ถึงเเม้ว่าทางคลินิกจะรู้หรือไม่ก็ตาม หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายที่จ่ายเงินทำหน้าอกแล้วยังไม่ได้ทำ เข้าไปแจ้งที่กองปราบปราม เพราะว่าก่อนหน้านี้กลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า สำหรับเคสนี้ตัวผู้ก่อเหตุถือว่าฉลาดมาก ๆ ใครที่ไปทวงเงินทำหน้าอกคืน เขาจะทำใบหนังสือสภาพหนี้ให้ เพื่อเปลี่ยนจากคดีอาญาเป็นคดีเเพ่ง