คืบหน้า ศพต้องสงสัยสวมชื่อคนเป็น เตรียมเผาที่วัดไทรน้อย

ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่นายจ้าง เตรียมทำพิธีเผาศพแรงงานคนหนึ่ง ที่ วัดไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เมื่อ 2 วันก่อน ปรากฎว่า ถูกทักท้วง จะว่า ชื่อและรูปภาพหน้าศพคนตาย เป็นคนละคนกับคนในบัตรประจำตัวประชาชน จึงแจ้งให้ตำรวจ ตรวจสอบพบ ว่า ชื่อเจ้าของบัตรประชาชนตัวจริงยังมีชีวิตอยู่ จึงสั่งระงับการเผาศพไว้ก่อน แล้วนำศพส่งไปให้ทางสถาบันนิติเวช ตรวจสอบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นใคร

ล่าสุดทีมข่าวไปตรวจสอบเพิ่มที่สภ.ไทรน้อย พนักงานสอบสวน ยอมรับว่า คดีนี้ ผู้เสียชีวิตอาจจะนำบัตรประชาชนของคนอื่นไปใช้สมัครทำงาน

เมื่อผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่บ้าน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตามชื่อและที่อยู่ในบัตรประชาชน ก็พบแม่และพี่สะใภ้ของเจ้าของบัตรประชาชนจริง ทั้งสองคนยืนยันว่า นายจิตรกร ยังมีชีวิตอยู่แต่ไปทำงานอยู่ต่างประเทศหลายปีแล้ว

บรรยากาศที่บริเวณวัดไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ที่ก่อนหน้านี้ นายจ้างได้จัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายจอน ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นลูกจ้าง ซึ่งระบุชื่อผู้เสียชีวิตตามบัตรประชาชนและใบมรณะบัตรว่า นายจิตรกร อายุ 49 ปี เสียชีวิตหลังไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลไทรน้อย เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา

ก่อนที่ทางเพจช่วยเหลือศพยากไร้ ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตไปขอความช่วยเหลือไป แล้วระบุ ชื่อผู้เสียชีวิต ตามบัตรประชาชน ว่า นายจิตรกร อายุ 49 ปี ปรากฎว่า รูปหน้าศพ กลับชื่อว่า ชื่อ จอน ไม่ตรงกับที่มีการขอมา จึงมีการตรวจสอบพบว่า ชื่อตามบัตรประชาชนดังกล่าว ยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังไปใช้สิทธิบัตรทองด้วย

ก่อนจะมีการแจ้งความที่ สภ.วังน้อย ให้ตรวจสอบ จากนั้นตำรวจจึงสั่งระงับงานศพ รวมทั้งห้ามเผาศพดังกล่าวด้วย เพื่อจะติดต่อญาติมายืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครกันแน่ พร้อมทั้งนายจ้างอาจมีความผิด ฐานอำพรางศพได้ หากดำเนินการเผาศพผิดตัวไปก่อน

ล่าสุดทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี เปิดเผยการตรวจสอบเบื้องต้น ว่า ผู้เสียชีวิต อาจจะแอบอ้าง นำบัตรประชาชนของคนอื่นมาใช้สมัครทำงาน กำลังเร่งตรวจสอบว่ามีชื่อในแฟ้มประวัติอาชญากรด้วย หรือไม่

ขณะเดียวกันเมื่อไปตรวจสอบ ตามที่อยู่ของนายจิตรกร ตามบัตรประชาชน ที่ บ้านเลขที่ 156 หมู่ 9 บ้านหนองบัว ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านที่มีนายจิตรกร เศษมาก อายุ 49 ปี มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

พบนางลี เศษมาก อายุ 76 ปี แม่ของนายจิตรกร เล่าว่า ลูกชายไปทำงานร้านอาหารอยู่ที่อเมริกา ได้ประมาณ 7-8 ปีแล้ว นานๆจะกลับมาเยี่ยมบ้าน และรู้สึกตกใจ ที่มีคนแอบอ้างใช้บัตรประชาชนชื่อเดียวกับลูกชาย แล้วไปแจ้งตาย ทั้งที่ยังพูดคุยกันเป็นประจำ

ด้านนางศิรารินทร์ เศษมาก อายุ37ปี พี่สะใภ้นายจิตรกร เล่าว่า หลังทราบข่าวได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นาโพธิ์แล้ว บอกว่า โชคดีที่รู้ทัน ถ้ารู้ช้าหากมีการแจ้งตายสำเร็จ ไม่รู้ว่านายจิตรกร จะได้กลับเมืองไทยอีกหรือไม่