สังคม
'หมอดูฮวงจุ้ย' ติงหญิงร้องสื่อทำเสียชื่อ ปมแฉหลอกแก้ดวงสูญ 66 ล้าน กูรูฮวงจุ้ยชี้กิเลนหิน 2 ล้านไม่เคยเห็น
โดย paweena_c
4 พ.ย. 2567
1.6K views
เพจดังแฉ หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง ทักทำนายและแนะนำทำพิธีเสริมดวงให้บ้านอยู่เย็นเป็นสุข ซื้อที่สร้างสุสานคนเป็น ทุบศาลเก่าตั้งศาลใหม่ ขุดหลุมโรยผงกระดูกผีรอบบ้าน รวมค่าใช้จ่าย 66 ล้านบาท
เพจบิ๊กเกรียนเปิดเรื่องราวเกี่ยวกับหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง โดยในโพสต์ระบุข้อความว่า เห็นในทีวีน่าเชื่อถือ ให้แค่มาดูฮวงจุ้ย คนแก่กับลูกสาวโดนไป 66 ล้านบาท แจ้งจับหมอดูฮวงออกทีวีช่องดังฉ้อโกงคนแก่สูญเงินไป 66 ล้านบาท
ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ คุณนฤชา กมุทโยธิน ได้ไปพบกับ คุณยุ้ย และคุณแม่ โดยทั้งคู่ได้พาคุณอาม นฤชา เดินสำรวจดูรอบบริเวณบ้านและชี้ให้ดูจุดที่หมอดูฮวงจุ้ยบอกให้ทำพิธีต่าง ๆ เพื่อเป็นการเสริมดวงและแก้ฮวงจุ้ย เนื่องจากหมอดูอ้างว่า คอนโดที่มาสร้างอยู่ติดกับบ้านของคุณยุ้ย ซึ่งมองว่าน่าจะทำคุณไสยใส่ที่บ้าน เพราะต้องการที่ดินแปลงนี้ไปสร้างเป็นคอนโดเพิ่ม โดยสูญเงินทำพิธีไปทั้งหมด 66 ล้านบาทตามที่ทางเพจได้ลงข้อมูลไว้
โดยคุณยายแสงเดือน อายุ 76 ปี เล่าให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ตนและครอบครัวก็อยู่กันอย่างร่มเย็นปกติสุข จนกระทั่งเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อนเริ่มมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าและคอนโด โดยทางคอนโดได้ขอซื้อที่ด้านข้างบ้านของตนเพื่อทำทางเข้าออกตนก็ตัดสินใจขายให้
หลังจากนั้นได้เงินมาก้อนหนึ่งก็นำมาปรับที่ดิน สร้างบ้านใหม่ เนื่องจากบ้านหลังเดิมค่อนข้างเก่าและทรุดโทรม ปรากฏว่าคอนโดที่สร้างอยู่ติดกันสร้างเป็นตึกสูง 2 ตึก ตนรู้สึกว่า บังทิศทางลมและรู้สึกว่าฮวงจุ้ยไม่ค่อยดี ประกอบกับระหว่างที่ตนสร้างบ้านก็จะมีปัญหาจุกจิก เช่น กำแพงร้าว บ้านทรุด ทำอะไรก็ดูติดขัดไม่ราบรื่น
คุณยายดวงเดือน บอกว่า เมื่อประมาณต้นปี 2567 ตนและลูกสาวได้ดูรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง เห็นหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังออกรายการจึงติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ยที่บ้าน และเป็นครั้งแรกที่ได้เจอกับหมอดูคนนี้เดินทางมาดูฮวงจุ้ยให้ถึงบ้าน ราคาเริ่มต้น 55,000 บาท
หลังจากนั้นหมอดูก็จะทักให้ปรับตรงนั้นแก้ตรงนี้ทำพิธีอีกหลายอย่าง จนตนและลูกสาวมารู้ตัวอีกที คือ เงินที่เก็บไว้หมดเกลี้ยง ถึงได้รู้สึกตัว และทวงถามหมอดูไป เพราะมีของหลายอย่างที่สั่งซื้อตามคำแนะนำของหมอดูแต่ยังไม่ได้ เช่น สิงห์คู่ตัวใหญ่ หมอดูบอกว่าเป็นพ่อสิงห์แม่สิงห์ ต้องนำมาตั้งหน้าศาลพระภูมิเพื่อเป็นการเสริมฮวงจุ้ยและศาลพระภูมิก็ต้องทุบทิ้งสร้างใหม่ เป็นแบบศาลจีน
