พนง.โรงงานทอผ้าเมืองนนท์ประท้วง หลังเจ้าของไม่ปิด ขู่ไม่จ่ายค่าแรงหากหยุดงาน แม้พบผู้ป่วยโควิดกว่า 60 ราย

พนักงานโรงงานทอผ้าชื่อดัง จ.นนทบุรี กว่า 1,500 คน ประท้วงไม่ยอมปิดโรงงานฆ่าเชื้อ หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กว่า 60 คน หวั่นเชื้อแพร่กระจายจนกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ โรงงานไม่ให้หยุดกักตัว ขู่ถ้าใครหยุดงานจะไม่จ่ายค่าแรง

เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ที่โรงงานทอผ้าแห่งหนึ่ง บนถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีคนงานทอผ้าทั้งชายและหญิงกว่า 1,500 คน จับกลุ่มประท้วงเรียกร้องให้เจ้าของโรงงานปิดชั่วคราว พร้อมทั้งดำเนินการช่วยเหลือในเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ ช่วงโรงงานปิด บรรยากาศตึงเครียด

โดยการประท้วงเป็นไปอย่างต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ สำหรับสาเหตุของการประท้วง ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงดึกวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์ สวมชุด PPE นำรถตู้ 2 คัน มารับคนงานชายหญิงกว่า 60 คน ที่ติดเชื้อโควิค-19 ส่งไปทำการรักษา ทั้งหมดทราบผลหลังมีการตรวจคัดกรองเชิงรุก เมื่อวันที่ 25-26 มิ.ย.

จนกระทั่งช่วงเช้าพนักงานทุกคนที่มาทำงานทราบเรื่อง ต่างต้องการให้โรงงานปิดไปก่อน และอยากให้มีการตรวจหาคัดกรองเชิงรุกหรือทำ SWAB พนักงานทุกคนที่มีจำนวนหลายพันคน เพราะเกรงว่าจะได้รับเชื้อแพร่กระจายติดต่อกันเป็นวงกว้าง

จึงอยากขอให้ทางโรงงานหยุดงานให้กับพนักงานในช่วงนี้ไปก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจ หลังพบว่าไม่มีการติดเชื้อทุกคนจะได้กลับมาทำงานด้วยความสบายใจ ซึ่งทางผู้จัดการโรงงานฯ ได้ประสานงานกับเจ้าของโรงงานซึ่งเป็นชาวต่างประเทศให้ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โรงงานดังกล่าว ปิดประตูไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าไปข้างใน พนักงานโรงงานพากันนั่งและยืนรวมตัวอยู่ด้านในโรงงานบริเวณลานอเนกประสงค์ รอฟังความชัดเจนจากโรงงาน ซึ่งพูดคุยเจรจากันกับสหภาพแรงงาน, เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ กองการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครปากเกร็ด , เจ้าหน้าที่ กอ.รมน จ.นนทบุรี, เจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด เพื่อหาข้อยุติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น

ทั้งนี้ทางโรงงานปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ทั้งที่พบพนักงานติดโควิดมากกว่า 60 คน มีเพียง รปภ.ที่ยืนเฝ้าหน้าโรงงานฯ เมื่อสอบถามว่าพนักประท้วงกันเรื่องอะไร รปภ.บอกว่าไม่ได้ประท้วง ขณะที่ทางโรงงานฯ สั่งห้ามพนักงานพูดหรือให้ข้อมูลใด ๆ กับนักข่าวเกี่ยวกับคนงานที่ติดโควิด ก่อนเดินมาบอกนักข่าวไม่ขอให้ข้อมูลอะไร และให้ลบภาพออกจากกล้อง

หลังจากที่พนักงานพากันเดินออกมาจากโรงงานฯ ผู้สื่อข่าวไปได้ไปสอบถามนางธารทิพย์ ศิริวิกรม์ เลขาสหภาพแรงงานบริษัท เผยว่า พนักงานจับกลุ่มประท้วงให้โรงงานปิด และจะรับผิดชอบอย่างไร จะสถานที่กักตัวให้กลุ่มเสี่ยงสูงอย่างไร แต่ทางโรงงานฯ ไม่มีคำตอบให้เพราะกลัวเสียเงิน ทางโรงงานฯ บอกว่าปิด 14 วัน ไม่มีปัญหา แต่ยังไม่ขอให้คำตอบว่าจะปิดหรือไม่ พวกตนคงต้องรอฟังคำสั่งจากทางจังหวัด

ทางโรงงานฯ บอกว่า ถ้ายังไม่มีคำสั่งปิดโรงงานฯ พนักงานต้องมาทำงานตามปกติ ปัญหาคือตอนนี้พนักงานใส่ชุดยูนิฟอร์มของโรงงานฯ ขึ้นรถสาธารณะแทบไม่มีใครรับแล้ว พวกเราต้องการความปลอดภัย ยอมรับเงินค่าจ้าง 50 เปอร์เซ็น เพราะไม่อยากเสี่ยงติดเชื้อ พนักงานทุกคนตรวจหาเชื้อครั้งแรกเมื่อ 25-26 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม้บางคนไม่พบเชื้อ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสติดเชื้อ ซึ่งต้องตรวจซ้ำ

ขณะที่พนักงานเสนอให้โรงงานฯ ตรวจเชิงรุกซ้ำ ก็ยังปล่อยคาราคาซัง ที่ทางโรงงานไม่ยอมปิดเพราะมีงานออเดอร์จากต่างประเทศ หากผลิตส่งของไม่ทันโรงงานจะโดนปรับ แต่พนักงานบางส่วนไม่ยอม ต้องการให้โรงงานปิดเพื่อหยุดกักตัวในช่วงที่เชื้อโควิดแพร่กระจายทั่วโรงงานทุกแผนก แต่โรงงานไม่ทำตามข้อเรียกร้อง รวมถึงคำแนะของสาธารณสุข

พนักงานอีกราย ระบุว่า นี่มันเป็นปัญหาของคนส่วนรวม หากโรงงานไม่หาสถานที่กักตัวให้คนงาน พวกเราเป็นเป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะ ไปตลาด อยู่บ้านกับครอบครัว ถ้าติดโควิดแล้วเอาเชื้อไปแพร่กระจายจะไม่ย่ำแย่ไปกันหมดเหรอ บริษัทไม่ยินยอมให้หยุดงาน และมีคำสั่งออกมาว่าถ้าใครหยุดงานจะไม่จ่ายค่าแรง

พนักงานต้องการแยกกักตัวเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดจากเชื้อ ทางบริษัทบอกไม่มีนโยบาย โรงงานไม่รับผิดชอบชีวิตพวกเรา ยังให้พนักงานมาทำงานต่อ แต่พวกพนักงานไม่อยากทำเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัย ทำไมต้องมาเสี่ยงกับค่าแรง 300 บาท อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่มาดู คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวันจนจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/UrySynLSOkY