นักธุรกิจหญิงร้อง ถูกมือดีปลอมใบมรณบัตร สวมชื่อไปถอนเงินผ่านแอปฯ สูญเงินนับล้าน

น.ส.จิณห์นิภาข์ ดีเฟื่องฟู อายุ 46 ปี เจ้าของธุรกิจร้านซาลาเปา เข้าพบนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความช่วยเหลือ ภายหลังมีคนร้ายนำใบมรณบัตรปลอมเป็นชื่อตนไปแจ้งกับทางค่ายมือถือทรูว่าเสียชีวิต จากนั้นสวมชื่อในเบอร์มือถือที่ตนใช้อยู่ถอนเงินในบัญชีจนหมดเกลี้ยงกว่า 1 ล้านบาท

น.ส.จิณห์นิภาข์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.64 โทรศัพท์มือถือถูกตัดสัญญาณทั้งที่ไม่ได้ติดค้างค่าใช้บริการ ตนเห็นว่าผิดปกติติดต่อไปยัง บ.ทรู เจ้าของเครือข่าย พนักงานแจ้งว่าถูกยกเลิกการใช้บริการ เนื่องจากผู้ใช้บริการเสียชีวิต มีผู้นำใบมรณบัตรมายื่นเพื่อเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ใหม่เป็นหมายเลขของตนที่ทรูช็อปปิ้งในห้างบิ๊กซี สาขาเพชรบุรี

ตนตกใจมากและเห็นความผิดปกติติดต่อไปที่คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารทหารไทย เพื่อตรวจสอบบัญชีเงินฝากไว้ที่สาขาห้างเซ็นทรัล และสาขาแฟรี่พลาซ่า จ.ขอนแก่น รวมเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท พบว่าคนร้ายถอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร 20 ครั้ง เงินหมดเกลี้ยงบัญชี จากนั้นเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองขอนแก่น

ต่อมาตำรวจแจ้งว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทราบชื่อคือ น.ส.สริสา เลิศเรืองฤทธิ์ อายุ 20 ปี ชาว ต.บ้านไร่ อ.เมืองราชบุรี กับพวกอีก 3 คน ถูกตำรวจที่ จ.ลพบุรีจับกุมตัวดำเนินคดีหลังจากก่อเหตุในลักษณะเดียวกันกับตนได้เงินผู้เสียหายไป 8 ล้านบาท หลังจากนั้นเรื่องของตนเงียบหายไปไม่มีความคืบหน้า ติดต่อกับ บ.ทรูและธนาคารทหารไทย ได้รับคำตอบว่าอยู่ระหว่างดำเนินการหามาตรการเยียวยาเป็นระยะเวลานาน 4 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีใครให้คำตอบว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ตนได้รับความเดือดร้อนมากจากเหตุการณ์นี้

ด้านนายรณณรงค์เปิดเผยว่า วันที่ 24 มิ.ย. จะพาผู้เสียหายพร้อมหลักฐานไปที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเอาผิดกับ บ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เจ้าของเครือข่ายทรูว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดการปลอมแปลงเอกสารจนทำให้เกิดความเสียหาย และอีกที่คือธนาคารทหารไทยเมื่อถูกคนร้ายโจรกรรมเงินไป เจ้าของเงินไม่ได้เบิกถอน ธนาคารต้องคืนเงินเพราะไม่ใช่ความผิดของเจ้าของบัญชี

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/AD_iyURuzIs