ซึ่งผ่านมาหลายเดือน สิงห์คู่ตัวใหญ่ ก็ยังไม่ได้ หมอดูอ้างว่าต้องแกะสลักจากหินสุสานที่ประเทศจีนต้องใช้เวลา หมอดูจึงให้สิงห์คู่ตัวเล็ก ของที่บ้านหมอดูมาตั้งแทน ,
นอกจากนี้ หมอดู ยังแนะนำให้ทำพิธีแซกี โดยต้องซื้อที่ดิน สูญเงินกว่า 40 ล้านบาท พอลูกสาวถามหาโฉนดและขอดูที่ดินก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง
พอลูกสาวถามหาโฉนดและขอดูที่ดินก็ได้รับการบ่ายเบี่ยง และพูดตะคอกสวนกลับมาในลักษณะไม่พอใจ
ซึ่งตนกับลูกสาวจึงรู้สึกตัวแล้วว่า น่าจะโดนหลอก จึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับหมอดูคนดังกล่าว และต้องการให้หมอดูคืนเงินมาทั้งหมด พร้อมฝากถึงหมอดูว่าเงินที่ให้ไปเพื่อทำพิธีไม่ใช่การให้ด้วยเสน่หา ถ้าไม่ได้ของก็ขอเงินคืนอย่าไปทำบาปสร้างเวรสร้างกรรมแบบนี้กับใครอีกเลยขอให้บ้านของตนเป็นบ้านหลังสุดท้าย
ขณะที่คุณยุ้ย (นามสมมติ) ลูกสาว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ช่วงหนึ่งคุณแม่มีอาการเหนื่อยล้าอ่อนแรง และไม่ค่อยกินข้าวช่วงนั้นคุณแม่และน้องได้ดูคลิปวิดีโอการดูฮวงจุ้ยบ้านและไปพบว่า หมอดูคนดังกล่าวดูน่าเชื่อถืออีกทั้งช่วงนั้น ที่บ้านมีการซ่อมแซมบ้านเป็นประจำ คุณแม่และน้องสาวก็เกิดความสงสัยว่า ไปทำอะไรผิดหรือไม่ หรือฮวงจุ้ยที่บ้านไม่ดีจึงตกลงกันว่าจะเชิญหมอดูท่านนี้มา
โดยติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กและนัดมาดูฮวงจุ้ยที่บ้านเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 โดยตอนนั้นอาจารย์คนดังกล่าวเรียกค่าใช้จ่าย ราคา 55,000 บาท แบ่งจ่ายเป็นสองงวด งวดแรก 20,000 บาท และอีกงวดคือ 35,000 บาท โดยหมอดูบอกว่า บ้านหลังนี้ต้องมีการนำเครื่องรางมาช่วยเพราะอยู่ใกล้กับคอนโด ซึ่งแรงของคอนโดจะดึงดูดพลังของคนในครอบครัวไป และอาจจะทำให้คุณแม่ คุณพ่อเสียชีวิตได้ ดังนั้นต้องรีบแก้ เพราะถ้าพลังงานหมด ก็คือ หมดชีวิต
คุณยุ้ย บอกว่า มาวันแรกหมอดูก็ขอให้สั่งซื้อ สิงห์และกิเลน มาตั้งที่หน้าบ้านสองตัวและที่หน้าศาลพระภูมิสองตัวโดยสั่งมาจากประเทศจีน คู่ละ 1,200,000 บาท ค่าจัดส่งอีก 100,000 บาท รวม 1,300,000 บาท ต่อคู่ และต้องสั่งทั้งหมด 4 คู่ รวมเป็นเงิน 5,200,000 บาท ครอบครัวตนตัดสินใจสั่งซื้อตามคำแนะนำของหมอดูเพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่หรือคนในครอบครัวมีอันเป็นไป
นอกจากนี้หมอดูยังให้สั่งเทพเจ้า 4 องค์ มี เจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อกวนอู เทพเจ้าไถ่ซินเอี๊ยะ และเทพเจ้าจงขุ่ย รวมเป็นเงินอีกกว่า 400,000 บาท คุณยุ้ยบอกว่า ทั้งหมดนี้สั่งไป ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนพฤศจิกายนก็ไม่ได้รับของตามที่สั่งและเงินก็จ่ายไปหมดแล้ว
