สังคม

แม่เด็ก 8 ขวบ มั่นใจได้รับความเป็นธรรม ทนายชี้ศาลพิสูจน์ 'เชื่อมจิต' ได้ด้วยการสแกนสมอง

โดย paweena_c

3 ก.ค. 2567

75 views

ทนายความฝั่งเด็ก 8 ขวบ เผยหลังศาลเยาวชนฯ สืบพยานครบ 8 ปากและนัดฟังคำสั่งปลายเดือนสิงหาคม มั่นใจเป็นผลดีต่อครอบครัวน้องเชื่อมจิต ชี้ศาลฯพิสูจน์การเชื่อมจิตได้ด้วยการสแกนสมอง ส่วนแม่น้อง 8 ขวบไรกังวล เชื่อศาลให้ความเป็นธรรม ย้ำน้องแค่สอนธรรมมะแต่ถูกนำไปบิดเบือน

ทนายความเด็ก 8 ขวบ เปิดเผยหลัง ศาลเยาวชน และครอบครัว จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไต่สวนพยาน 8 ปาก คดีที่ พม. ยื่นคำร้องขอคุ้มครองเด็ก ว่า

ประเด็นหลักๆ ที่ พม.นำสืบในศาลขอคุ้มครองเด็ก คือ ต้องการให้ยุตติการเผยแพร่ธรรมะ และอ้างถึงการเลี้ยงดูโดยมิชอบ และอยากให้นำเด็กกลับเข้าสู่การศึกษาตามปกติ และอ้างว่าผู้ปกครองเป็นผู้ชี้นำในการพูดหรือสอนธรรมะ

ซึ่งวันนี้ทางศาลก็ได้มีการไต่สวนน้อง 8 ขวบ โดยไม่มีใครเป็นพรายกระซิบหรือชี้นำ ก็เป็นการพิสูจน์ได้แล้วว่าน้องสอนข้อธรรมะด้วยตัวเอง

ส่วนข้อธรรมะที่ พม.ยกพระไตรปิฎกมาอ้าง เด็ก 8 ขวบก็บอกว่า ธรรมะที่น้องสอนเปรียบเหมือนใบไม้นอกกำมือ คือ คำสอนที่อยู่นอกพระไตรปิฎก

นอกจากนี้ทาง พม. ยังขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทางเพจ นิรมิตเทวจุติ ลบคลิปที่เผยแพร่คำสอนนับ 1000 คลิป แต่ทางทนายความได้มีการค้านไป เพราะน้อง 8 ขวบ บอกว่าการสอนธรรมะก็มีหลายรูปแบบที่แตกต่างกัน และไม่มีผู้ใหญ่ชี้นำ ซึ่งเป็นความต้องการของเด็ก

ส่วนการเชื่อมจิตน้องก็เป็นคนบอกกับศาลเอง ว่าสามารถพิสูจน์ได้ต้องใช้การสแกนคลื่นสมองก่อน และหลังการเชื่อมจิตและต้องใช้เครื่องมือทั้งของไทยและต่างประเทศในการพิสูจน์จะได้เป็นธรรม

โดยวันที่ 28 สิงหาคมศาลจะนัดฟังคำสั่งศาล หากมีคำสั่งไปในทางร้ายให้ยุติการเผยแผ่ธรรมะ ต้องปฏิบัติตาม แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องที่อยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่เชื่อว่า เป็นผลดีกับตัวน้องและครอบครัว

ขณะที่แม่ของน้อง 8 ขวบ เปิดเผยว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร โดยศาลได้เบิกพยานทั้งหมด 8 รายเพื่อให้การ รวมถึงตัวน้อง 8 ขวบ ขึ้นเบิกความด้วย ก็มีการซักถามในหลายประเด็น และมีการหยิบยกภาษาบาลีมาซักถาม ซึ่งแม่บอกว่า หากมองว่าธรรมะเป็นธรรมชาติก็ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาบาลี ซึ่งญาติธรรมบางคนที่ขึ้นไปให้การก็บอกว่าสิ่งใดที่ทำให้เขา เข้าใจได้ง่ายมันก็เป็นสิทธิ์ของเขา

โดยตอนนี้ศาลยังไม่มีคำสั่งออกมา แต่จะนัดมาฟังคำสั่งอีกครั้ง ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ สำหรับในวันดังกล่าวหากศาลจะมีคำสั่งอย่างไรนั้นตนก็ไม่อยากจะคาดการณ์และไม่อยากจะไปก้าวล่วงอำนาจศาล รอให้ถึงวันที่ศาลมีคำสั่งก่อนแล้วค่อยมาพูดคุยกันดีกว่า

ในส่วนเรื่องของคดีความแม่เองก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ในกรณีที่เห็นคลิปที่มันบิดเบือนหรืออะไรที่มันไม่ใช่ก็อยากจะให้โทรมาถามก่อน ส่วนเรื่องที่ พม.มีการยื่นคำร้อง เพื่อขอคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและอยากให้น้องกลับมาเป็นเด็กปกติ โดยมีการอ้างเรื่องคำสอนต่างๆ เปรียบเทียบกับวัยของน้อง และไม่เคยมีเด็กวัยเดียวกันที่มาสอนธรรมะแล้วมีคนมากราบไหว้ แม่ก็ถามกลับไปว่าแล้วน้องไม่ปกติตรงไหน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องอาการออทิสติกของน้อง ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าพ่อกับแม่ไม่ให้ความร่วมมือ ในการที่จะตรวจนั้น ตนมองว่าจากการที่น้องได้พูดคุยกับทางผู้พิพากษาก็น่าจะประเมินอาการเบื้องต้นได้แล้ว

ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึงเรื่องที่จะมีการฟ้องกว่า 30 คดี ว่าเกิดจากการยุยงปลุกปั่นของทนายความเพื่อต้องการเงินจากครอบครัวหรือไม่ แม่น้อง 8 ขวบ บอกว่า

ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงและทนายธรรมราชมาทำคดีนี้ด้วยความรัก และเป็นคนที่ศรัทธาในคำสอนของน้อง และมองว่าญาติธรรมเองก็ได้ประโยชน์จากคำสอนของน้อง ซึ่งเป็นการเข้ามาช่วยในลักษณะของจิตอาสา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นจากศาลแล้ว แม่น้อง 8 ขวบได้เชิญ ญาติธรรม ซึ่งเดินทางมาจากหลากหลายที่ กราบสักการะขอพรศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และน้องก็เป็นคนกำหนดเองทุกอย่างว่าต้องการที่จะเดินรอบศาลหลักเมืองจำนวน 3 รอบ

ซึ่งแม่เองก็ไม่ได้เป็นคนบอกหรือสั่งให้น้องทำ และในช่วงที่มีการเดินวนรอบศาลหลักเมืองนั้นเอง ก็มีญาติติทำสังเกตุเห็นปรากฏการณ์บนท้องฟ้า โดยเห็นเมฆเป็นหน้าคน ก็คล้าย ๆ กับช่วงเที่ยงที่เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกรด ก็ให้พิจารณากันเอาเอง ซึ่งเป็นความเชื่อแล้วแต่บุคคล ซึ่งทุกคนมองว่าน้องไม่ใช่ของจริง ก็เลยมีการวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่ถ้าน้องเป็นของจริงแม่ถามอีกว่ารับกันไหวไหม


https://youtu.be/PbR-0-R1g88


คุณอาจสนใจ

Related News