สังคม

บุกจับเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พร้อมออกหมายจับยกแก๊งอีก 17 ราย

โดย sitanan_k

3 ก.พ. 2565

233 views

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการที่ 5 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำชุดปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อม ทีม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติกาที่ 1 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สนธิกำลัง พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี รองเสธนาธิการกองกำลังบูรพา นำกำลังปูพรมตะเข็บชายแดนสระแก้ว บุกจับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ พร้อมออกหมายจับอีกยกแก๊ง 17 ราย และเตรียมขยายผลออกหมายจับเจ้าของบัญชีม้าอีกกว่า 10 ราย







เบื้องหลังปฏิบัติการเริ่มต้นจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายเด็ดขาดให้เร่งรัดปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดหนัก มีเครือข่ายสามีภรรยาอยู่ฝั่งประเทศไทย ทำหน้าที่ประสานงานชาวจีนหัวหน้าขบวนการ ธุระจัดหาคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชาผ่านเว็บไซต์จัดหางานประเทศเพื่อนบ้าน หลอกว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อจะขับรถไปรับถึงบ้านแล้วนำพาข้ามชายแดนไปยังกัมพูชา ชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับสามีภรรยาผู้ร่วมขบวนการรายนี้







ผลจากปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนไปกัมพูชาในครั้งนี้ สามารถจับกุม นายณฐกร หรือบอม อายุ 28 ปี และน.ส.อ้อยใจ อายุ 34 ปี ภรรยาดำเนินคดี 5 ข้อหาหนักตั้งแต่ ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นฯ , หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นฯ , เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือหน่วงเหนี่ยวซึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใด ,เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ







จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ระบุมีนายนายสุคนธนารักษ์ หรือปอ อายุ 34 ปี คนไทยเป็นขาใหญ่ควบคุมคอลเซ็นเตอร์ชาวไทยอยู่ฝั่งกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ชุดปฏิบัติการได้ตรวจค้นเซฟเฮาส์ที่ใช้พักคนไทยก่อนข้ามชายแดน 2 จุด ในตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว พบพยานหลักฐาน เช่น สมุดบัญชีธนาคาร ระบุชื่อเจ้าของบัญชี น.ส.ชุติมา ประนาประโคน กับ นายธนากร จันทรภิรมย์ หนังสือผ่านแดน (Border Pass) ของผู้ต้องหา สมุดจดบันทึกรายการเข้าออกและค่าใช้จ่าย จำนวน 1 เล่ม พร่อมนำผู้ต้องหาไปชี้จุดที่นำพาคนไทยข้ามชายแดนไปยักัมพูชา บริเวณทุ่งนาด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธมที่ต้องใช้การเดินเท้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรจะถึงแนวชายแดน มีผู้ต้องหาให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อข้ามไปถึงประเทศกัมพูชาแล้วจะมีคนฝั่งกัมพูชานำทางต่อ เพราะบริเวณแนวชายแดนมีกับระเบิดของทหารกัมพูชาดักอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้




ระหว่างนำชี้ที่เกิดเหตุปรากฏมีผู้เสียหายรายหนึ่งอ้างเคยเป็นเหยื่อในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลบหนีกลับมาประเทศไทยได้ เข้าพบ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ให้ข้อมูลว่า หลังจากส่งคนไทยข้ามแดนแล้วจะมีคนกัมพูชามารับต่อ เมื่อไปถึงฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะถูกจับเป็นทาสให้ทำงานโทรศัพท์หลอกคนไทยให้โอนเงิน บังคับทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ถูกกักขัง หากขัดขืนไม่ทำงานก็จะถูกทารุณต่างๆนานา ทั้งกักขังและทำร้ายร่างกาย ในบางรายถูกขายต่อให้แก๊งอื่น ๆ สภาพเหมือนตกนรก แต่หากบางรายเต็มใจในการหลอกคนไทยจะได้เงินส่วนแบ่งดี

คุณอาจสนใจ

Related News