อาชญากรรม

หญิงร้องสื่อ รถหรูไฟไหม้ สงสัยเกิดจากอะไหล่รถ มีปัญหาหรือไม่

โดย attayuth_b

22 มี.ค. 2566

2.5K views

จากเหตุการณ์ ที่มีหญิงอุ้มลูกลงจากรถหรู เกิดไฟไหม้ลุกท่วม กลางทางด่วน เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ วันนี้เธอมาร้องทีมข่าวของเรา ว่าสาเหตุรถไฟไหม้ อาจเกิดจากตัวอะไหล่ตัวหนึ่งรั่วไหล ซึ่งต่างประเทศเรียกให้เจ้าของรถที่มี campaign code มาตรวจสอบ แต่ของไทยกลับยังไม่มี วอนค่ายรถเปลี่ยนนโยบายการเรียกรถคืน

ภาพคลิปเหตุการณ์ คุณแม่ ที่กำลังอุ้มลูกสาว ออกจากรถหรู 630D คันหนึ่งที่กำลังไฟไหม้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งรถที่ถูกไฟไหม้ เพิ่งซื้อมาได้ประมาณ 3 ปีกว่าๆ

รถถูกไฟลุกไหม้ทั้งคัน อยู่ที่บริเวณทางลงทางด่วนเพลินจิต ทำให้รถที่ขับตามมาต่างค่อยๆ ถอยหนีออกมา แม้เหตุการณ์จะผ่านมาเดือนกว่าๆ แล้ว แต่เจ้าของรถยังอยากทราบสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ และตั้งข้อสังเกตว่า เกิดจากอะไหล่ตัวหนึ่งที่เรียกว่า EGR รั่วไหลหรือไม่ ซึ่งในต่างประเทศมีการเรียกรถที่มี campaign code เหล่านี้กลับไปตรวจสอบแล้ว

ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณณัฎฐิณี อรรถญาณสกุล หรือ คุณจอยส์ เจ้าของรถคันเกิดเหตุ เล่าว่า ในวันนั้น ระหว่างคนขับรถ กำลังขับพาคุณจอยส์ และลูกไปส่งลูกที่โรงเรียนย่านเพลินจิต พอถึงทางลงทางด่วนเพลินจิต คนขับรถก็บอกตนว่า รถมีควันออกมา จึงเปิดประตูลงไปดู และจากนั้น รถก็มีเสียง alarm เตือน และดับเครื่องไม่ได้ คนขับเลยบอกให้คุณจอยส์พาลูกสาววัย 5 ขวบครึ่งลงจากรถก่อน

ตอนนั้นสังเกตเห็นว่า ใต้ท้องรถมีไฟลุกไหม้ จึงตะโกนขอความช่วยเหลือคนแถวนั้น ก่อนที่ไฟจะลามอย่างรวดเร็ว คนขับรีบกลับไปจะเอากระเป๋าที่รถ พอเปิดประตูไป เห็นว่ามีควันออกมาจากแถวคอนโซล และช่องแอร์เยอะมาก และมีไฟลุกที่กระโปรงหน้า จากนั้นไม่นานก็เกิดระเบิด และไฟท่วมรถ ตนเองก็รีบอุ้มลูกเดินสวนขึ้นทางด่วน

ตอนนั้นยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น มานั่งนึกย้อนเข้าใจว่า อาจเกิดจากเมื่อตอนเดือนกันยายน 65 ที่รถน้ำท่วม และเครื่องดับ เลยเอารถเข้าศูนย์ แต่ประกันไม่ได้ครอบคลุมอุทกภัย ทางศูนย์เลยแจ้งเสนอราคาในการเปลี่ยน ซึ่งราคาค่อนข้างสูง เลยตัดสินใจไปซ่อมข้างนอกแทน "ซึ่งย้ำว่า เป็นการใช้อะไหล่แท้เบิกจากศูนย์ เพื่อซ่อมให้รถอยู่ในสภาพเดิม และไม่ได้มีการดัดแปลงรถใดๆ ทั้งสิ้น"

และรถก็ซ่อมเสร็จช่วงเดือนตุลาคม 65 ก็ใช้งานได้ตามปกติ และรถก็ไม่มีการขึ้นไฟแจ้งเตือนใดๆ กระทั่งวันที่เกิดไฟไหม้ ตอนนั้น สามีจึงไปหาข้อมูลสาเหตุรถไฟไหม้ และเจอข้อมูลในเว็บต่างประเทศ เกิดขึ้นในเกาหลีใต้เยอะมาก จึงเลยเอาเลขตัวถังของรถไปหาเว็บ recall ซึ่งเป็นเว็บทางการของค่ายรถ ปรากฏขึ้น campaign code ขึ้นมา คือ เลข 0013860300 จึงเอาcampaign code นี้ไปเข้าเว็บของไทย แต่ไม่เจอ ว่าเป็นเรื่องอะไร

