แม่เด็ก 8 ขวบเชื่อมจิต เตรียมยื่นอุทธรณ์ ยันไม่ได้หาผลประโยชน์จากลูก ‘ทนายอนันต์ชัย’ ชี้คำสั่งศาลถือเป็นที่สุด

ศาลสั่งห้ามนำเด็ก 8 ขวบ สอนเชื่อมจิตทุกช่องทาง พร้อมให้ พม.นำตัวพบแพทย์สถาบันสุขภาพจิตเด็กภายใน 15 วัน ให้แพทย์ตรวจ 2 ครั้ง ภายใน 6 เดือน ขณะแม่เตรียมยื่นอุทธรณ์ ยันไม่ได้หาผลประโยชน์จากลูก

จากกรณีศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชายวัย 8 ขวบ ห้ามไม่ให้แม่และพวกรวม 2 คน พาเด็ก 8 ขวบ ออกสอนเชื่อมจิต โดยห้ามนำเด็กทำกิจกรรมไลฟ์สด เกี่ยวกับการเชื่อมจิต, ห้ามเผยแพร่คำสอนทางพุทธศาสนา อันเป็นการบิดเบือน หรือผิดเพี้ยนจากหลักทางพระพุทธศาสนา และไม่ปรากฏหลักฐานในพระไตรปิฎก ห้ามใช้สื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ในการดำเนินกิจกรรมเชื่อมจิต ทั้งภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว หรือสื่ออื่น ที่เป็นการยืนยันถึงตัวเด็ก และออกคำสั่งกำหนดมาตรการ หรือวิธีการเพื่อเป็นการคุ้มครองเด็ก ซึ่งศาลมีคำสั่งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นำเด็กไปตรวจสุขภาพ ที่สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ภาคใต้ ภายใน 15 วัน หลังจากคำสั่งศาล และให้ตรวจ 2 ครั้งภายใน 6 เดือน โดยให้แพทย์รายงานต่อศาลด้วย

ด้าน น.ส.ชลลดา ชนะศรีรัตนกุล เจ้าหน้าที่ พม. จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในรายละเอียดคำสั่งศาล เราไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งหลังจากนี้ พมจ.จะร่วมกับผู้ปกครอง ในการปฎิบัติตามคำสั่งศาล โดยเฉพาะการวางแผนการเลี้ยงดูในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านสังคม การศึกษา และการนำเด็กไปทำกิจกรรม ซึ่งศาลได้กำชับผู้ปกครอง ให้ดำเนินการตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฎิบัติตามก็จะมีความผิดตามกฏหมาย

ขณะที่เพจ นิรมิตเทวาจุติ โพสต์ข้อความหลังศาลมีคำสั่งว่า “ตามที่ศาลได้มีคำสั่งห้ามพ่อแม่ แสวงหาผลประโยชน์ จากน้อง 8 ขวบ โดยห้ามนำไปทำกิจกรรมเชื่อมจิต หรือเผยแพร่คำสอนในสถานที่ต่างๆ หรือสังคมออนไลน์ เพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของศาล จึงขอประกาศว่าในการทำกิจกรรมต่างๆ ของน้อง 8 ขวบ เพื่อการเจริญปัญญา ตามแนวทางแห่งองค์พุทธะ ขอประกาศว่าพ่อและแม่ของน้อง 8 ขวบ ไม่รับค่าวิทยากร (ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ประกาศชัดเจนว่าไม่รับค่าวิทยากรอยู่แล้ว) และผลประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ

ในส่วนของการที่พ่อแม่น้อง 8 ขวบ ร่วมสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม กับลุงหมอนั้น พ่อกับแม่ของน้อง จะยังไม่ขายที่ดินส่วนที่เหลือให้กับสายธรรมแห่งองค์พุทธะ เพื่อตัดข้อครหา เรื่องการหาผลประโยชน์จากน้อง 8 ขวบ ในเรื่องที่ดินสร้างสถานธรรม คำสั่งศาลนี้มีผล 6 เดือน ถัดจากนี้ถือเป็นอันสิ้นสุดคำสั่ง

หลังจากนี้ไปอีก 6 เดือน จะพบกับรูปแบบการเจริญธรรม เจริญปัญญา ตามแนวทางแห่งองค์พุทธะ เพื่อยกระดับจิตให้ขาวรอบยิ่งขึ้นต่อไป”

ต่อมาแม่ของเด็ก 8 ขวบ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากนี้จะยื่นอุทธรณ์ เพราะดูจากคำสั่งศาลแล้ว คือ ให้ผู้ปกครองหยุดหาผลประโยชน์กับน้อง โดยการพาน้องไปเชื่อมจิต และสอนธรรมะ ในส่วนตรงนี้เดี๋ยวจะนำเอกสารหลักฐาน ไปยื่นต่อศาลเพื่อไปยืนยันว่า ไม่ได้ทำเพื่อหาผลประโยชน์จากน้อง ซึ่งเอกสารเหล่านี้เพิ่งได้มา ยังไม่เคยยื่นต่อศาล

ส่วนคำสั่งที่ห้ามไม่ให้น้องทำกิจกรรมเชื่อมจิต และสอนธรรมะนั้น ก็จะปฏิบัติตาม แต่ศาลไม่ได้ห้ามในส่วนของการนั่งสมาธิ หรือการไปทำบุญปฎิบัติธรรม จากนี้ก็จะดำเนินการไปตามคำสั่งศาล จนกว่าศาลจะมีคำสั่งใหม่ ส่วนที่เพจนิรมิตเทวาจุติได้ประกาศว่า อีก 6 เดือนพบใหม่ ก็ต้องรอติดตาม แต่จะเป็นในแนวทางการเจริญปัญญาที่ดีขึ้น

จากที่เพจเฟซบุ๊ก ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้โพสต์ ข้อความว่า “ตามพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาฯ 2553 มาตรา 174 วรรคท้าย คำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพฯ ของศาลเยาวชนฯ สุราษฎร์ธานี กรณีแก๊งลัทธิเชื่อมจิตให้เป็นที่สุด อุทธรณ์ไม่ได้ครับผม”

ทีมข่าวได้สอบถามกับเจ้าตัว ทนายอนันต์ชัย ก็กล่าวว่า ได้เปิดกฎหมาย ตามพรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัว ในวิธีพิจารณาของศาลฯ คำสั่งที่ศาลสั่งห้าม ถือว่าถึงที่สุด และมีผลถึง 6 เดือน หากครบกำหนดเวลา ยังมีพฤติกรรมไม่ดี เหมือนเดิม ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะเป็นคณะกรรมการคุ้มครองเด็กประจำจังหวัด สามารถออกคำสั่งห้ามได้ทันที เช่นกัน

เมื่อไปดูข้อกฎหมาย วิธีพิจารณาความของศาล วรรคท้าย ในมาตรา 174 ระบุว่า คำสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพ ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นที่สุด แต่ถ้าพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ศาลมีอำนาจสั่ง แก้ไขคำสั่งเดิมได้

https://youtu.be/y28RjyszBCk