หนุ่มขายน้ำสุดโหด! เขม่นแม่ค้าร้านข้างๆ ก่อนบุกแทงดับ แม่มือแทงร่ำไห้ ปกติลูกชายเป็นคนใจเย็น

หนุ่มขายน้ำสุดโหด ไม่พอใจแม่ค้าอาหารตามสั่งร้านติดกัน จนมีเรื่องทะเลาะกันบ่อย ถึงขั้นถือมีดบุกกระหน่ำแทงไม่ยั้งต่อหน้าลูกค้า จนสาหัสไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล สุดท้ายหนีไม่รอดถูกตำรวจจับทันควัน


กล้องวงจรปิดในร้านที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะ น.ส.ทัตพิชา อายุ 41 ปี เจ้าของร้านอาหารตามสั่ง กำลังยืนทำอาหารให้ลูกค้าชาวต่างชาติ จู่ ๆ มีชายเสื้อสีดำถือวิ่งเข้ามา แล้วบุกเข้าไปกระหน่ำแทง น.ส.ทัตพิชา แบบไม่ยั้ง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของ น.ส.ทัตพิชา และคนที่เห็นเหตุการณ์ ระหว่างนั้นมีคนพยายามช่วยเหลือ โดยปาสิ่งของใส่ผู้ก่อเหตุ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด กระทั่ง น.ส.ทัตพิชา แน่นิ่งไป คนร้ายจึงวิ่งหนีออกจากร้าน เหตุเกิดช่วงบ่ายวานนี้ ในร้านอาหารตามสั่ง ที่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองจังหวัดกระบี่


ตำรวจ สภ.เกาะพีพี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบข้าวของในร้านกระจัดกระจาย โดยเฉพาะบริเวณครัวทำอาหารหน้าร้าน มีกองเลือดกองใหญ่อยู่บนพื้น ส่วน น.ส.ทัตพิชา ถูกแทงตามคอ และลำตัว หลายแผล กู้ภัยรีบช่วยเหลือส่งโรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ขณะที่คนก่อเหตุ เป็นเจ้าของร้านขายน้ำชากาแฟ อยู่ใกล้กัน คือ นายคณนาถ หรือกริช อายุ 27 ปี หลังก่อเหตุวิ่งหนีออกจากร้านไป แต่ถูกตำรวจตามจับได้ พร้อมมีดปลายแหลม ยาว 1 ฟุต สภาพยังเปื้อนเลือดอยู่ จึงคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.เกาะพีพี


เบื้องต้นรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยปมเหตุเกิดจาก ทั้ง 2 ฝ่าย มีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว เนื่องจากร้านอยู่ติดกัน จึงมีปากเสียงกันเป็นประจำ ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร


ผู้สื่อข่าวไปที่วัดแก้วโกรวาราม สถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพ น.ส.ทัตพิชา ได้เจอกับลูกสาวผู้เสียชีวิต อายุ 20 ปี เผยว่า แม่มาทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารอยู่บนเกาะพีพีนานกว่า 10 ปีแล้ว กระทั่งตั้งตัวได้ เลยหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านบนเกาะ จนเมื่อ 2 ปีก่อน ตนก็เรียนจบชั้น ม.6 จึงมาอยู่กับแม่ เพื่อช่วยแม่ทำงาน จากนั้นแม่จึงเปิดร้านของตัวเอง โดยช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ได้เรียกช่างก่อสร้างมาซ่อมแซมปรับปรุงร้าน แล้วผู้ก่อเหตุก็หาเรื่อง บอกว่าส่งเสียงดังรบกวน ถึงขั้นไปแจ้งความจนต้องขึ้นโรงพักกัน ซึ่งตำรวจก็ไกล่เกลี่ยจนเรื่องจบไปแล้ว


นอกจากนี้ก็ยังเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกหลายเรื่อง โดยเรื่องล่าสุดตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ มีรถมาส่งน้ำแข็งให้กับร้านคนก่อเหตุ แต่มาจอดหน้าร้านแม่เป็นประจำ ทำให้ขวางหน้าร้าน และน้ำจากรถน้ำแข็งก็เลอะพื้นหน้าร้าน แม่ก็ต่อว่าไป แม่เป็นคนพูดเสียงดัง แต่ก็ไม่ได้พูดหยาบคาย เรื่องนี้ก็อาจจะทำให้เขาไม่พอใจ และเชื่อว่าคนร้ายน่าจะจ้องจะทำร้ายแม่อยู่ก่อนแล้ว แล้วเลือกก่อเหตุช่วงที่แฟนของแม่ ออกไปส่งอาหารให้ลูกค้า ที่ร้านจะเหลือแค่แม่กับคนงานชาวเมียนมาร์


เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนกับน้องชายที่ยังเรียนอยู่ สูญเสียเสาหลัก ก่อนนี้ตั้งใจว่าจะมาช่วยแม่ทำงาน เพื่อเก็บเงินสร้างอนาคตกัน แล้วจะพาน้องมาอยู่ด้วย ซึ่งชีวิตกำลังไปได้ดี เริ่มมีเงินเก็บไว้สร้างเนื้อสร้างตัวกัน แต่แม่ก็มาโดนทำร้ายจนเสียชีวิตเสียก่อน จึงอยากขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด


ด้าน นางซากีนา อายุ 49 ปี แม่คนก่อเหตุ เผยว่า แม่ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร รู้แค่ลูกชายกับคนตาย เคยมีปัญหาทะเลาะจนถึงขั้นขึ้นโรงพัก เมื่อช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นก็เคลียร์ปัญหากันจบไปแล้ว ก็ไม่นึกว่าจะมาเกิดเรื่องขึ้นอีก ตนเองก็ไม่เคยถามลูกว่าขัดแย้งกันเรื่องอะไร กระทั่งวันเกิดเหตุลูกสาวโทรมาบอกว่า ลูกชายไปก่อเหตุแทงเขา ตอนนั้นตนถึงกับช็อค ทำอะไรไม่ถูก ที่ผ่านมาลูกชายเป็นคนที่ใจเย็น ก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าเพราะอะไรถึงตัดสินใจทำแบบนั้น


อยากฝากขอโทษฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตแทนลูกชายด้วย ลูกตนไม่ได้เจตนา ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ หากลูกชายได้มีโอกาสฟังเสียงแม่ ตนอยากจะบอกถึงลูกว่า ให้ลูกใจเย็นกว่านี้ ขอให้คิดไว้เสมอ ว่ายังมีพ่อ มีแม่ มีหลานที่บ้าน ไม่อยากให้ลูกชายคิดมาก ในส่วนของคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/tQ09q_eWmAE