คุณจอยส์ นึกได้ว่ารถคันนี้ เป็นรถประกอบที่ต่างประเทศ และนำเข้ามาทั้งคัน จึงลองเอา campaign code ไปหาที่เว็บของประเทศเยอรมนี ปรากฏเจอว่า campaign code นี้ มีเรียกให้นำรถไปตรวจสอบ เพราะอะไหล่ที่เรียกว่า EGR อาจนำไปสู่การเกิดไฟลุกไหม้ได้ ซึ่งก็สอดคล้องกับ ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกของเยอรมนี ที่ระบุว่า Leakage on exhaust gas recirculation module can lead to vehicle fire. ซึ่งหมายถึงว่า การรั่วไหลของ EGR อาจนำไปสู่การเกิดไฟลุกไหม้ได้

ตนเองรู้สึกตกใจ และทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า ไฟไหม้รถครั้งนี้ อาจจะไม่ใช่สาเหตุที่เอารถไปซ่อมข้างนอก แต่อาจเกิดจากการรั่วไหมของตัว EGR หรือไม่

ตนเลยโทรไปหาตัวแทนจำหน่าย ให้เช็คว่ารถของตนมี campaign code นี้ไหม ซึ่งทางดีลเลอร์ชี้แจงว่า campaign code นี้เรียกให้ไปอัพเดทซอฟแวร์ทั่วไป ตนจึงแย้งไปว่า ที่ตนไปหาข่าวจากต่างประเทศมา และเห็นว่ามีอะไหล่หนึ่งชิ้นที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟ ทำไมรถตัวเองจึงไม่ได้รับการตรวจเช็ค ทางค่ายรถก็อ้างว่า code นี้ขึ้นมาช่วงประมาณกลางปีที่แล้ว (ประมาณมิถุนายน กรกฎาคม) และอาจเป็นช่วงที่เอารถไปซ่อมรถน้ำท่วม (ซึ่งเป็นคนละช่วงเดือน) จึงแย้งไปว่าไม่เกี่ยว แต่ต้องเรียกรถที่มีโค้ดเหล่านี้ เข้าไปรับการตรวจสอบ ให้มาเช็ค เพราะสาเหตุมันอาจจะทำให้เกิดไฟไหม้ได้

จากนั้นจึงทางค่ายรถ จึงประสานให้ช่างเทคนิคเข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุที่รถเกิดไฟไหม้ เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนั้น สิ่งแรกๆ ที่ช่างหยิบออกมาตรวจสอบคือตัว EGR และแจ้งว่าจะส่งผลไปให้ทางเยอรมนีเป็นผู้ตรวจสอบ แต่ผ่านมาถึงตอนนั้นกลับยังไม่ได้คำตอบใดๆ

ตนจึงอยากตั้งคำถามถึงค่ายรถ ในฐานะผู้บริโภคว่า 1.อยากทราบไทม์ไลน์ในการตรวจสอบซากรถ ว่าไปถึงไหนแล้ว และผลจะออกเมื่อไหร่

2.อยากทราบนโยบายการเรียก recall รถมาตรวจสอบ ว่าทำไมไม่มีการเรียกรถตนเข้าไป ทั้งที่เป็นเรื่องร้ายแรง รวมถึงอยากให้เปลี่ยนแปลงนโยบายการเรียกรถมาตรวจสอบ ว่าอยากให้ช่วยมองว่า เรื่องไหนที่ควรจะต้องทำให้ก่อน อย่าจัดให้ทุก campaign code เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะบางเรื่องต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน

ก่อนหน้านี้ทางศูนย์อธิบายถึงนโยบายการ recall ว่าจะตรวจให้ก็ต่อเมื่อนำรถเข้ามา service มาเช็คระยะ แต่ตนมองว่าเรื่องนี้ ไม่ควรที่จะรอ ควรจะส่งจดหมาย หรือโทรหาลูกค้าเพื่อเข้ามาตรวจเช็คทันที เหมือนกับในต่างประเทศ

ทั้งนี้ คุณจอยส์ ยังได้ประสานอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเครื่องยนต์ไปร่วมตรวจสอบซากรถด้วย หลังจากวันที่ช่างเทคนิคของค่ายรถเข้าไป ซึ่งต้นเพลิง ไม่ใช่ใต้ท้องเครื่อง และไม่ใช่ด้านหลัง ซึ่งเป็นส่วนของแบตเตอรี่ แต่มาจากทางห้องเครื่อง ซึ่งตัวอEGR ก็อยู่โซนใกล้เคียงกับห้องเครื่อง

ล่าสุด คุณจอยส์แจ้งว่า ทางค่ายรถ ได้ติดต่อมาว่าจะให้คุณจอยส์ เข้าไปพูดคุยกับทางผู้อำนวยการของฝ่าย after sale ซึ่งรับผิดชอบในส่วนนี้โดยตรง ในวันพุธหน้า ขณะที่ทีมข่าวก็พยายามติดต่อไปที่ศูนย์รถ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้


https://youtu.be/iE-VsRDx-_I

คุณอาจสนใจ

Related News