สังคม

ตำรวจแจง ดรามาไม่ตรวจแอลกอฮอล์ ปลาวาฬ

โดย onjira_n

27 มี.ค. 2565

523 views

จากกรณีเมื่อช่วงค่ำของวันที่24 มีนาคมที่ผ่านมา นายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาวาฬ อายุ 40 ปี ทายาทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เจ้าของโรงแรมศรีพันวาภูเก็ต ขับรถยนต์ยี่ห้อหรูชนราวเหล็กริมทางบนถนนเพชรเกษม บริเวณโค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ก่อนจะทำให้ไฟลุกไหม้ทั้งคัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุในเบื้องต้นพบการ์ดเรล หรือราวกั้นทางโค้งได้รับความเสียหาย มีความยาวประมาณ 30 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย แต่ยืนยันว่าไม่ต้องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์เนื่องจากไม่มีคู่กรณี หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ



และล่าสุดได้มีนักกฎหมายออกมาวิจารณ์บนสื่อออนไลน์ในเรื่องนี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สั่งให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด อาจเข้าข่ายจงใจช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ เป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดตามมาตรา 157 เนื่องจาก ตามพ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 43 (2) ห้ามขับขี่รถยนต์ในขณะเมาสุรา ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา 160 ตรี จำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับ 5,000-20,000 บาท และสั่งพักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 6 เดือน และในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานสอบสวนเห็นว่า ผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ให้พนักงานสอบสวนสั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่เมาสุราขณะขับขี่หรือไม่ ถ้าผู้ขับขี่ขัดขืนมีโทษปรับครั้งละ 1,000 บาท และให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับขี่รถขณะเมาสุราแม้ไม่ยอมทดสอบ และในกรณีที่รถยนต์มีประกันภัยภาคสมัครใจ หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้นและน่าเชื่อว่าจะมีสาเหตุจากการเมาแล้วขับ บริษัทประกันฯ จะต้องขอให้มีผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์มาประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หากผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการเมาแล้วขับ บริษัทประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน



ขณะที่ทาง พ.ต.อ.บริบูรณ์ อยู่สุขสมบูรณ์ ผกก.สภ.ท้ายเหมือง ได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังผู้สื่อข่าวว่าหลังจากพนักงานสอบสวนได้รับแจ้ง ว่ามีรถประสบอุบัติเหตุและเพลิงไหม้รถ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายวรสิทธิ อิสสระ หรือที่คนรู้จักในชื่อไฮโซปลาวาฬ ผู้ขับขี่และพบนายธนันชัย เดชจักรทิพย์ ผู้โดยสาร ทางพนักงานสอบสวนและสายตรวจตำบลได้สอบถามพูดคุยอยู่ประมาณ 10 นาที ไม่พบกลิ่นแอลกอฮอล์ที่บุคคลทั้ง 2 จึงไม่ได้สงสัยว่าผู้ขับขี่ได้เมาสุราใขณะขับรถ



ในส่วนเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ของสภ.ท้ายเหมืองมีอยู่ จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งได้ส่งคืน ภ.จว.พังงา เพื่อตรวจมาตรฐานการวัดค่าไปยังบริษัท ช.แอดวานซ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผ่านทางภ.จว.พังงา เมื่อวันที่ 24 เดือน ก.พ.2565 และล่าสุดได้รับแจ้งว่าบริษัท ฯ ยังไม่ได้ส่งเครื่องตรวจแอลกอฮอล์กลับมาที่ ภ.จว.พังงาที ซึ่งหากตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่จะทำการส่งตัวไปตรวจโลหิตที่โรงพยาบาลท้ายเหมือง เพื่อวัดค่าแอลกอฮอล์ในโลหิตต่อไป และหากผู้ขับขี่ไม่ให้ความร่วมมือ ทางโรงพยาบาลจะบันทึกเป็นหลักฐานส่งร้อยเวรต่อไป ส่วนส่วนของคดีนั้นทางพนักสอบสวนสภ.ท้ายเหมืองได้เหมืองแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย และได้เปรียบเทียบปรับผู้ต้องหา จำนวน 1,000 บาท (อัตราสูงสุด) แล้ว



และผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายอัษฎายุทธ สร้อยทอง อดีตสจ.เขต อ.ท้ายเหมือง ซึ่งเล่าว่าอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ตอนที่ไฟยังไม่ไหม้รถ และได้จอดรถลงไปสอบถามพร้อมให้ความช่วยเหลือ โดยที่ไม่เคยรู้จักไฮโซปลาวาฬมาก่อนแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าจากการเข้าไปพูดคุยกับคนขับและเพื่อน ซึ่งไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์หรือมีอาหารของคนเมาแต่อย่างใด



คุณอาจสนใจ

Related News