สังคม

สาวเตือนภัยนั่งแกร็บคาร์ยังไม่ถึงที่หมายถูกไล่ลงจากรถพร้อมเด็กวัยขวบเศษ

โดย onjira_n

20 ก.พ. 2565

976 views

มีผู้ facebook โดยใช้ชื่อว่าJuthamas Janphet ลงในสื่อสังคมออนไลน์เตือนภัยผู้ใช้บริการแกร๊บคาร์ให้ระวังภัยอันตรายใช้บริการรับส่งผู้โดยสารไปไม่ถึงจุดหมายโดยมีข้อความว่า "เตือนภัยสำหรับชาวคลอง4ที่ใช้บริการแกร๊บคาร์เป็นประจำ วันนี้เวลาประมาณ15:19นาที เราได้เรียกรถจากแกร็บคาร์เพื่อไปยังอู่ บีทีพลัส คลองหลวง เราก็ได้นั่งรถ ไปถึงคลองสาม คนขับถามว่า ใช่ซอยนี้หรือเปล่า เราบอกไม่แน่ใจค่ะพี่ พี่ลองขับไปตามหมุดนะคร๊า หนูไม่ใช่คนแถวนี้ แต่คนขับขับ ขับไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวใส่เรา ก็ยังไงตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว คนขับไปจอดส่งให้เราที่วัด แล้วบอกเราว่า ถึงแล้ว เราก็ตอบไปว่าพี่ไม่ใช่นะค่ะ ที่นี้ไม่น่าใช่


คนขับตอบมาว่าเนี้ยอ่ะค่ะตามหมุด ลองดูหน้าแอ๊ป เราก็ดูหน้าแอ๊ป แล้วตอบกลับไปว่า พี่ค่ะ แต่หน้าแอ๊ปหนู รถพี่กับหมุด ที่หนูปักอยู่คนละที่เลยค่ะ คนขับตอบมาว่า แล้วจะให้ไปส่งตรงไหน เราตอบว่า ตรงหมุดที่หนูปักเลยพี่ หนูจะลงตรงนั้นเราไปกัน2คน มีเด็กเล็กอีกคนนึง เราก็ว่าถ้าลงตรงที่วัดตรงนั้นที่เค้าจอดไห้ แล้วจะไปต่อยังไง เราเลยบอกว่าพี่ไปส่งตามหมุดที่หนูปักนะค่ะ คนขับบอกว่า ค่ะได้ค่ะได้ ขับออกมาแบบโมโห ใส่เรา เราก็งง เราทำไรผิด ในเมื่อเค้าพาเราไปผิดเอง ขับมาได้ประมาณ200เมตร เค้าจอดและไล่เรา กับลูก ลงจากรถและด่าเราว่า เป็นบ้าไร อีเหี้ย เราก็งง ฮัลโล่ เดี๋ยวก่อนนะใครบ้ากันแน่ จากนั้นเค้าก็มากระชากแขนเรา เราก็ไม่อยากมีเรื่อง เพราะกลัวเค้าทำร้าย หรือทำอันตรายต่อเราและลูก


คือตอนนั้นหลานเราก็พยายามพูดให้เค้าใจเย็น เค้าก็ไม่ฟัง หลังจากที่เค้าด่า และกระชากแขนเราเราก็พยายามจะแยกจากเค้าให้เร็วที่สุดเพราะกลัวอันตราย หลังจากนั้นเราได้ร้องเรียนทางแกร๊ป คอลเซ็นเตอร์ แล้วเค้าตรวจและพบว่าคนขับไม่ใด้ส่งเราตามหมุดจริง และคืนเงินค่าโดยสารให้ จากนั้นแกร๊บ แนะนำให้เราดำเนินคดี เราแจ้งความเรียบร้อยแล้วค่ะ เราก็หวังว่าจะได้รับคำขอโทษจากเค้านะคร๊า "หลังจากที่ถูกเผยแพร่ออกไป



วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางพบ นางสาว จุฑามาศ จันทร์เพชรอายุ 28 ปีเจ้าของร้าน อาหารปูเป้ ราดหน้า ตั้งอยู่ถนนไสวประชาราษฎร์ ต.ลาดสวายคลอง 4 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ผู้โพสต์ facebook ดังกล่าว เปิดเผยว่า ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ได้เรียกรถ แกร๊บคาร์ เพื่อที่จะเดินทางไปที่ อู่บีทีพลัส แถวอำเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีโดยเดินทางไปทั้งหมด 3 คน มีลูกสาววัย1ขวบและหลานสาววัย 17 ปี เรียกรถบริษัทแกร๊บหลังจากที่เรียกรถมารับที่ถนนหน้าหมู่บ้านคลอง 4 ถนนไสวประชาราษฎร์ พอใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางที่ ใกล้จะถึง บริเวณวัดเกิดการอุดมคลองหลวง ก่อนหน้านี้ ก็ปักหมุดให้ grab ด้วย คนขับถามว่าใช่ซอยนี้หรือเปล่า ตัวเองก็บอกว่าไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่หมุดที่ปักให้นั้นยังไม่ตรงจุดมุ่งหมายที่จะลง ก็เลยบอกเขาว่าหมุดปักให้ลงตรงไหนก็ลงตรงนั้น แต่สังเกตว่า เขาไม่ได้ดูตรงหน้า app ที่ปักหมุดเขาก็เลี้ยวตรงไปหลังวัด เลี้ยวไปเอง ก็บอกเขาว่าตรงนี้มันไม่ใช่ เขาเลยบอกว่าตรงนี้มันท้ายวัดแล้วจะลงตรงไหน ก็เลยบอกเขาไปอีกว่า ช่วยไปตามหมุดได้ไหม ก็เลยมีการโต้เถียงกัน ว่านี่แหละหมุดที่ปักให้ เลยโชว์โทรศัพท์ให้ชู app ที่ส่งให้ แต่ตอนนี้คนขับ grab เริ่มมีอารมณ์ฉุนเฉียวและโมโห พอเขาขับรถออกมา เขาก็จอด มีการโต้เถียงกันอีก ก็บอกว่ามันไม่ใช่แต่เขายืนยันว่าใช่


ซึ่งบริเวณตรงนั้นก็เปลี่ยวมีสุนัขจรจัดก็เยอะ ก็ไม่อยากให้ลูกและหลานลงจากรถ เพราะมันยังไม่ถึง อยู่ๆเขาก็พูดขึ้น ด่าว่า ทั้งด่าคำหยาบแล้วกระชากแขนของตัวเอง เพื่อให้มาดูที่ปักหมุด จริงๆแล้วมันไม่ใช่เพราะตัวเองได้แจ้งไปทาง grab แล้ว ให้ตรวจสอบการปักหมุด คนขับแกร๊บไม่ได้ส่งหมุดเลย ก็เลยตัดสินใจยังไงก็ต้องออกจากจุดตรงนี้ให้เร็วที่สุดเนื่องจากคนขับก็เริ่มมีอารมณ์มากขึ้นแล้ว กลัวไม่ปลอดภัย ก็ได้เดินเลาะลัด เพราะในระหว่างที่เดินออกมาเขาก็จ้องมองตาเขม่งอยู่ หลังจากที่เกิดเหตุ ก็ได้ไปบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจอำเภอธัญบุรี ค่าโดยสารทั้งหมด178บาททางบริษัท grab ได้คืนมาให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวเองคิดว่าปัญหาที่ คนขับโมโห น่าจะเกิดจากตัวเองพูดว่า ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน แล้วคนขับเกิดอารมณ์โมโห เคยไปที่ตรงนี้เมื่อปีที่แล้วเคยเรียก grab มาครั้งนึงแต่เขาก็ไปถูก ซึ่งจุดที่โดนไล่ลงอีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึง


ซึ่งคนที่ตัวเองเรียกครับรถยี่ห้อ toyota สีแดง ทะเบียน ซึ่งเป็นผู้ชายสาวประเภทสองอายุประมาณ 40 ปีเป็นคนขับโดยการแต่งตัวลักษณะไม่ใส่รองเท้าสวมชุด กระโปรงยาว ลายดอก ก็ไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราวอะไรแค่อยากได้ยินคำขอโทษ หากเป็นไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแค่ลงบันทึกประจำวัน เป็นหลักฐาน แต่ก็โชคดีที่เจอคนขายลูกชิ้นก็ได้เดินไปแกล้งถาม สอบถามอู่บีทีพลัสแต่เขาก็บอกว่าเดินลัดป่าเดี๋ยวก็ถึงแล้วซึ่งระหว่างนั้นคนขับ grab ก็ยังมองตามเราอยู่

เบื้องต้นได้เข้าแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานต่อ ร.ต อ.สริพงษ์ อภิวันรองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรีเนื่องจากเกรงกลัวว่าจะได้รับอันตราย


คุณอาจสนใจ

Related News