สังคม

อดีตผู้ต้องหาร้องกองปราบ หลังเคยโดนชุดจับกุมปทุมฯอุ้มซ้อม บังคับสารภาพ

โดย sitanan_k

14 ก.พ. 2565

65 views

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์  ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ครอบครัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2550  เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม ให้ช่วยดำเนินคดี ชุดปราบปรามยาเสพติด รวมประมาณ 8 - 12 นาย ใน 3 ข้อหา คือ ร่วมกันพยายามฆ่า ร่วมกันปล้นทรัพย์ และร่วมกันพรากผู้เยาว์ หลังจาก 14 ปีที่แล้ว ชุดจับกลุ่มดังกล่าวได้บุกเข้ามาภายในบ้านและควบคุมตัวครอบครัวผู้ต้องหารวม 4 คน





โดยกล่าวอ้างว่าภายในบ้านมียาเสพติด แต่เมื่อมีการตรวจค้นภายในบ้านก็ไม่พบของกลาง ตำรวจชุดดังกล่าวจึงควบคุมตัวปากคำขยายผลที่ ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ก่อนจะแยกตัวตนเองและสามีไปสอบแยกที่เซฟเฮาส์แห่งหนึ่งโดยมีการใช้วิธีทรมานด้วยการช็อตไฟฟ้า รุมทำร้ายร่างกายและใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะ เพื่อให้รับสารภาพแล้วบอกที่ซ่อนยาเสพติดแต่ แต่ก็ไม่ได้รับสารภาพ จนกระทั่งชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่ง พบของกลางยาเสพติดเกือบ 4 พันเม็ด ที่นอกรั้วบ้าน ตำรวจจึงนำตัวกลับมาที่บ้านและบังคับให้เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา




ด้านสามี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวบอกว่า ภาพตนเองไม่ยอมรับสารภาพและต่อสู้มาถึง 3 ศาล ก่อนจะพ้นโทษออกมา จึงตัดสินใจร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐ แต่ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยเรื่องคดี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย






ขณะที่นายอัจฉริยะ บอกว่า ที่เดินทางมาแจ้งความในวันนี้ตั้งใจจะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย พากผู้เยาว์ ภรรยาและลูกของผู้ต้องหา จากการตรวจสอบพบว่าคดีดังกล่าวมีข้อพิรุธหลายอย่าง ตั้งแต่การเข้าตรวจค้นที่ไม่มีหมายคนและหมายจับ และคำให้การของผู้ต้องหาชาวลาวที่ซักทอดมายังหา ที่ยอมรับและเป็นเจ้าของยาเสพติด และมีการฟ้องซ้ำในชั้นอัยการทั้งที่ไม่ได้สอบปากคำเพิ่ม และพบว่าในปีที่เกิดเหตุชุดจับกลุ่มดังกล่าวมีการจับกุมในลักษณะนี้หลายคดีแต่ก็ไม่เคยถูกดำเนินการทางวินัยหรืออาญา ซึ่งเบื้องต้นตนเองในรายชื่อชุดจับกุมในคดีนี้เพื่อเตรียมเอาผิดย้อนหลังทั้งหมด



ขณะที่ทีมข่าว ตรวจสอบข้อมูลจาก พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณทิตไทย รอง ผกก(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่ถูกกล่าวอ้างถึง ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ถูกร้องเรียน ยืนยันตนเองและชุดจับกลุ่มในวันนั้นปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง ส่วนการแจ้งความกลับก็ถือเป็นสิทธิ์ ส่วนตัวก็จะสู้คดีต่อไป พร้อมย้ำชัดว่า ไม่มีมันไม่ถูกการบังคับยัดยาเสพติดให้ผู้ต้องหารวมถึงทำร้ายร่างกายและรีบทรัพย์ ตามที่ถูกกล่าวอ้างอย่างแน่นอน

คุณอาจสนใจ

Related News