จากนั้นก็มีการทำพิธี โรยพระผงกระดูกผี ซึ่งจะต้องเจาะพื้นเป็นหลุด 4 มุมรอบบ้าน ค่าใช้จ่ายจำนวน 4,400,000 บาท ซึ่งหลังจากที่ครอบครัวตนได้เข้าแจ้งความตำรวจได้มาเก็บ ตัวอย่างดินทุกหลุมเพื่อตรวจสอบ ตรวจ DNA ว่าเป็นกระดูกของอะไร
นอกจากนี้ยังมีการทำพิธีขึงแหเพื่อดักจับสิ่งไม่ดี และให้เด้งออกไปจากชีวิต โดยทำ 2 จุดที่หน้าบ้านและหลังบ้านราคา 1 ล้านบาท
แล้วหมอดูบอกว่าศาลพระภูมิเจ้าที่ของเดิม ต้องทุบทิ้งและสร้างศาลพระภูมิใหม่ในลักษณะแบบจีน และเสียค่าทำพิธีตั้งศาลตี่จูเอี้ยในบ้าน 20,000 บาท ค่าของไหว้ 30,000 บาท ค่ารูปปั้นและศาล 140,000 บาท รวมเป็นเงินอีก 190,000 บาท ที่เสียให้กับหมอดูคนนี้
และพิธีสำคัญที่ทำให้ครอบครัวตนเสียเงินก้อนใหญ่อีกกว่า 44 ล้านบาท คือ พิธีแซกี หรือ สุสานคนเป็นที่จังหวัดชลบุรี โดยหมอดู บอกว่า พวกเศรษฐีระดับเจ้าสัวเขาก็ทำกัน โดยให้ครอบครัวตนซื้อที่ดินและมีการนำหินจากประเทศจีนนำเข้ามาเพื่อทำพิธีด้วย
ค่าซื้อที่ดิน ราคา 4,500,000 บาท , ค่าหินที่นำเข้าจากประเทศจีนราคา 38 ล้านบาท ค่าแกะสลักหินป้ายชื่อ 200,000 บาท เสียค่านำเข้าหินผ่านศุลกากร 200,000 บาท ค่าภาษี 600,000 บาท และมียืมเงินอีก 500,000 บาท(ยังไม่คืน) โดยอ้างว่าเป็นค่านำเข้าของลูกศิษย์คนอื่น ขอยืมก่อน และ อ้างอีกว่า ทางการประเทศจีนติดต่อให้หมอดูไปดูฮวงจุ้ยที่ประเทศจีน ไปดูสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งต้องมีหลักทรัพย์วางเงินประกันจึงขอยืมตนไปอีก 2 ล้านบาท
คุณยุ้ยระบุว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นด้วยความเชื่อและศรัทธาในตัวอาจารย์จึงยอมทำพิธี และเสียเงินทั้งหมดรวมกว่า 66 ล้านบาท แต่พอทำไปแล้ว กลับไม่มีผลใดใดกับชีวิตเลย ไม่มีความเปลี่ยนแปลง มีแต่จ่ายเงิน แต่ไม่ได้ของ ครอบครัวตนจึงไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีและร้องเรียนสื่อมวลชนช่วยตรวจสอบหมอดูคนนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่คุณยุ้ยให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอยู่นั้น ปรากฏว่า หมอดูคนดังกล่าว ได้โทรศัพท์เข้ามาหาคุณยุ้ยและตำหนิว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมถึงนำเรื่องไปร้องเรียนผ่านสื่อผ่านเพจต่าง ๆ ทำให้ตัวเองเสียชื่อเสียง แทนที่จะคุยกันก็ได้ แต่คุณยุ้ยบอกว่า ไม่ต้องการคุยแล้วเพราะต้องการเงินคืนทั้งหมด
หมอดู ตอบว่า ถ้าหากไม่อยากทำพิธี หรือไม่ต้องการของที่สั่งแล้ว ก็ให้บอกได้ จะได้ขายให้คนอื่น แล้วจะเอาเงินมาคืนให้ โดยหมอดูพยายามที่จะขอเจรจาเพื่อไม่ให้คุณยุ้ยดำเนินคดี หรือเป็นข่าวแต่คุณยุ้ยยืนยันว่า จะดำเนินคดี หากไม่อยากให้ดำเนินคดีก็นำเงินมาคืนทั้งหมดและคืนเป็นก้อนทีเดียว
ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ระบุการเสริมฮวงจุ้ย เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ไม่เห็นด้วยเรียกเงินเกินจริง เผยซินแสบางคนใช้ช่องว่างความเชื่อหากิน
เกี่ยวกับกรณีนี้ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง ซินแสปิติณัฐ พรรณวงค์ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนเป็นซินแส ขอตอบอย่างเป็นกลาง ตามหลักของฮวงจุ้ยแล้วจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1.ดูเรื่องของทิศทางองศาต่างๆ ของบ้าน รวมถึงธาตุดิน น้ำ ไฟ ทอง ส่วนที่ 2. ตามหลักธรรมเนียมที่ทำกันมานานแล้ว ซึ่งจะมีซินแส หรืออาจารย์บางท่านที่ใช้ช่องว่างตรงนี้ มาหาผลประโยชน์ที่ไม่ถูกต้อง เช่น เรื่องของกิเลน สิงโต ศาลเจ้าที่ และยันต์ต่างๆ
เพียงแต่ว่าเคสที่เป็นข่าวดัง ราคาค่าธรรมเนียมเป็นจำนวนเงินที่มากเกินไป มองว่าไม่เหมาะสม ซึ่งของเสริมฮวงจุ้ยก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน แต่การที่ต้องจ่ายเงินหลายแสนถึงหลักล้านตนมองว่าไม่สมควร เพราะส่วนตัวมองว่าไม่ได้ทำให้เปลี่ยนแปลงชีวิตมากมายขนาดนั้น
ส่วนหลักการของการวางสิงโตหรือกิเลน เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้าย เสริมในเรื่องของการค้า การเงินต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่กิจการการค้าหรือในบ้าน ความจริงแล้วราคาสิงโต หรือกิเลน ไม่ได้ราคาแพงถึงหลัก 2 แสน หรือ 1 ล้านบาท ปกติไซส์มาตรฐานราคาจะอยู่ที่ตัวละ 1-2 หมื่นบาท เท่านั้น ถ้าเป็นไซส์ใหญ่มากๆ ถวายตามศาล หรือวัด ก็ราคาไม่เกิน 7 หมื่นบาท
และที่แอบอ้างว่า สิงโต หรือกิเลน ต้องเป็นหินจากต่างประเทศ ตนเองไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่รู้ว่าหินจากต่างประเทศจะมีพลัง หรือดีกว่าหินในไทยจริงหรือไม่ รู้แค่ว่าเป็นราคาที่แพงเกินไป กรณีที่เกิดขึ้นนี้ ตนมองว่าไม่ได้เป็นการเสริมฮวงจุ้ย แต่เป็นการทำลาย ซึ่งสิ่งสำคัญของฮวงจุ้ย อย่างแรกคนที่อยากเสริม ต้องไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน ต้องไม่งมงาย และมีเหตุผล
ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียหายออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการซินแส ฮวงจุ้ยได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นวงการที่แคบ แต่สุดท้ายแล้วตนเชื่อว่า คนก็จะแยกแยะได้เอง ว่าคนไหนเป็นอาจารย์จริง หรือคนไหนทำเพราะเรื่องของธุรกิจ อยากฝากถึงคนที่มีความเชื่อต้องใช้วิจารณญาณ ถ้าเราเชื่อซินแสมากเกินไป เราอาจทำอะไรขาดสติก็เป็นได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง ซินแสหลอก ,ทำพิธีเสริมดวง ,คดีฉ้อโกง ,เสริมฮวงจุ้ย ,หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง